วันนี้ไปเป็นวิทยากรในการประชุมปฏิบัติการเพื่อวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รู้สึกชื่นชมในความมุ่งมั่นของท่านผู้อำนวยการ ธนสิทธิ์ ศิริวรธรรม ที่นำแนวคิดในการวิเคราะห์สถานะภาพของโรงเรียน โดยใช้ผลการสอบ O-NET(ชั้น ม.6) NT(ผลการสอบระดับชาติ ชั้น ม.3) และ LT(ผลการสอบระดับท้องถิ่น ที่ดำเนินการโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ระดับชั้น ม.2) มีการคำนวณค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้(X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(SD) สัมประสิทธิ์การกระจาย(C.V.) แล้ว Plot Graph จำแนกคุณภาพกลุ่มสาระการเรียนรู้ เมื่อครูทุกคนมองเห็นแล้วว่า กลุ่มสาระตนเองอยู่ในกลุ่มคุณภาพระดับใด เช่น ระดับดีมาก(ภาษาไทย สุขศึกษา การงาน และ ศิลปะ) ระดับดี( สังคมศึกษา) และระดับปานกลาง( คือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ) ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษาตัวอย่างกราฟที่
http://gotoknow.org/file/pibool_kurupatana/view/177372
ในการประชุมช่วงบ่าย จะเป็นการสัมมนาระดมสมองเป็นรายกลุ่มสาระ เพื่อวิพากษ์สาเหตุของปัญหา และกลยุทธ์แนวทางการแก้ปัญหา หรือวางแผนพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศต่อไป โดยมีการตั้งเป้าว่า “จะต้องก้าวสู่การเป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพชั้นนำ 100 อันดับแรกของประเทศให้ได้ ในปี 2551”
จากการเห็นความมุ่งมั่นของครู-อาจารย์แล้ว ผมเชื่อว่า ในปี 2551 ....ถ้าโรงเรียนแห่งนี้ไม่ติดอยู่ในกลุ่มคุณภาพ 100 อันดับแรกของประเทศไทย ก็จะต้องมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นนอน
อาจารย์ครับผม download กราฟไม่ได้ระบบแจ้งว่าต้องใส่ username กับ password ไม่ทราบว่าจะมีวิธีอื่นไหมครับ
คุณจิรเมธ
พรุ่งนี้ผมจะไปบรรยายเรื่องนี้ให้โรงเรียนสตรีนนทบุรี เลยขออนุญาตนำกร๊าฟนี้ไปเผยแพร่ เป็นทางเลือกในการวิเคราะห์เพื่อหากลยุทธ์พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างเป็นระบบครับ ขอบคุณมากครับ แล้วจะติดตามต่อไป
ท่านดร.สุพักตร์ครับ ที่แม่ฮ่องสอน เขต 1 เราก็ใช้กระบวนการเดียวกันในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ที่สำคัญเราให้โรงเรียนกำหนดเป้า โดยวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของโรงเรียนเทียบกับค่าเฉลี่ยของระดับเขตฯและระดับประเทศ ทั้งนี้ให้โรงเรียนร่วมกันวิเคราะห์ตัดสินใจว่าจะสามารถยกระดับคุณภาพในกลุ่มสาระนั้นได้เท่าใดในปี 51 แล้วกำหนดเส้นพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนคุณภาพและไปให้ถึงเป้าหมายนั้น บางโรงเรียนวิเคราะห์เด็กเป็นรายบุคล บางโรงเรียนวิเคราะห์เป็นรายห้องเรียน ในการขับเคลื่อนศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบโรงเรียนก็จะเข้าร่วมคิด ร่วมทำ เสนอแนะในแนวทางแก้ไข เช่น การออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิด ซึ่งเป็นทางแก้หนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าทางแก้อื่น เป็นต้น อาจารย์เก
