วันที่ 20 – 21 ม.ค. 53 ผมเดินทางมาที่บ้านพุเข็ม อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีครับ มาร่วมกิจกรรมการปฐมนิเทศจนท.ใหม่ของที่ทำงานนอกสถานที่ให้จนท.ได้นอนพักค้างแรมและทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านที่นี่
บ้านพุเข็มเป็นหมู่บ้านที่น่าสนใจครับ หมู่บ้านตั้งอยู่ริมอ่างน้ำขนาดใหญ่เหนือเขื่อนแก่งกระจาน มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชาวบ้านที่นี่ประกอบอาชีพเป็นชาวประมงและให้บริการนักท่องเที่ยวที่มาพักเป็นหมู่บ้านที่จัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน แบบโฮมสเตย์ครับด้วยบรรยากาศที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม หมู่บ้านที่นี่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ครับต้องใช้พลังงานจากแผงโซล่าเชลล์(ขณะเดียวกันเบื้องหลัง "ตำนานคนหลังเขา"ของผู้คนในหมู่บ้านพุเข็มแห่งนี้ก็น่าสนใจ น่าศึกษาค้นหาความเป็นมาเป็นไปของตำนาน "คนหลังเขา บ้านพุเข็ม"แห่งนี้ครับ)
กิจกรรมสำคัญวันนี้คือการปีนเขาพุเข็มครับ เขาพุเข็มเป็นเขาที่ยู่ใกล้หมู่บ้าน สูงชันพอสมควรพอเหมาะสำหรับการได้สัมผัสชีวิตที่ต้องใช้พลังกาย พลังใจและพลังความเป็นทีมในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และมีความมุ่งมั่นป่ายปีนอย่างเต็มเปี่ยมจึงจะนำพาไปสู่เป้าหมายที่ยอดเขาได้ เราออกเดินทางประมาณ 9 โมงเช้า ไปถึงยอดเขาเอาตอนเที่ยงวันและรับประทานอาหารลางวันที่นั่น(ต้องนำไปเองครับ)
ถึงยอดเขาเราไปทานข้าวมื้อกลางวันและไปพูดคุยกัน เป็นสุนทรียสนทนาย่อมๆบนยอดเขาครับ ได้บรรยากาศที่เยี่ยมยอดจริงๆครับ บ่ายๆจึงเดินทางลงจากเขาอีกด้านหนึ่งของภูเขาและใช้เวลาพอๆกันกับตอนเดินทางขึ้น ประมาณ บ่าย 3 โมงจึงเดินทางถึงหมู่บ้าน
ตอนเย็นเราให้แต่ละทีมทำอาหารกันเองแล้วมาทานร่วมกันแบบรอบกองไฟ ....หลังทานอาหารเย็นคงได้เปิดวงสุนทรียสนทนาอีกรอบครับ
มาสัมมนาครั้งนี้ทำกับข้าวทานกันเองครับ โชว์ฝีมือได้เต็มที่เลยครับ
สำหรับองค์กรต่างๆที่สนใจจะใช้กิจกรรมแบบการเดินป่าผจญภัยเพื่อสร้างสัมพันธภาพในหมู่พนักงานอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว บ้านพุเข็ม อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรีเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ สำหรับบรรยากาศรอบกองไฟจะเล่าต่อครับ
ขอบคุณครับพี่นงนารถที่มาแวะเยี่ยม
กำลังเตรียมอาหารมื้อเย็น และเตรียมรอบกองไฟครับ
เตรียมรอบกองไฟกับอาหารมื้อพิเศษ พึ่งจะได้หยกๆจากอ่างครับ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับครูคิม
น่าสนุกนะคะ
ปลาตัวโตมากเลย
ตัวเดียวคงจะอิ่มหลายคนทีเดียว
สวัสดีครับคุณมณีวรรณ
สวัสดีครับ..............ง อ่านแล้วนึงถึง เมื่อ 5 ปี ที่แล้ว ไปปฐมนิเทศ จนท.พอช. ณ บ้านผู้ว่าน
สวัสดีครับคุณรุสดี
"เมื่อเราเข้าไปอยู่ในป่าลึก ธรรมชาติในป่าจะทำหน้าที่ดูดซับสิ่งร้ายๆในตัวคนเราออกมา และธรรมชาติจะเสริมพลังใหม่ในด้านดีกลับคืนมาให้เรา"
ลุงทองมัคคุเทศน์นำทางเคยบอกไว้ ผมเคยบันทึกไว้ในhttp://gotoknow.org/blog/suthepphutai/316092
ขอบคุณครับที่มาแวะเยี่ยม
พี่สุเทพ เสียดายที่ผมไม่ได้เข้าไปปีนเขาด้วย (แต่ใจหนึ่งก็แอบดีใจอยู่)
เห็นบรรยากาศแล้วชอบมากคะ
