"ตัดไผ่แบ่งลำมาใช้ ไม่ไปล้างกอ อย่างนี้พอไหว
ไม่รู้แบ่งปัน มันก็เดือดร้อนทั้งโลกอย่างนี้แหละ"
คนอยู่กลางดิน ดิ้นกลางดอน นอนผะผ่าว
ฟังเรื่องราวเรื่องโลกร้อน นอนเหงื่อซึมไหล
จะปรับตัวปรับใจยังไง ก็ยังซึมกะทืออยู่นั่นแล้ว
ชีวิตนี้ จะเจอแต่กาแฟร้อน ไม่เจอกาแฟเย็นบ้าง ให้รู้ไป
คำว่าร้อน วันนี้ แล้งวันนี้ ไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว
ร้อนก็ร้อนๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ไม้ทนแล้ง ลำดวนป่ายังใบกรอบ
ต้นตาลเล็กๆ ที่มีรากหยั่งลึกมากก็ยังแห้งคาผิวดิน
จึงคิดทบทวน สาเหตุน่าจะมาจากอะไรกันแน่
แต่แล้วก็หาข้อสรุปไม่ได้
เพราะคำว่า ร้อน แล้ง ของแต่ละคน
มีความหมาย ความเข้าใจ ไปตรงกัน
ร้อน ของคนที่นั่งห้องแอร์
กับร้อนของตาแก่ที่นั่งเหงื่อโซมอยู่ในป่า
แตกต่างกันแน่นอน
เดินช้าๆ หายใจเบาๆ แวะเข้าข้างกอไผ่
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด
คำตอบอยู่ที่นี่เอง..
ถ้ามวลมนุษยชาติ รู้จักการแบ่งปัน
อยู่กับธรรมชาติ อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
แบ่งกันอยู่ แบ่งกันกิน แบ่งกันใช้
เหลือส่วนใหญ่ไว้ให้ดำรงรักษาสภาพความสมดุลทางธรรมชาติ
ป่าไม้หาย คนหาย ใจหาย
ถ้าคิดไม่ได้! ตอนตายไม่น่าจะเผา
เพราะตอนอยู่เอาแต่ ตัด ตัดไม้ ทำลายป่า
เรามาปลูกต้นไม้กันเถอะ ต้นอะไรก็ได้
ต้นรัก ก็น่าปลูก ต้นชัง ก็ควรปลูก !!
หมายเหตุ : ก่อนหน้านี้โดนประท้วงว่า..
ตอนนี้หิวข้าวตาลายเห็นตัวหนังสือติดกันนึกว่า เป็นถั่วลิสงคั่วไปซะแล้ว
จึงขอนุญาตเปลี่ยนรูปแบบการเขียน ช่องไฟห่างๆ ตัวใหญ่ๆ ก็ไม่แน่ใจว่าจะเห็นเป็นอะไรอีก ถ้าเห็นเป็นแกงบ่าหนุนใส่ซี่โครงสุกร อร่อยแน่ อิ อิ.
อิอิ
ตัวหนังสือใหญ่ชัดเจน ไม่ถึงกับเท่าหม้อแกง..ร๊อก
คนแก่คนเฒ่าไม่ว่า ลุงว่าป้า อ่านสบาย อิ.อิ.