จากภาค 3 นะคะ มาต่อกันเลยค่ะ เช้าวันที่ 17 ตุลาคม 52 เราตื่นกันแต่เช้าค่ะ เพราะวันนี้เราจะใส่บาตรทางน้ำกันค่ะ ออกมาซื้อของใส่บาตรที่ตลาดเช้าอัมพวา

วันนี้เราออกมากันประมาณ หกโมงเช้าค่ะ มีพระพายเรือผ่านไปแล้ว 2 ลำค่ะ เช้านี้มีเณรมาบิณฑบาตเยอะเลยค่ะ ที่น่ารักคือเวลาเณรจะให้พร จะมีการมองตากันก่อนแล้วเริ่มต้นให้พรอย่างพร้อมเพรียงกันเสียงดังฟังชัดค่ะ ^____^

เมื่อใส่บาตรเณรเสร็จเราก็มารอพระที่จะพายเรือมาบิณฑบาตที่ริมน้ำค่ะ แม้ค้าแถวๆนี้เค้าบอกว่าคงมาอีกทีประมาณเกือบๆแปดโมงเช้าค่ะ เราเลยคิดว่างั้นกลับไปที่พักก่อนเก็บข้าวของกันออกมาเลยดีกว่า แต่ยังไม่ทันไปก็เห็นพระพายเรือมาอีก 2 ลำค่ะ เลยได้ใส่บาตรทางน้ำสมที่ตั้งใจไว้ค่ะ

เมื่อใสบาตรเสร็จเราก็เตรียมกลับไปเก็บข้าวของและทานอาหารเช้าที่บ้านนวลจันทร์ค่ะ ก่อนที่จะไปรับเจี๊ยบและอ้นที่นั่งรถตู้ตามมาสมทบค่ะ แต่ปรากฏว่าก่อนกลับเราไปรอซื้อปาท่องโก๋ที่ตลาดอัมพวานี่ล่ะค่ะ เป็นร้านที่ไม่แคร์ลูกค้าสุดๆค่ะ คือเค้าคงขายดีมากอ่ะค่ะ เลยไม่แคร์ลูกค้าที่มารอซื้อแค่สิบยี่สิบบาท เรายืนรอกันนานมากๆๆๆๆๆ ตอนแรกนึกว่ามีออร์เดอร์สั่งเอาไว้กันแล้ว แต่พบว่า มีการลัดคิวโดยการที่ลูกค้าเข้าไปหยิบปาท่องโก๋เองแล้วแอบจ่ายตังและเดินจากไป เราเลยมีอาการวีนระดับหนึ่งค่ะ อิอิ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปร้านนี้มาให้ดู เราน่าจะอัดเทปคำพูดของแม่ค้าไว้ด้วยนะคะเนี่ย คือเอาเป็นว่าพอเราวีน เราเลยได้ปาท่องโก๋มา 5 อันค่ะ ถ้าเราไม่วีนเราก็คงต้องยืนรอกันต่อไป เฮ้อ...!!!

และเนื่องจากเรายืนรอปาท่องโก๋ร้านนี้ล่ะค่ะ เจี๊ยบก็โทรมาบอกว่าถึงแม่กลองแล้ว มองในแง่ดีคือ การที่เราต้องยืนรอปาท่องโก๋นี้ก็มีข้อดีคือเราไม่ต้องย้อนไปย้อนมาจากที่พักค่ะ เราสามารถไปรับเจี๊ยบได้ทันที แล้วพาเจี๊ยบไปทานอาหารเช้าที่บ้านนวลจันทร์พร้อมกันเลย

บริเวณทานอาหารเช้าค่ะ เป็นข้าวต้มกุ้ง และขนมปัง อร่อยมากกกกกกกค่ะ

เมื่อเราอิ่มกันแล้ว เหลือบไปเห็นสะพานไม้ข้ามคลองค่ะ ปล่อยไว้เฉยๆได้ไง ต้องปีนข้ามไปถ่ายรูปทันที 555

ออกจากบ้านนวลจันทร์ มุ่งสู่ตลาดร่มหุบค่ะ

ระหว่างทางเห็นสิ่งนี้ค่ะ สมุทรสงคราม

ส่วนอ้นนั้นยังมาไม่ถึงค่ะ เลยนัดอ้นไปเจอกันที่ตลาดร่มหุบกันเลยค่ะ ทริปนี้มีหนุ่มน้อยมาด้วยหนึ่งหนุ่มค่ะ อ้นจะมาเป็นบอดี้การ์ดให้ป้าๆทั้ง 4 คน 555 จริงๆคืออ้นบอกว่าอ้นรู้ว่าอ้นต้องทำหน้าที่เป็นขาตั้งกล้องค่ะ (อ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะค่ะ อิอิ)