หากต้องการไปพัก จะติดต่ออย่างไรคะ
สวัสดีค่ะท่านเทพฯ
หายเงียบไปหลายวัน สบายดีนะคะ
มาทายทักบอกว่ายังระลึกถึงค่ะ
น่าสนใจจังค่ะ สมาชิกคงประทับใจมากมาย
ยิ่งครั้งแรกได้อยู่กับชาวบ้านด้วยแล้วยิ่งอยู่ในทรงจำ
แสดงความยอนดีกับเจ้าหน้าที่ใหม่ทุกคนนะค่ะ น่าสนุกมากๆ เลย
สวัสดีครับคุณฟ้า
ที่พุเข็ม บนยอดเขาฟ้าสวยมากครับ และยิ่งกลางคืนฟ้ายิ่งสวย
บ้านพุเข็มเป็นหมู่บ้านในโครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ( Home Stay) ครับ โครงการนี้เกิดจากปัญหาเรื่องชาวบ้านพุเข็มเริ่มหาปลาไม่พอเลี้ยงสมาชิกในครอบครัว นับวันปลาเริ่มหายาก และจำนวนปลาลดน้อยถอยลงไปทุกขณะ แนวทางการแก้ไข ปัญหาเบื้องต้นคือ
1. ชุมชนบ้านพุเข็มต้องหาแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลาถาวรเพื่อให้ปลาได้ขยายพันธุ์
2. ชาวประมง หันมาทำอาชีพด้านการเกษตร ทำสวน ทำไร่ และ ทำเรื่องการทำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทดแทนการทำประมง
ปัจจุบันบ้านพุเข็มเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวที่รักความสงบแวะเข้ามาพักที่โฮมสเตย์บ้านพุเข็มอยู่เป็นประจำ นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ที่บ้านพุเข็มยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอีกด้วย นอกจากนี้ที่บ้านพุเข็มยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกได้แก่ ตกปลา ชมสวนเกษตรชาวบ้าน เดินป่า ศึกษาธรรมชาติ ล่องเรือชมต้นน้ำเพชร ล่องเรือชมเขื่อนแก่งกระจาน สถานที่แห่งนี้จึงไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว บ้านพุเข็มใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซล จึงมีไฟฟ้าใช้อย่างจำกัดต่อคืน
สอบถามรายละเอียดได้ที่
ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านพุเข็ม (จองที่พักโฮมสเตย์)
เบอร์โทรศัพท์ 086-1785365 086-1785365
พี่แหลม (สอบถามข้อมูลต่างๆ) เบอร์โทรศัพท์ 086-167-6353 086-167-6353
หรือเข้าไปดูได้ที่ http://www.kaengkrachan.go.th/phukem/aboutphukem.html และ
http://www.annaontour.com/province/petchaburi/homestay-banphukem.php
ขอบคุณครับ
ภาพจากhttp://www.cablephet.com/board/n_view.php?nc_id=24&n_id=2442
ถึงเพื่อนใหม่ทุกท่าน....ที่มีประสบการณ์ร่วมกันที่บ้านพุเข็ม
ช่วงนี้คุณประยงค์กำลังประสานงานกับสถาบันเพิ่มผลผลิต
ว่าอาจมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่องานสาธารณะประโยชน์ที่บ้านพุเข็ม
คิดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือน มี.ค.ครับ
สวัสดีครับท่าน พี่สุเทพ
อ่านเรื่องราวของ พี่ท่านทีไร ทำให้นึกอยากเขียนขึ้นมาทันทีครับ
และนึกปลื้มใจไม่ได้นะครับ ที่การปฐมนิเทศ ออกมาดีเกินคาดครับ
เหมือนการได้ซารท์แบตให้กับตัวเองอีกครั้งที่ได้มีโอกาสเดินป่า
เห็นได้ข่าวว่า ครั้งต่อไปต้องยกระดับมากกว่านี้นะครับท่านพี่
กฎดันคนจัดเลยนะครับ
มีอีกหลายที่ที่น่าสนใจ ไว้ชวนพี่ไปสำรวจก่อนนะครับ
ขอเวลาตั้งสมาธิหลังรับปริญญาเสร็จก่อนนะครับ
จะเขียนมาแลกเปลี่ยนกันครับ
ฝน
สวัสดีครับฝน
คิดถึงบทเพลง "คนหลังเขา"ที่ได้ร้องร่วมกันในบรรยากาศสุนทรีสนทนาเมื่อค่ำคืนคืนวันนั้น เพลงนี้เป็นเพลงคุณขอมาโดยคุณหมูแดงครับ
.........