สวัสดีครับ ท่าน ดร.สุพักตร์
หลังจากได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับท่านเมื่อคราวการประชุมคณะกรรมการเขตพื้นที่นนทบุรี เขต 2 (11 มิถุนายน) ผมนำBlog ของท่านที่เขียนถึงการวางแผนพัฒนาคุณภาพ โดยใช้ O-NET, NT, LT ของโรงเรียนปากเกร็ด มาติดที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ คุณครูชื่นชมท่านมากครับ
เวลานี้ผมขยายผลและเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปอีกระดับหนึ่งครับ ผมประชุมนิเทศท่านหัวหน้าและรองหัวหน้าลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ผลลงลึกถึงแต่ละระดับชั้นเรียน และของคุณครูแต่ละท่าน มีการให้ระดมพลังสมองเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาตามบริบทของแต่ละกลุ่มสาระฯ ครับ ที่สำคัญผมนำเรื่องการสร้าง"ห้องเรียนคุณภาพ" เข้ามาผนวกรวมขับเคลื่อนไปในคราวเดียวกันเลยครับ งานท้าทายครับ เหนื่อยและหนักหนาพอสมควรแน่นอน แต่ผมจะมุ่งมั่น
โอกาสต่อไปจะเขียนมาคุยกับท่านอีกนะครับ
*** ระลึกถึงท่านครับ ***
เรียน ผอ.ธนะสิทธิ์
ทราบผลการสอบ LT ชั้นป.5 ของโรงเรียนแล้วอยากร้องไห้ เพราะต่ำเหลือเกิน ไม่สมกับที่ตั้งใจสอนไว้เลย สอนด้วยกิจกรรมการคิดวิเคราะห์ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ จัดหาจัดทำแบบฝึกที่สนองตอบต่อการคิดวิเคราะห์ แต่ก็ไม่ได้ดังใจท้อแท้ใจมาก ข้อสอบ LT แต่ละ สพท.เหมือนกันหรือไม่คะ มีความรู้สึกว่าข้อสอบยากไปสำหรับเด็กโดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ บางครั้งอยากจะลองนำข้อสอบมาวิเคราะห์เหลือเกินค่ะ จะลองพยายามนำข้อบกพร่องในปีนี้ไปพัฒนาใหม่ปีหน้า
อ.มะลิวัลย์
ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบ วันนี้เห็นผลสอบฉบับเต็ม ๆ (วันก่อนฟังจาก ผอ.แค่คะแนนต่ำทางโทรศัพท์ค่ะ)เลยวิตกกังวลไม่กลัวจะถูกตำหนิหรือมีผลกระทบเพราะจะได้รับสิ่งตอบแทนอะไรหรอก เพียงแต่กังวลใจตำหนิตัวเองว่าสอนนักเรียน ถ่ายทอดให้พวกเขาไม่เข้าใจหรืออย่างไร จะหาวิธีการอย่างไรดีในปีหน้าเพราะได้ทำทั้งสอนด้วยเกม สอนด้วยอินเตอร์เน็ต ดูดีวีดี ฝึกทำข้อสอบทางเน็ต สร้างแบบฝึกหัด ทำให้คิดได้ว่าวิธีการเหล่านั้นอาจไม่ดีพอ ได้วิเคราะห์ผลการสอบอย่างถ้วนถี่ พิจารณาจากค่าเฉลี่ยร้อยละ เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยของเขตพื้นที่ เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยปีที่ผ่านมา ทำกราฟเปรียบเทียบปรากฎว่าคะแนนค่าเฉลี่ยร้อยละสูงกว่าปีก่อนยกเว้นวิชาภาษาไทยที่ลดลงเล็กน้อย แต่ค่าเฉลี่ยร้อยละยังไม่เป็นที่น่าพอใจต้องได้รับการพัฒนา พิจารณาคะแนนรายบุคคลปรากฎว่านักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ (LD) จำนวน 2 คนในห้องเรียนกลับได้คะแนนแต่ละวิชามากกว่าเด็กปกติ เป็นที่น่าแปลกใจมากเป็นเช่นนี้มา 2 ปีการศึกษาแล้วค่ะ ปีการศึกษาหน้าจะลองวิธีการสอนใหม่ ๆ ขอบคุณค่ะ ไม่ยอมแพ้อยู่แล้วจ้า