วิชาย่องเบาเขย่าความคิด บทที่ 1


 

วิชาย่องเบาเขย่าความคิด บทที่ 1

หลักการและเหตุผล

: ความเปลี่ยนแปลงในสังคมโลก ผกผันหมุนเวียนรอบจัดเร็วขึ้นๆ ทำให้โจทย์สังคม โจทย์ชุมชน โจทย์ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างยากที่จะควบคุมได้ ถ้าเราอยู่อย่างง่องแง่งเฉื่อยแฉะ วิธีพัฒนาการเรียนรู้ในสังคมปรับตัวช้า ไม่เปลี่ยนแปลงวิธีเรียนวิธีสอนให้กระโดดโลดแล่นไปแสวงหาความรู้ในโลกกว้างด้วยตนเองได้ เราก็จะอยู่กับความรู้เก่า ความคิดเก่า ความเข้าใจเก่า ทฤษฎีเก่าหมกเม็ด

ความรู้เก่า ไม่เหมือนเครื่องลายครามแน่นอน มีประโยชน์แต่ก็ต้องทำการปัดฝุ่นหรือใส่ตะกร้าล้างน้ำ ปรับปรุงเนื้อหาและวิธีเรียนให้ทันสมัย สนุก และน่าสนใจ เหมือนที่โรงเรียนมงคลวิทยา จังหวัดลำพูน เปิดค่ายฤดูร้อนอยู่ในขณะนี้ เป็นอย่างไรรึ ก็เปิดไปอ่านบล็อกคุณครูเมษา สิครับ..จะทราบว่าเรียนอย่างมีความสุข สนุกด้วยกันทุกฝ่าย ได้ความรู้ที่มีชีวิตชีวาเป็นฉันใด..

 คุณครูเมษา

“ วันนี้พาเด็กๆไปเดินดูสวนของคุณครูอาราม

เด็กๆตื่นตาตื่นใจกันน่าดู

เด้กน้อยคนนึง เจอหนอนน้อยตัวนึง

อุ้มชูด้วยความทะนุถนอม แล้วก็ร้องเพลงให้หนอนน้อยฟัง

เป็นภาพที่น่าเอ็นดูเชียวค่ะ ”

กระบวนการ : ผู้เรียนมีความรู้ในตัวอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ผ่านการเรียนรู้ในระบบ ผ่านการศึกษาวิจัยมาทุกระดับ สิ่งเหล่าเป็นต้นทุนพื้นฐานที่เหมารวมว่ามีชีวิตในการเรียนมาแล้ว70% ถ้ามาเติมเต็มในส่วนวิธีเรียนจากโจทย์ความจริงในสังคม จะเกิดกระบวนการปรับความรู้ให้สอดรับกับสถานการณ์จริง ที่สะท้อนให้เห็นว่า สังคมนี้อยู่กับความรู้อะไร ใช้ความรู้จากที่ไหนมาพัฒนาการ ผลเป็นอย่างไร ไล่ตามท้ายไฟแดงประเทศอื่นทันหรือเปล่า มีแผนแม่บทที่จะสร้างสังคมอุดมปัญญาได้จริงหรือ คำตอบเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อคนไทยปรับตัวมาเป็นผู้เรียน สนใจความรู้ ตระหนักในอานุภาพของความรู้

เผยแพร่แนวคิด ..ใครอยู่ที่ไหนต้องเรียนรู้ที่นั้น ศึกษาวิจัยใช้ความรู้พัฒนาพื้นที่พื้นฐานรอบด้านด้วยกระบวนการ เรียนให้รู้ อยู่ให้เห็น พัฒนาให้เป็น เลิกยื่นจมูกไปให้คนอื่นสนตะพาย ฝรั่งไม่ใช่เทวดา เพียงแต่เขาศึกษาเรียนรู้ด้วยชีวิตจริง