ดินแดนสุดแสนไกลกว้างใหญ่สุดสายตามีความงามเหลือคณา คล้ายดังเป็นเมืองแมน
หมู่ปลาว่ายแหวกเสียงนกร้องระเริงรำ ขุนเขาทะมึนดำเสียดเมฆ อยู่เรียงราย
มีผู้คนอาศัยตามเชิงชายเขาทุกค่ำเช้า หากินพอเลี้ยงกาย
จับสัตว์หาปลาปลูกพืชผักพอกันตาย เลาะริมชาย ธารน้ำที่เชิงภู
มีใบบอกจากทางการให้ย้ายบ้านไปหลังเขาจะสร้างเขื่อนเพื่อบรรเทาเอาน้ำใช้ยามกันดาร
ทิ้งแหล่งน้ำอันอุดมซานซมสู่หลังเขา น้ำจากเขื่อนท่วมนาเราบอกกล่าวไร้คนเหลียวแล
เจริญแล้ว มีเขื่อนกั้นเก็บกักน้ำมีสนาม กอล์ฟสวยเป็นหลักฐาน
บังกะโลใหญ่โต ทั้งบ้านพักพนักงาน เป็นสถานพักผ่อนของคนเมือง
สุดหลังเขา คละเคล้าด้วยน้ำตาคน ที่แสนจนจนยาก ลำบากกาย
จะแล้งฝนก็ทนทุกข์ นิรันดร์ไป คือความหมายที่กล่าวถึง คนหลังเขา
คือความหมาย ที่กล่าวถึงคนหลังเขา คือความตาย ที่มาถึง คนหลังเขา
.....
เป็นบทเพลงที่ประทับใจมากครับ สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่พวกเราได้เรียนรู้จากชุมชนบ้านพุเข็มแห่งนี้ เพลง“คนหลังเขา” นี้ประพันธ์เพลงโดย อ.มานพ รัตนพันธากุล อดีตรอง ผอ.โรงเรียนเขาใหญ่พิทยาคม ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
อ.มานพ รัตนพันธากุล ท่านผู้นี้เป็นคนอยู่เบื้องหลังศิลปินดังแนวเพื่อชีวิต ผู้สร้างสรรค์ให้กับศิลปินหลายท่านและมีผลงานเพลงจนโด่งดังมากมายหลายค่ายหลายเนื้อหา ผมทราบมาว่า นอกจากท่านผู้นี้จะเป็นผู้ประพันธ์เพลงคนหลังเขานี้แล้ว(มีทั้งวงด่านเกวียน(ในชื่อเดิมในชุดแรกเพราะมาก)และคาราบาวเคยนำไปร้องในชุด “กัมพูชา”) ท่านยังเป็นเจ้าของบทเพลง ชาวนาอาลัย(ขับร้องโดย สีเผือก อิสรา อนันตทัศน์ วงคนด่านเกวียน โดยชื่อแรกใช้ชื่อเพลงว่าเพลง “ชาวนายังไม่ตาย”) นอกจากนี้ยังมีเพลงเขาใหญ่ เพลงคิดถึงแม่ เพลงมรดกโลก-มรดกเราฯ และท่านยังเป็นผู้ก่อตั้งวงฟูนัน(เคยฟังนานมาแล้วเป็นเทป) ในผลงานเพลงชุด เส้นชัย มีเพลงรัตติกาล, เคียวไร้คม, ก่อนตะวันจะสิ้นแสง ซึ่งคนในแวดวงเพลงเพื่อชีวิต(รุ่นเก่า)จะรู้จักกันดี และที่สำคัญท่านยังเป็นคนที่ออกแบบตราโลโก้ คือเป็นผู้ให้กำเนิดตราสัญลักษณ์เขาควาย แก่วงดนตรี “คาราบาว” อีกด้วย (ผมไม่แน่ใจว่าท่านเป็นคนคนเดียวกันกับ “พระไม้” หรือเปล่า)
อ.มานพ รัตนพันธากุล ท่านได้จากไปแล้วครับ ด้วยโรคมะเร็งตับเมื่อต้นปี 52ที่ผ่านมา โดยท่านได้ทิ้งบทเพลงดังชิ้นสุดท้าย “มรดกโลก-มรดกเราฯเขาใหญ่” ไว้เป็นอนุสรณ์
สำหรับ "คนหลังเขา"คนนี้กำลังคิดอะไร รู้สึกอย่างไรและกำลังบันทึกอะไรอยู่บอกกล่าวเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
และสัญญาที่มีให้กับเพื่อนๆต่อหน้าสักขีพยานสิ่งศักดิ์ทั้งหลายวันนั้น....
