เรื่องที่ ๑๔ ดึงรั้งยั้งข้อศอก
ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจชั้นนำหรือผู้นำระดับใดก็ตาม จำเป็นต้องมีศิลปะในการใช้คน
คนดีมีฝีมือที่สร้างผลงานให้เจ้านายคนหนึ่งมาแล้วอย่างมากมายแต่กลับกลายเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ สำหรับเจ้านายอีกคนหนึ่งไป ความผิดจึงควรตกอยู่ที่คนใช้ มิได้อยู่ที่คนถูกใช้ เพราะท่าทีไม่ไว้วางใจของเจ้านายที่มีต่อลูกน้องเป็นข้อบกพรองอย่างฉกรรจ์ในศิลปะการใช้คนข้อหนึ่งในจำนวนหลายข้อ ดังนั้นจึงมีคำกล่าวว่า “ ถ้าระแวงก็อย่าใช้ ถ้าใช้ก็จงอย่าระแวง ”
ในสมัยที่จีนยังปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช และเจ้าขุนมูลนายมีอำนาจสิทธิขาดทั้งหลายในการบริหารบ้านเมืองจึงขึ้นอยู่กับ ความพอใจของเจ้าผู้ครองนครแต่เพียงผู้เดียว การยับยั้งห้ามปรามหรือเตือนสติแก่เจ้าเหนือหัวนั้น ไม่อาจกระทำได้โดยง่ายนัก เพราะหมายถึงการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ขุนนางผู้มีความจงรักภักดี และ เฉลียวฉลาดทั้งหลาย จึงมักจะหาอุบาย ยกข้อเปรียบเทียบอ้างอิงด้วยนิยายบ้าง ภาษิตหรือเรื่องราวอื่น ๆ บ้าง เป็นการเลียบเคียงเข้าไปในเรื่องที่ตั้งใจจะแก้ไข ให้เจ้าเหนือหัวเกิดความเข้าใจเอง ดังตัวอย่างเรื่องของขันทีชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งของเมืองหลู่ ในสมัยของชุนชิว ผู้มีนามว่า มี่จื่อเจี้ยน
ครั้งหนึ่ง มี่จื่อเจี้ยน ถูกส่งไปปกครองอำเภอชั่นฟู่ แต่เนื่องจากเจ้าเมืองหลู่ไม่ทรงวางพระทัยในการทำงานของมี่จื่อเจี้ยน ดังนั้นไม่ว่ากฎระเบียบหรือแผนงานใด ๆ ที่มี่จื่อเจี้ยนกำหนดขึ้น เจ้าเมืองหลู่จะต้องเข้ามาก้าวก่ายและยับยั้งอยู่ร่ำไปทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ทำให้มี่จื่อเจี้ยนอึดอัดลำบากใจมาก
เขาจึงคิดอุบายที่จะเตือนสติให้เจ้าเมืองหลู่เลิกล้มการกระทำเข่นนั้นเสีย โดยถวายสารขึ้นไป ขอให้เจ้าเมืองหลู่ได้โปรดส่งคนที่เขียนหนังสือเก่งลายมือสวยมากมาช่วยงานคนหนึ่ง
เมื่อได้คนที่ต้องการแล้ว มี่จื่อเจี้ยนก็หางานให้เขียน แต่ทุกครั้งตัวเขาเองจะนั่งอยู่ข้าง ๆ “ คอยดึงรั้งยั้งข้อศอก “ อยู่ตลอดเวลาที่ใช้ผู้นั้นลงมือเขียนหนังสือ แถมยังตำหนิติเตียนคนเขียนว่า เขียนได้ไม่ดีในที่สุดคนเขียนหนังสือทนอยู่ไม่ได้จึงหนีกลับไปเฝ้าเจ้าเมือง และทูลให้ทรงทราบว่า มี่จื่อเจี้ยน ชอบขัดขวางการทำงานของเขาโดยไม่มีเหตุผล
“คอยแอบดึงรั้งยั้งข้อศอก ในเวลาที่เขียน ซ้ำยังติเตียนในผลงาน”
เจ้าเมืองหลู่เป็นคนฉลาด เมื่อได้ฟังเรื่องราวก็รู้ได้ว่า มี่จื่อเจี้ยนกำลังขอร้องให้พระองค์เลิกขัดขวางการทำงานของเขาเสีย เพราะแม้แต่ผู้เขียนหนังสือจะมีลายมือสวยเพียงใด ตั้งใจที่จะเขียนเพียงใด หากมีใครคอยดึงรั้งข้อศอกอยู่ ผลงานนั้นก็จะดีไปไม่ได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าเมืองหลู่ก็เลิกขัดขวางการทำงานของมี่จื่อเจี้ยน..rrr
ผมมีชื่อจีนว่า จื่อเจียนครับ
จง จื้อ เจียน
555+ เหมือนในเรื่องเลยครับผม
หวังว่าคุณคงจะมีความเฉลียวฉลาดและเก่งเหมือนมี่จื่อเจี้ยน นะครับ