(ปีนี้คนดีปลูกต้นไม้แล้วหรือยัง)
ท่ามกลางวิกฤติทุกกระแส ทุกอย่างพลิกคว่ำพลิกหงาย เราได้รับผลกระทบไม่เท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับวาสนาชะตากรรมของแต่ละคน ที่ดูดซับความพอดีพอเพียงไว้ในชีวิตอย่างไร สังคมรอบด้านเปลี่ยนแปลงทุกวัน เราต่างสัมผัสสัมพันธ์ตามเงื่อนไขแห่งตน การดิ้นรนแก้ไขปัญหาขึ้นอยู่เราไปเกี่ยวกระหวัดอะไรไว้กี่มากน้อย
ทางออกส่วนตน
ทางออกส่วนรวม
ทางออกของชาติ
วันนี้ ยังหาเจ้าภาพและคนรับผิดชอบไม่เจอ ทั้งรัฐบาลทั้งม็อบยังวิตกจริตทั้งคู่ ผลพวงนี้โทษใครไม่ได้หรอก ตลอดระยะที่ผ่านมา ตั้งแต่มีแผนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เราดำเนินตามแผนพัฒนาที่ไม่พัฒนา เมื่อพัฒนาคนไม่ได้เท่าที่ควร ความรู้ไม่พอใช้ สิ่งที่ติดลบก็แสดงอาการ ระบบการศึกษา สังคม การเมือง เศรษฐกิจ วิกฤติจวนจะวิบัติอยู่รอมมะร่อ
..ถามว่าพ่อรูปหล่อกำลังคิดและทำอะไร?
วิกฤติโลกกระพือโหม นักก่อการทางสังคมไทยกลับตอบโต้น้ำลายกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เรียกว่าเอาเรื่องขี้ผงมาทับถมปัญหาของชาติ ใครจะมีอำนาจ ใครจะบ้าอำนาจ ใครจะโกงจะกิน อลวนกันอยู่แค่นี้ มองไม่เห็นปัญหาตัวจริงของชาติ ไม่ตระหนักว่า วันนี้เราจะทำให้ประเทศชาติเป็นปกติสุขได้อย่างไร
คนไทยเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า ผู้ที่แก้ไขปัญหาของชาติคือนักการเมืองหรือรัฐบาลเท่านั้น การคิดอย่างนี้ผลลัพธ์เป็นอย่างไร พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วจากทุกรัฐบาล สรุปได้ว่า การฝากบ้านเมืองไว้กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่พอหรอก สิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตยหรือรัฐธรรมนูญเป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น พลังขับเคลื่อนสังคมแท้จริงอยู่ที่ไทยทุกคน จะตระหนักในการรับผิดชอบบ้านเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อมแค่ไหน?
ขออภัยที่บ่นให้อารมณ์บูดแต่เช้า ผมทราบดีว่าแต่ละท่านมีพันธกิจในหน้าที่หนักอึ้งกันทั้งนั้น แต่ปัญหาสังคมก็ไม่อาจดูแคลนได้ เอาอย่างนี้ดีไหม ..ทำงานในหน้าที่ด้วย ดูแลสังคมไปด้วย
จะทำอย่างไรละ?
ทุกคนมีความรู้ ความสามารถ ความถนัดในตัวอยู่แล้ว ยอมเหนื่อยเพิ่มอีกหน่อย เอาทักษะชีวิตออกมาบูรณาการสังคม ร่วมด้วยช่วยกันคิดช่วยกันทำ เราจะช่วยเหลือบ้านเมืองอย่างไรได้บ้าง
(ไม้ไผ่ให้หน่อ ให้ลำต้น ให้ไม้เรียว)
เมื่อหลายปีมาแล้ว ผมบรรทุกต้นไผ่เหลืองไปเมืองทองธานี
มอบให้ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต แห่ง..เสถียรธรรมสถาน
จัดนิทรรศการ หลายปีผ่านไป เจอหน้ากัน ท่านเรียกไปพบ..