แวะมาเยี่ยม เป็นการปฐมนิเทศเจ้าหน้าที่ที่ทันสมัยจังค่ะ วิวสวยบรรยากาสดี น่าแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปีนี้มีน้องใหม่มาร่วมงานกับพอช เป้นจำนวนมาก จำคำกล่าวที่พี่สินพูดในงานสัมมนาเจ้าหน้าที่วันก่อนว่า ทำอย่างไรคนรุ่นพี่จะสามารถถ่ายทอดอุดมการณ์การทำงานสู่คนรุ่นหลังให้ได้ และทิศทางของการพัฒนาขององค์กรพอชข้างหน้าคือ " คนมีคุณธรรม งานมีคุณภาพ " ซึ่งก็คงต้องช่วย ๆกันนะคะ
สวัสดีค่ะ
เมษานี้มีแพลนจะไปเขาย้อยพอดีเลยค่ะ
ต้องใช้เวลาประมาณกี่วันค่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกดี ดี ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ทิศทางของการพัฒนาขององค์กรข้างหน้าคือ "คนมีคุณธรรม งานมีคุณภาพ "
ยินดีครับพัชณี ต้องร่วมแรงร่วมใจกันครับ คนละเล็กคนละน้อยสะสมกันไป มีความเป็นพี่เป็นน้อง มี "ความเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง"
วันนี้(30 ม.ค.53)พี่พึ่งกลับจากการเข้าร่วมสัมมนา "ภูฐาน ดินแดนแห่งความสุขในสังคมโลกยุคใหม่"จัดขึ้นที่ห้องประชุม 105 อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ คณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ งานนี้จัดขึ้นโดยคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯร่วมกับSchool for Wellbeing และสำนักพิมพ์สวนเงินมีมา
บรรยากาศของวันนี้จึงเป็นบรรยากาศแห่งความสุข ได้เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีและเพลงพื้นบ้านภูฐาน กับจิมมี ดรุกปา(คนนี้เปรียบกับ จรัญ มโนเพชร บ้านเรา)แถมยังได้เต้นรำพื้นบ้านกับทีมงานจากภูฐานอีกด้วย รวมทั้งมีการแสดง "ลำนำ ในดินแดนแห่งความสุข"(คล้ายอ่านบทกวี)กำกับการแสดงโดย รัศมี เผ่าเหลืองทอง
สำหรับการเสวนา "ความสุขมวลรวมประชาชาติ(GNH):โลกจะตื่นสู่ความฝันของภูฐานได้จริงหรือ"มีวิทยากรเช่น ดาโช คินเลย์ ดอร์จิ:ปลัดกระทรวงการสื่อสารและคมนาคม เป็ก ดอร์จิ:ผู้อำนวยการศูนย์ภูฐานเพื่อประชาธิปไตยฯรายละเอียดจะบันทึกในตอนต่อไป
พี่คิดว่าองค์กรเราก็ควรเพิ่มในมิติ "ความสุขร่วมกันของคนทำงานและชุมชนเข้าไปด้วย"จะได้เป็น "ความสุขมวลรวมร่วมกัน"
ขอบคุณครับที่มาทักทาย
สวัสดีครับคุณครู
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับคุณณัชชาเฉลิมกลาง_NatchaChalermklang
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับพี่
แค่อ่านก็สนุกแล้ว ถ้าได้ร่วมเดินทางด้วยจะขนาดไหน
พักนี้ผมวุ่นวายพอดูครับ จึงไม่ได้เข้ามาบ้าย G2K
จึงมิค่อยได้พบปะกับพี่น้อง พอช.
แวะมาคารวะพี่ครับ
สวัสดีครับหนานเกียรติ
หนานเกียรติครับ สำหรับท่านนี้เป็นฝ่ายเสริฟและชิมครับ...ปีนเขาก็ไม่ได้ปีนครับสงสัยยังไม่แน่ใจตัวเองเลยแกร้งตามมาไม่ทันเวลาเขาปีนเขากันครับ
สวัสดีปีใหม่ค่ะท่านเทพฯ
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้ท่านเทพฯ และครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรง เปี่ยมด้วยกำลังใจ อิ่มเอมรักมิตรภาพ สมหวัง ดั่งใจปรารถนาค่ะ