ผู้ก่อการ : มหาชีวาลัยอีสาน

ภาควิชา : ชีวิตในการเรียนรู้ ด้วยการจัดการความไม่รู้

แผนกวิชา : บริบทเศรษฐกิจพอเพียงฉบับคนแซ่เฮ

หมวดวิชา : เดินเรียน เขียน-คิด-จิตจดจ่อ

ผู้ร่วมบรูณาการหลักสูตร : พี่ป้าน้าอาคนสกุลเฮ และสมาชิกชาวBlog

ครูผู้สอน : ธรรมชาติ ชุดความรู้ที่อยู่ในธรรมชาติ

ผู้ประเมินหลักสูตร Conductor. ลุงเอก สถาบันพระปกเกล้า เจ้าเล็กดีรสโต

ผู้เรียนรุ่นหมูไม่กลัวน้ำร้อน :โต เทพ ลูกศิษย์ อ.แป๋ว คณะเกษตร ม.ขอนแก่น

ผู้สนใจเรียน : ยังไม่เปิดรับสมัคร

ผู้ให้กำลังใจ : อยู่ข้างล่าง ครับ

ลุงเอก
เมื่อ ศ. 21 มี.ค. 2551

พ่อครับหลักสูตรผมนั้นออกไปทางเดินเรียนอย่างพ่อว่า ผมอยู่นอกห้องสองในสามของหลักสูตร กำลังเตรียมพื้นที่กันว่าจะไปตรงไหนทำอะไร สงสัยจะสนุกจนเหนื่อย

ผมอยากเปิดหลักสูตรอย่างนี้ที่สวนป่า แรกๆสัก 3-5 วัน ถ้าโดนก็ 5-7 วัน

จะลองดูแล้วโปรโมท เศรษฐกิจพอเพียงรุ่นเดินเท้าครับ

บทเรียนมาจากไหน? ยกตัวอย่างวิชาเอื้ออาทร 1

จันทรรัตน์
เมื่อ ศ. 21 มี.ค. 2551

  • นึกแล้วเชียวว่าถูกพาดพิง..แบบนี้ต้องแย่งไมค์...อิอิ
  • ครูดวงพรสอนค่าง...ชอบจังเลยค่ะ..555
  • ครูบาคะ ลูกฟักที่ห้อยโตงเตงบนธนาคารปลาจมน้ำไปหรือยังคะ

เมื่อมีคำถาม

ต้องหาคำตอบ จะหาโดยวิธีนั่งยกเมฆก็คงไม่เหมาะ นอกจากเดินๆย่องไปสอดส่องหา สิ่งที่น้าสร้อยถามว่า..มันเป็นยังไง พอไปเจอก็จะเจ๊ะเอ๋ ไม่ใช่มะนาวโตงเตง แต่เป็นลูกน้ำเต้าจมน้ำจริงๆด้วย ตามที่อาจารย์สร้อยเห็นมันใกล้เคียงกันมาก ระหว่างฟักกับน้ำเต้าพันธุ์นี้ เถาว์ใบก็คล้ายกัน ต้องสังเกตใกล้ๆ

วิธีตอบคำถามให้น่าสนใจ : และเชื่อมต่อไปถึงการเรียนรู้

ไปพิจารณาใกล้ๆ ถ่ายภาพในสภาพจริง เติมความรู้เข้าไป อธิบายออกมาเป็นชุดความรู้เบื้องต้น..อาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาเห็นลูกน้ำเต้าโตงเตงใกล้จมน้า ทราบว่าที่นี่ฝนตก นึกย้อนไปถึงภาพที่ได้มาเห็น เป็นห่วงใย ถามว่าฟักลูกนั้นจมน้ำหรือไม่หนอ

1 ถ่ายภาพมาอวด แทนที่จะเขียนบอกเล่าเฉยๆ ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์

2 ปรับความเข้าใจ ที่เมตตาห่วงใยเจ้าโตงเตงนั้นเป็นน้ำเต้า ไม่ใช่ฟัก

3 เล่าต่อว่าน้ำเต้าเถาว์นี้ เกิดมาท่ามกลางความแห้งแล้งได้อย่างไร? เราไม่ได้ปลูก เมล็ดร่วงหล่นไปตรงที่มีน้ำล้นจากแท็งค์สูง มีความชื้น ต้นน้ำเต้าดิ้นรนที่จะงอกเงยขึ้นมาเอง แสดงว่าทุกเรื่องธรรมชาติจัดการกันเองเงียบๆอยู่แล้ว