พ่อสุทธินันท์ ช่วยบอกเบอร์บัญชีธนาคารหน่อย
จะฝากสตังค์ไปให้ซื้อปุ๋ยใส่ต้นไผ่ที่สวนป่า
โธ่!..กี่ปีแล้วนี่..ท่านไม่เคยลืมต้นไม้เลย
(หน่อแรกแห่งปี ของไผ่หม๋าจู โผล่มาแล้วครับ)
ชาวG2K.ทุกท่านทำหน้าที่บริบาลสังคมอยู่แล้ว
เพียงแต่ไม่ค่อยจะเขียนมาเล่าสู่กันฟัง
หลายคนอาจจะเกรงว่า เป็นการอวดตัว อวดดี
มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ตาหวาน
การแชร์ความดี เป็นโอสถวิเศษที่หล่อเลี้ยงกำลังใจให้แช่มชื่น
Key Word
: มนุษย์เอ๋ย..ฝนดีอย่างนี้ มาปลูกต้นไม้กันเถอะ..
สวัสดีค่ะพ่อครู
* อารมณ์ไม่บูดหรอกค่ะยามเช้าได้ดูต้นไม้สดชื่นดีค่ะ
* เช้าวันนี้ดูว่าโตกว่าเมื่อวานเย็นสักแค่ไหน....เท่านี้ก็เห็นการเจริยเติบโตที่ค่อยเป็นค่อยไปของธรรมชาติค่ะ
* เราก็ยินดีและดีใจที่ทีละนิดเมื่อต้นไม้เติบโต.....เมื่อโตเต็มที่ความยินดีก็คงที่ค่ะ
* เป็นความรู้สึกเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อได้ปลูกและดูแลต้นไม้ค่ะ
* พ่อครูดูแลสุขภาพด้วยนะคะ...และมีความสุขรับฤดูฝนค่ะ
สวัสดีค่ะ ทำความดี กี่ปีกี่ปีก็ไม่มีเสื่อมสลายค่ะ
ขอบคุณ สมาชิกรอบเช้า สบายดีนะครับ
ขอให้ใจเป็นสุข ตลอดวันนี้ และวันหน้า
เอาแล้วสิ..
มีสมาชิกสนใจทำความดีกับต้นไม้!
เยี่ยมเลยครับ ขออนุโมทนากับความคิดนี้
อ๋อ..อยู่ในเมืองไม่สะดวกปลูก
อยากจะฝากบุญ ร่วมด้วยช่วยกุศล
สวัสดีค่ะ
* มารับพรอีกรอบค่ะ....ขอให้พ่อครูมีความสุขเช่นกันค่ะ
มารับพร....ครับ......สาธุยาวๆ.....
ผมมีกำลังทรัพย์น้อยนิด ช่วยเป็นกำลังใจได้ไหมครับพ่อครูบา
เมื่อปี ๓๗ แม่ไปซื้อที่ดินแห่งหนึ่ง ด้านหลังของที่ดินไม่มีหลักฐานแต่ป่าถูกทำลายจนไม่เหลือต้นไม้ใหญ่ ที่เห็นก็มีตอไม้ถูกเผาบ้าง ผมก็เลยไปขอพันธุ์ไม้ที่ศูนย์เพาะชำของป่าไม้ ขอกระถินเทพามา ๒๐๐ ต้น ขอต้นกระท้อน มะปราง มาจำนวนหนึ่ง แล้วจ้างคนงานขุดหลุมและผมกับลูกๆไปช่วยกันปลูกกับคนงาน วันนี้หลังที่ดินแม่เป็นป่าไปเรียบร้อย เมื่อวานไปสวนของแม่มา เห็นต้นไม้แล้วชื่นใจ พ่อครูขึ้นบันทึกนี้ได้จังหวะพอดีเลยเอารูปป่าที่ปลูกเองมาอวดกันครับ
ขอชื่นชม ผมมีพันธุ์อาคาเซียที่เหมาะกับสภาพที่เห็น วันหลังจะไปดูว่ามันมีเมล็ดแล้วหรือยัง
เรียนท่านครูบา
สวัสดีครับท่านครูและป้าจุ๋ม
ขอบพระคุณมากๆ เลยครับ พอได้ชื่อภาษาปะกิตทำให้ค้นหาต้นไม้ต้นนี้ให้รู้จักเค้าได้เยอะขึ้นเลยครัีบ
ไปค้นเจอ เลยนำมาถามว่าต้นนี้ไหมครับ ประกอบกับได้รับภาพจากท่านครูฯวันก่อน เลยคิดว่าใบคล้ายๆ กันครับ ผมอยากเห็นเมล็ดของเค้าครับ ว่าเป็นอย่างไร
ขอบพระคุณครับ
NativePlantFan9 |
NativePlantFan9 |
NativePlantFan9 |
NativePlantFan9 |
arielsadmirer |
แม่นแล้วละเม้งเอ๊ย!
วันนี้...ชาติเรามีความหวังมากขึ้น..ครับ...ที่เห็นท่านครูบา..เปิดประเด็นปลูกป่าปลูกต้นไม้ หลายคนมีใจ...เป็นพลังเครือข่าย..ให้กำลังใจ...เห็นด้วยและนำเด็กๆ(นักเรียน)ปลูกทั้งป่าและปลูกต้นเบี้ยแห่งความดีทุกปีครับ...และจะปลูกเพิ่มมากขึ้น..ครับ?? (ผอ.สระคูณ)
เรียนท่านครูบาและคุณเม้ง
สวัสดีครับท่านครูและป้าจุ๋ม
ขอบพระุุคุณมากครัีบ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมนะครับเกี่ยวกับต้นเอกมหาชัย (นี่ผมกะว่าจะตั้งชื่อต้นลุงเอก แล้วนะครับ อิๆ) สิ่งที่น่าสนใจคือ ปริมาณน้ำมันที่ได้จากการสกัดนะครับ น่าจะมีการศึกษาวิจัยให้เต็มที่นะครับ หากมีโอกาสผมจะลองดูด้วยนะครับ เผื่อสามารถนำแบบจำลองที่ทำอยู่ไปประยุกต์ใช้ดูด้วยนะครับ
ขอบคุณมากๆ เลยครับ
มาบอกป้าจุ๋มผ่านบันทึกพ่อครูบา
สนใจมากๆต้นลุงเอก อิอิ ฝากพี่หมอเจ๊ไปก็ได้ครับ พี่หมอเจ๊เอารถตู้ไปใส่ได้เยอะ อิอิ
เรียนท่านครูบา ท่านอัยการฯ คุณเม้ง
มีเอกสารอ้างอิงครับ ตัดตอนมาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้อง
4. มะกอก “เอกมหาชัย” เมื่อปี 2541 ได้มีรายงานที่น่าสนใจจากสถาบันวิจัยพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร ชื่อคุณปัญญา เอกมหาชัย ที่ไปผึกงานที่ศูนย์วิจัยเกษตรเขตร้อนระหว่างประเทศ (CIAT) ที่เมือง Cali ประเทศ Colombia เมื่อประมาณปี 2518 ได้นำ เมล็ดพันธุ์ติดตัวเข้ามาทดลองปลูกเป็นไม้ประดับที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ขอนแก่น ต่อมาพบว่า ไม้ชนิดนี้เติบโตเร็ว ต้นโต กิ่งก้สนใหญ่ให้ร่มเงาดี ใบเป็นเงา จึงได้นำ เมล็ดพันธุ์ไป ทดลองปลูกตามศูนย์วิจัย และสถานีทดลองพืชไร่ต่างๆ เช่น ที่เชียงใหม่ (แม่โจ้ และ พร้าว) ชัยนาท ระยอง มุกดาหาร เลย เพชรบูรณ์ อุบลราชธานี และศรีสำโรง และเมื่อลองเก็บเมล็ดแก่มาวิเคราะห์นํ้ามันโดยกองเกษตรเคมี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2541 พบว่ามี กรดไขมัน Oleic acid สูงถึง 52.33 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าเมล็ดปาล์มนํ้ามันทานตะวัน ถั่วเหลือง และคำ ฝอย แต่มีกรดนํ้ามัน palmic ตํ่ากว่าปาล์มนํ้ามัน และนํ้ามันมะพร้าว และมีองค์ประกอบกรดไขมันใกล้เคียงกับนํ้ามันมะกอก และเมื่อให้นักอนุกรมวิธานจำ แนกแล้วจึงทราบว่าพืชชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า "Simarouba glauca" อยู่ในวงศ์ Oleaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับ มะกอกนํ้ามัน (Olive) และเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้นำ เข้ามาคนแรกทางสถาบันวิจัยพืชไร่ จึงตั้งชื่ออย่างไม่เป็ฯทางการว่าต้น "เอกมหาชัย"
จากการพิจารณาเบื้องต้น ต้น “เอกมหาชัย” มีนํ้ามันที่มีคุณภาพด้อยกว่า นํ้ามันมะกอกเล็กน้อย แต่ดีกว่านํ้ามันปาล์ม และในแง่ของกรดไขมัน Oleic acid “เอกมหาชัย” มีสูงกว่านํ้ามันทานตะวัน ถั่วเหลือง และคำ ฝอย แต่มีปริมาณกรดไขมัน Linoleic acid น้อยกว่านํ้ามันทั้งสามชนิด
ดังนั้น “เอกมหาชัย” น่าจะมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นพืชนํ้ามันเศรษฐกิจในเขตที่ดอน ที่มีฝนน้อยอีกพืชหนึ่งของไทยในอนาคต
บทความนี้ช่วยอธิบายอะไรได้หลายเรื่อง
ถ้าถามจู้จี้ขออภัย คำถามของคนโง่มักสับสนอย่างนี้เองละขอรับ
ขอขอบคุณด้วยไข่ไก่ต๊อก ส่งไปทางไปรษณีย์ เมื่อเช้านี้
ต้มไข่กิน ใจเย็นๆ ว่างๆ ค่อยหาข้อมูลต่อก็ได้ รอได้
และจะปลูกไม้ชนิดนี้รอ
ขอแต่ให้เป็นต้นไม้
ก็พอใจ และยินดีที่จะปลูกแล้ว ไม่เรื่องมากใดๆกับต้นไม้ทุกชนิด
อิ อิ
ข้อมูลของป้าจุ๋มน่าจะดีที่สุดครับ เพราะเป็นข้อมูลจากแหล่งโดยตรง
ส่วนข้อมูลบนเน็ตนั้น พบข้อมูลอีกสองอันครับคือ
ส่วนการค้นข้อมูลภาษาอังกฤษนั้น ยังไม่ได้ดูละเอียดเนื่องจากไม่ใช่สาขาที่ชำนาญครับ เท่าที่แปลรูปร่างสัณฐานมา คือความสูง 40-50 ฟุต พุ่มใบกว้าง 25-30 ฟุต (ถ้าปลูกห่างกันน้อยกว่า 60 ฟุต เมื่อโตแล้ว ใบจะชนกัน) กิ่งยาว 16 นิ้ว ใบยาว 3 นิ้ว -- ในสหรัฐปลูกที่ชายฝั่งปลายแหลมฟลอริด้า กับชายทะเลแคลิฟอร์เนียใต้สุดติดเม็กซิโก
คืนนี้ เพิ่งรู้ว่าไม่ต้องขายของเก่าแลกไข่แล้ว แต่ใช้วิธีค้นข้อมูล ก็แลกไข่ได้
ขอบพระคุณมากครับ
ต่ออีกนิดก่อนไปนอนครับ สำหรับข้อมูลการปลูก ข้อมูลจากอินเดีย ให้รายละเอียดมากที่สุดครับ
กราบพ่อครูค่ะ
เพิ่งทราบชัดๆว่าต้นเอกมหาชัยนี่เค้ามีน้ำมันสูงมากนะคะ เพราะเท่าที่เบิร์ดจำได้เมล็ดสบู่ดำจะมีปริมาณน้ำมันประมาณ 30 - 35% ได้มั้งคะ แต่นี่เค้ามีตั้ง 50 - 65 % เยอะจังค่ะ
ส่วนปาล์มน้ำมันที่็ี่ให้ผลผลิต
น้ำมันต่อหน่วยพื้นที่ สูงที่สุดก็ได้ประมาณ 640-800
กิโลกรัมน้ำมันต่อพื้นที่ปลูก 1 ไร่..เอกมหาชัยได้ประมาณ 160-320 กก./ไร่/ปี..เอ..แปลกจริงเค้าให้ผลปีละครั้งเหรอคะถึงคิดเป็นต่อปี?