ตลาดร่มหุบแม่ค้าจะมาตั้งของขายกันริมทางรถไฟค่ะ พอถึงเวลารถไฟเข้าก็จะหุบร่มหุบผ้าใบเก็บของ หลบรถไฟ พอรถไฟไปก็กลับมาขายของกันต่อค่ะ

อ้นมาถึงปุ๊บก็ทำหน้าที่เป็นขาตั้งกล้องปั๊บ อิอิ

นี่คือตอนรถไฟยังไม่มาค่ะ

เตรียมเก็บข้าวของแล้วค่ะ สังเกตดูนะคะ ถ้าเราจะคิดว่ายืนตรงริมๆทางรถไฟบริเวณที่วางรองเท้าน่ะค่ะ ไม่สามารถหลบรถไฟพ้นนะคะ อันตรายมากค่ะ เพราะตัวโบกี้รถไฟนั้นจะเต็มพื้นที่ค่ะ ถ้าเราไปต้องออกมาอยู่ข้างนอกเลยค่ะ

พอรถไฟมาแล้วพวกเราก็ออกเดินทางสู่หัวหินกันเล้ย ผ่านชะอำ เลยแวะถ่ายรูปที่หาดชะอำค่า

ไม่รู้เค้าเรียกว่าหาดอะไรที่มีกุ้งหอยปูปลาอ่ะค่ะ

ยืมเค้ามาถ่ายรูปอีกแล้วค่ะ อิอิ

แวะที่พระราชวังมฤคทายวันค่ะ เนื่องจากเป็นเขตพระราชวังจึงต้องแต่งกายสุภาพก่อนขึ้นไปข้างบนค่ะ เค้าตัดสินตรงที่ กางเกงเหนือเข่าขึ้นไปต้องนุ่งผ้าซิ่นที่ทางพระราชวังเตรียมไว้ค่ะ แต่เนื่องจากวันที่เราไปนั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ที่แต่งกายกางเกงเหนือเข่า อิอิ จึงทำให้ผ้านุ่งขาดตลาด อิอิ ต้องรอ สมาชิกทริปนี้มีรินทร์กะอ้นที่แต่งตัวผ่านเกณฑ์ค่ะ หนึ่ง สาม และเจี๊ยบเคยขึ้นไปบนพระราชวังแล้วตอนมากับทางโรงพยาบาลค่ะ เราเลยตัดสินใจว่าจะไม่รอผ้านุ่ง จะส่งตัวแทนรินทร์กะอ้นขึ้นไปเก็บข้อมูลและภาพข้างบนมา ส่วนหนึ่ง สาม และเจี๊ยบจะเก็บภาพข้างล่างเอง อิอิ

เก็บภาพตรงข้างล่างกันก่อนค่ะ

ตอนนี้เราส่งตัวแทนคืออ้นและรินทร์ขึ้นไปแล้วค่ะ

ตัวแทนขึ้นไปข้างบนค่ะ อิอิ

ถ่ายจากกล้องอ้นข้างบนค่ะ

ถ่ายรูปรออ้นกะรินทร์ค่ะ อิอิ

อีกรูป หุหุหุ

อ้อ..ลืมบอกไปค่ะ ที่นี่มีจักรยานและร่มให้เช่าด้วยนะคะ ใครต้องการเดิน ใครต้องการขี่จักรยานตามชอบใจเลยค่ะ พวกเราเลือที่จะขี่จักรยานค่ะ เรามากัน 5 คน เลยเลือกจักรยานที่ปั่นสองคน 1 คัน และปั่นสามคน 1 คัน รวมค่าเช่า 60 บาทค่ะ

รินทร์กะเจี๊ยบถูกใจจักรยานสีชมพูคันนี้ม๊ากกมากค่ะ

หนึ่ง สาม และอ้น กับจักรยานที่เบรคไม่มีค่า อิอิ

อ้นบอกว่าอ้นต้องใช้เท้าเบรคเวาลาได้ยิเสียงกรีดร้องจากข้างหลัง 555

สรุปว่าคนนั่งรอข้างล่างถ่ายรูปเยอะกว่าตัวแทนที่เราส่งขึ้นไปข้างบนนะคะเนี่ย 555

ออกจากพระราชวังมฤคทายวัน เราพักทานข้าวเที่ยงกันที่เขาตะเกียบค่ะ

ร้านอาหารลาแม เค้าเขียนโฆษณาว่าโชว์บัตร KTC แล้วลดค่าอาหาร 10% เราเลยแวะที่นี่ เอ้ย! ไม่ใช่ค่ะ เราแวะเพราะเค้าบอกว่ามีหินกบยักษ์และเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเขาตะเกียบค่ะ อิอิ

หุหุหุ ข้างหลังคือหินกบยักษ์อ่ะค่า เอ..ทำไมมองไม่เห็นเนาะ 555

อิ่มท้องกันแล้วเราขึ้นไปที่วัดเขาตะเกียบกันต่อค่ะ ที่นี่มีน้องลิงเยอะมากกกก และสาวๆในรถเราล้วนกลัวน้องลิง หนึ่งกะอ้นเลยทำหน้าที่ขึ้นไปถ่ายรูปมาฝากน้องๆค่า 555

ลงไปปุ๊บก็เจอฝูงลิงเยอะแยะมากมายค่ะ แต่ที่เห็นโดดเด่นคือไดโนเสาร์ 2 ตัวนี้ค่ะ

ภาพนี้ภูมิใจเสนอ หนึ่งถ่ายเองค่ะ หุหุหุ ทันน้องลิงยื่นมือมารับเปลือกถั่วจากอ้นค่ะ (ขอย้ำว่าเป็นเปลือกถั่ว 555 )

ตัวนี้น่าจะเป็นจ่าฝูงนะคะ สังเกตดูตัวนี้จะใหญ่สุดค่ะ แล้วก็ดุมาก มีนักท่องเที่ยวซื้อไอศครีมวอลล์กล่องใหญ่อย่างที่เห็นค่ะ ยังกินได้ไม่เท่าไหร่ น้องลิงตัวนี้ไปแย่งมาจากมือเลยค่ะ เป็นภาพที่น่ากลัวมากกกก อิอิ นักท่องเที่ยวคนนั้นตกใจโยนไอศครีมทิ้งเลยค่ะ น้องลิงเลยได้กินอย่างที่เห็น

 

ก่อนขึ้นไปบนวัดขอถ่ายรูปคู่กะน้องลิงนิดนึงค่ะ (ไม่กล้าถ่ายคู่กะน้องลิงตัวจริง ถ่ายกะรูปปั้นก้อยังดี 555)

ตรงทางขึ้นมีต้นสาละด้วยค่ะ

ลืมนับขั้นบันไดทางขึ้นค่ะ รู้แค่เนื้อยยยเหนื่อยอ่ะค่า อิอิ

ตีระฆัง 76 จังหวัด

ไหว้พระขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลค่ะ

จากเขาตะเกียบเราไปกันต่อที่สถานีรถไฟหัวหิน

ทำหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ซะงั้น 555

ข้างหน้าสถานีรถไฟหัวหินค่ะ

ที่นี่ขาดไม่ได้ค่ะ สถานีรถไฟที่มีเอกลักษณ์ ถ่ายยังไงก็สวยอ่ะค่า

ถ่ายกะหัวรถจักร อิอิ

ข้ามถนนมาจะเจอห้องสมุดรถไฟค่ะ จัดได้น่ารักมั่กๆๆ

ใช้ตู้รถไฟที่ไม่วิ่งแล้วมาดัดแปลงเป็นห้องสมุดค่ะ

แผนที่ค่ะ อิอิ

จากที่นี่เราเข้าไปเช็คอินที่ที่พักกันก่อนค่ะ ชื่อแวซายน์ ค่ะ ราคาไม่แพง ห้องพักสะอาดค่ะ เนื่องจากช่วงที่เราไป (17-18ต.ค.) เป็นช่วงที่ห้องพักเต็มแทบจะทุกที่เลยค่ะ เพราะเป็นช่วงใกล้ๆประชุมอาเซี่ยนค่ะ ช่วยๆกันหาที่พัก น้องอ้นจองได้ที่นี่ค่ะ เมื่อเช็คอินแล้วก็ออกไปเพลินวานกันเล้ย...ย ^____^

สงสัยเพลินวานคงต้องเปิดอีกบันทึกซะแล้วค่ะ ไปต่อภาค 5 ละกันนะคะ อิอิ