4 นำไปสู่บทเรียนที่ชิมได้ :น้ำเต้านี่นะน้าสร้อย ยอดอ่อนเอามาผัดน้ำมันอร่อยมาก ผลอ่อนขนาดกำปั้น กินดิบจิ้มน้ำพริกอ่องอร่อยกว่าแตงกวา เอามายำ ใส่สลัด แลงเลียง หรือผัดก็ได้ ผลโตขนาดข้อแขนเด็ก เอามาหั่นบางๆชุบแป้งกิใส่ไข่นำไปทอดให้เหลืองหอม จิ้มกับซ๊อสเป็นอาหารจานร้อนมื้อว่างพิเศษได้ง่ายๆ ผลแก่เอามาเจาะข้างทำที่ใส่ของกระจุกกระจิก (เอาลูกที่เห็นในภาพ ปล่อยให้แก่จะเก็บไว้ ประดิษฐ์เป็นของฝากจากใจให้น้าสร้อยก็แล้วกันนะจ๊ะ)

5 นำความรู้ออกไปสู่ชีวิต ผลน้ำเต้าเหล่านี้ ปล่อยให้แก่จัด เมล็ดภายในนำบีบน้ำมันทำยา นำไปปลูกขยายได้หลายร้อยกอ ผลแก่เอามาทำสิ่งประดิษฐ์ ทำรังให้นกอาศัย ทำกล่องโคมไฟ ทำภาชนะใส่อาหาร ฯลฯ ทำให้เห็น ..ร่องรอยความเป็นไปของความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด

6 สอนวิชาจัดการสิ่งที่รู้

: เราจะเอาความรู้อะไรใส่ลงไปในน้ำเต้า

: ใส่แล้วเกิดผลประการใด

: ใส่แล้ว เกิดการใส่ใจนำไปสร้างชุดความรู้ใหม่รึเปล่า

7 ยั่วเหย้าความรู้ : วันนี้เป็นวันที่บรรยากาศดีที่สุดในสวนป่า เริ่มตั้งแต่อากาศสะอาด สรรพสิ่งที่อยู่รอบตัวสะอาด ความชื้นชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ลมโชยหอบกลิ่นดอกโมกที่แข่งกันบานสะพรั่งในคืนเดียวอย่างน่าอัศจรรย์ ต้นไม้ผลิในอ่อนเขียวขจี ทุกสิ่งที่มีที่เห็นเป็นไปอย่างสดชื่นมีชีวิตชีวา ถ้าน้ามาคืนนี้ จะเอาเสื่อไปปูข้างกระต๊อบ นั่งคุยกันท่ามกลางแสงจันทร์กระจ่าง ฟังเสียงแมลงโหมโรงดนตรีป่า จะเป็นปรากฏการใหญ่ ระหว่าง..

“จันทรรัตน์ กับ จันทราในนภา ไผเป็นไผ”

18. จันทรรัตน์
เมื่อ ส. 22 มี.ค. 2551 @ 09:34

ต่อไปนี้คือเรื่องของ อิอิ..ของแถมสำหรับคนชอบ อิอิ

อิอิ คือ อิอิ และอิอิ

ไม่อิอิ คือไม่มี ที่อิอิ

คิดอิอิ ต้องอิอิ ทำ อิอิ

มัวอิดออด อด อิอิ จะเสียจาย....อิอิ

8 สรุปเบื้องต้น ถ้าสอนวิชาเมตตาศาสตร์เชิงกระบวนการลักษณะนี้ จะโยงไปสู่เรื่องการเปิดประเด็นชีวิตแห่งการเรียนรู้ได้ไม่จำกัด ได้รู้ได้เห็นความตื่นตัวตื่นใจในชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ

:ผึ้ง แมลงแห่งวินัยในการทำมาหากิน

:นกกระปูดร้องเรียกหาคู่ตั้งแต่ตอนตี4 ที่รักจ๋าเธออยู่ไหน? ปู๊ด ปูด ปูด

:เช้าๆ นกเขา นกแซงแซวหางบ่วงบินล้อลม 2-3 ฝูง

:สรรพสิ่งต้องการน้ำ แสงแดด อาหาร นอกจากคนอาบแดดแล้ว สิ่งมีชีวิตก็อาบแดดเช่นกัน เพียงแต่ไม่ยุ่งยากหาชุดแต่งวันพีช ทูพีช เหมือนสาวๆที่เกาะภูเก็ต อย่างที่อัยการชาวเกาะเล่า..

9 การเชื่อมโยงสะพานความนึกคิด ไปเกี่ยวโยงกับวิชาความรู้ ดึงเอาใจที่อยากรู้ ออกมารู้วิธีละเลงใจ

คนชอบวิ่ง
เมื่อ ศ. 21 มี.ค. 2551

  • พวกติดบล็อกนี่น่าจะนัดกันไปถ้ำกระบอก  อิอิ
  • ที่รู้ๆ  ที่เชียงใหม่มีอยู่คนนึง  555555

บางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)
เมื่อ ศ. 21 มี.ค. 2551

พวกติดบล็อกนี่น่าจะนัดกันไปถ้ำกระบอก  อิอิ

ผมว่าถ้ำกระบอกไม่พอหรอกครับ เล็กไป เล็กไป ไม่พอ และท่านพระอาจารย์ก็คงไม่รับรักษา เพราะรักษาไม่หาย หรอกครับ อิ.อิ. 

ดูซิ ค่ำคืนเวลานอนก็ไม่ได้นอน  ตีหนึ่ง ตีสอง ตีสามโน้น หน้ายังติดจออยู่เลยครับ  เช้าขึ้นมาต้องไปแกะออกมาแน่ะ..อิอิ

ไม่ใช่ใครหรอก ผมเอง...

 อัยการชาวเกาะ
เมื่อ ศ. 21 มี.ค. 2551

พาไปรักษาที่ภูเก็ตได้ครับ แต่ที่นี่มีแต่ถ้ำมอง เอิ้กๆ ไม่ต้องปิดถ้ำก็มองได้ อิอิ ฝรั่งมันเดินแก้ผ้าโทงๆ กลัวพ่อครูบาจะหัวใจวาย อิอิ

10 อื่นๆ

ถามว่า จบแค่นี้ใช่ไหม?

เปล่าเลย ยังมีวิชาตอดนิดตอดหน่อยรออีกพะเรอเกวียน

เช่น ต้นหอมหมื่นลี้ กำลังปลูก ถ้ามันหอมไกลขนาดนั้น จะส่งกลิ่นไปถึงคนที่ไม่ชอบอาบน้ำทาแป้ง ที่เชียงใหม่ อิ อิ .

ใครจะสมัครเรียน ต้องอ้อนลุงเอกแล้วละครับ !!

 สาระน่าสนใจ : จากครูเมษา http://gotoknow.org/blog/aprilsnow/172182

หมายเลขบันทึก: 172214เขียนเมื่อ 22 มีนาคม 2008 11:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2012 15:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
  • เย้ๆๆ
  • มาสมัครเรียนด้วยคน
  • กำลังศึกษาเรื่องนก
  • มีรูปนกเต็มเลย
  • แค่นกกระปูด(Greater coucal ) ปู๊ดๆๆๆๆ ก็น่าสนใจแล้วครับ
  • แถมยังมีแย้ สัตว์นานาชนิดจากสวนป่า แค่นึกก็อยากเรียนแล้วครับ
  • แต่ผมก็นึกว่า เป็น  ฟัก ที่พี่สร้อยเห็น
  • ไงกลายเป็นน้ำเต้าไปได้
  • แสดงว่า สิ่งที่เราเห็น บางที มันอาจไม่ใช่ก็ได้เนอะ
  • อิอิๆๆ