เบิร์ดเห็นเค้าถูกเรียกว่ามะกอกเอกมหาชัย ..และลักษณะผล ใบก็คล้ายมะกอกมาก ทำให้เบิร์ดนึกถึงข้อจำกัดของมะกอกในการนำมาทำน้ำมัน ( Olive Oil) ซึ่งไม่แน่ใจว่าผลของต้นเอกมหาชัยจะมีข้อจำกัดแบบเดียวกันหรือไม่นะคะ
เพราะกระบวนการหีบเอาน้ำมันจากผลมะกอกมิใช่เป็นเรื่องง่ายๆเลยค่ะพ่อ ต้องผ่านหลายขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่การคัดและเก็บผลด้วยคนงาน เครื่องจักรทำแทนไม่ได้เลย เพราะผลมะกอกแก่ไม่พร้อมกันค่ะ อีกทั้งต้องระมัดระวังมิให้ผลเกิดเสียหายในตอนเก็บและขนส่งไปโรงงาน
การคั้นน้ำมันมะกอกที่ดีเป็นวิธีการหีบเย็น (cold press) แบบโบราณนะคะ เริ่มด้วยการโม่ผลมะกอกให้เนื้อแหลก แล้วเอาไปเข้าเครื่องหีบน้ำมันออกโดยไม่ใช้ความร้อนเข้าช่วยเลยค่ะพ่อ
น้ำมันที่ไหลออกมาจากการหีบครั้งแรกถือเป็นน้ำมันคุณภาพดีที่สุด มีความบริสุทธิ์เพราะเป็นน้ำมันแรก การหีบครั้งต่อๆไปต้องใช้แรงมากขึ้น น้ำมันที่ได้ก็มีคุณภาพด้อยลง ทั้งหมดนี้ใช้เครื่องมือทำจากหินและแรงคนเป็นหลักค่ะ ทำให้น้ำมันมะกอกแพงมากๆ
ปัจจุบันมีโรงงานกลั่นน้ำมันมะกอกสมัยใหม่ที่ใช้ความร้อนและเครื่องจักรในการโม่และกลั่นน้ำมันมะกอก แต่น้ำมันมะกอกแบบนี้มีคุณภาพไม่ดีเท่าแบบวิธีหีบเย็นแบบเก่าค่ะ หลังจากหีบเอาน้ำมันมะกอกได้แล้ว ก็ต้องเอามาเก็บไว้ในห้องใต้ดินที่มีอุณหภูมิเย็นพอเหมาะเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อให้เศษผงต่างๆจมตัว จากนั้นจึงนำมากรองและบรรจุขวดขาย ^ ^...
ถ้าเอกมหาชัยบีบน้ำมันได้ง่ายและผลสุกพร้อมกันก็น่าจะดีค่ะพ่อ
แต่สรุปว่าพืชตัวนี้น่าสนใจค่ะ อิ อิ
เรียน พ่อครู ฯ ที่เคารพรัก
ขอบพระคุณค่ะ