น่าเรียนที่สุดเลยค่ะ ท่านครูบา

นึกถึงตอนที่อยากรู้ว่าทำไมดินใต้ต้นไผ่ไม่มีหญ้า...ก็ได้ความรู้...แถมได้รู้อีกว่าเป็นดินที่ซื้อขายได้ด้วย คราวนี้พอไปเจอกอไผ่ที่ไหนก็จะเห็นว่า แนวหญ้าที่ขึ้นรอบนั้นแสดงว่าหมดระยะรากไผ่แล้ว...ความรู้แบบนี้ไม่ไปเห็นเองเข้าใจยากนะคะ

ส่วนน้ำเต้า...อิอิ...น้ำเต้าไม่ใช่ฟัก ...

เราทั้งสองต้องกลับไปเรียนใหม่นะอาจารย์ขจิต ตอนนี้คิด ร. ไปก่อน 555

สวัสดีเจ้าค่ะ พ่อครูบา

สมัครด้วยคน จะมาชวนพ่อครูบามาเที่ยวสุพรรณ วันที่ 19-20 เมษายนเจ้าค่ะ คิคิ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ

เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ------> น้องจิ ^_^

P

  • ต้องมาช่วงที่ไม่ชนงาน และมีเวลาเดิน-เช้า-เย็น วันละ 5 กม.
  • สงสัย หยุดพิจารณา-ปรึกษา-ถาม-ตอบ
  • ถ้ามีการชี้นิ้ว ..โน่นอะไรนะ จะมีการชี้แจง แล้วช่วยกันสรุปความความชี้ชัด
  • เรียนแบบนี้สนุก ฝึกชี้นิ้วเองบ้าง แทนที่จะมองตามนิ้วชี้คนอื่น
  • คล้ายกัน แต่คนละความรู้สึก กับที่โดนๆๆในหน่วยงาน  
  • อิอิ.

เอก เมืองปาย

พ่อตอบ เจ้าไม่ได้ ไม่ทราบเพราะอะไร???

หลักสูตร น่าสนใจ เชียวค่ะ อยากให้ลูกสาว ไปเรียน บ้างจัง ค่ะ ลูกสาวคนเล็ก สนใจทดลองปลูกพืช ไม้ผล ตอนนี้ ปลูกกล้วย น้ำว้า 1 กอข้างบ้านพักมหาวิทยาลัย ทุกเช้า เพียร ไปดู กล้วยหนูออกใบยาวแล้ว ยายตัดใบไปห่อข้าวต้มมัด ให้ทาน สักพัก แม่ๆๆ มีลูกกล้วย ขึ้นมาอีกแล้ว แม่บอกหน่อกล้วยจ้า สักพัก ใบกล้วยเริ่มสั้นลง ยาย บอกหลานว่า ปลีกล้วย จะออกแล้วนะ ตื่นเต้น ลูกนับหวีกล้วยทุกวัน ได้ 7 หวี แล้วจ้ะแม่ วันต่อมา ลูกยังไม่ตื่น แม่ก็ไปตัดปลีออกมา เพราะ ให้ลูกหมดเครือแล้ว ล๔กไปกู ตกใจวิ่งมาบอกแม่ แม่ จ้ะ ปลีกล้วยหนูหายไปใหน 555555 ตกตอนเย็น ยายต้มยำหัวปลี ให้ทาน มีความสุขคะพ่อครู

ต้องขอบคุณพ่อครูบา ครับ

วันก่อนแอบจิ๊กเอามะตูมที่สวนพ่อครูมา 2 ลูก

กะจะเอามาต้มชิมดูตามคำแนะนำของ ออต ที่บอกว่าต้มทั้งลูกได้เลย  ไม่ทันได้ต้ม

ก็เลยเอามาหลอกเด็กที่ค่ายดูครับ นึกว่าส้มบ้าง ทับทิมบ้าง ฝรั่งบ้าง สุดท้ายทุบดูกันเละตุ้มเป๊ะ สุดท้ายเฉลยเป็นมะตูมนี่เอง ^^^^....

P

9. ARAM 
ต้องขูดผิวเปลือกออกก่อน ไม่งั้นขม  
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท