ท่องเที่ยวเมืองของ....พระราชา


ผู้เขียนถึงกับอึ้ง เมื่อได้พบกับสิ่งที่ไม่ได้คาดฝัน กับผู้ที่ข้าพเจ้าระลึกถึงทุกวัน

  "การท่องเที่ยว" ใครจะให้ความหมายอย่างไร ก็ตาม แต่ผู้เขียน ให้คำจำกัดความง่ายๆ ว่า คือการ "นำตัวเองออกเคลื่อนไป สู่ความสนุกสนาน ที่ไม่ต้องมีแบบแผน" ไม่ต้องอาศัยปัจจัยอะไรมาก อยู่ที่สิ่งนี้อย่างเดียว หัวใจ

    ดังนั้นการท่องเที่ยว ในวันหยุดที่ผ่านมาของผู้เขียน จึงไม่ได้มีการวางแผน ว่า อย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ขอแค่ให้ได้บอกกล่าว ร่ำลา พี่น้องG2K ก่อน ตามกฎความไม่ประมาท กับสิ่งที่เรียกว่าความไม่แน่นอน เท่านี้ก็สบายใจแล้ว ผู้เขียนมีสมาชิกในครอบครัวน้อย หลังจากบอกเล่าเรียบร้อย ก็ออกเดินทาง

  เตรียมเสื้อผ้านิดหน่อย ส่วนรถที่จะขับไป ได้ตรวจสภาพไปเมื่อสัปดาห์ก่อน มีเงินนิดหน่อย เดี๋ยวบทสรุปจะบอกว่าใช้งบประมาณไม่มากเลย แต่ความสุขที่ได้รับ เกินควร เกินค่าจริงๆ

   คราวนี้ผู้เขียนได้ขับรถไปเรื่อยๆ แรกๆคิดว่าไปสุพรรรบุรีดีไหม เพราะต้นเดือนต้องไปประชุมที่นั่น 3 วัน ถ้าได้ไปดูสถานที่ก่อนก็จะดี แล้วก็ไม่ไกลด้วย ขับรถบนถนนสายบางนาตราด เผลอแป๊บเดียว มัวแต่คุยกับน้องสาว อ้าว! นี่กำลังจะผ่านทางด่วนบางนาแล้วนี่ แล้วก็ต้องเข้าด่านอยู่ดี งั้นขับไปเรื่อยๆ ว่าจะไม่เข้ากรุงเทพแล้ว ขอแค่เป็นทางผ่านก็แล้วกัน จึงเข้าสายดาวคะนอง ข้ามฟากไปฝั่งธนบุรี ลงไปทางเพชรเกษม ออกไปทางราชบุรี แหม!จังหวัดนี้ชื่อดี ราชบุรี "เมืองของพระราชา" สองข้างทางสวยงามมาก มีการ ดัด ตัดแต่งต้นไม้ เป็นรูปสัตว์ต่างๆ รู้สึกจะเป็นต้นมะขามเทศ เป็นศิลป ที่ผู้สร้างสรรค์เก่งมาก ตลอดเส้นทางหลายสิบกิโลเหมือนเราอยู่ในสวนสัตว์เลย สรรพสัตว์ มีกิริยาท่าทางต่างๆนาๆ บางทีก็เป็นลิงทั้งฝูงอยู่บนต้นไม้ ช้างบ้าง วัว ควายกำลังห้อเหยียดบ้าง ความประทับใจแค่ย่างก้าวเข้ามา ก็สร้างความผ่อนคลายให้บังเกิดในใจอย่างไม่รู้ตัว

    ผู้เขียนเลยตัดสินใจ จะค้นหาเสน่ห์เมืองราชบุรีนี่แหละ แล้วก็ได้พบกับคำว่าunseenthailand น่ะมันเป็นอย่างไร ราชบุรีนี้แปลก เท่าที่สังเกต พื้นที่ที่มองเห็นก่อนเพื่อนก็คือภูเขา จะมีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยว(สีน้ำเงิน) ตลอดเส้นทาง ไม่ถ้ำ ก็เขา เวลาแลไปข้างทางจะเห็นการสร้างพุทธสถานต่างๆ บนยอดเขาสวยเด่น งดงาม มีการสร้างพระพุทธรูป ขนาดใหญ่ บนยอดเขา เรียกว่าพ้นจากองค์พระ ก็จะกลายเป็นท้องฟ้าสีครามเหมือนคลี่ฉาก รองรับไว้ ศรัทธาของคนที่นี่ ไม่ธรรมดา แล้วผู้เขียนก็เลือกที่จะไปยังสถานที่ท่องเที่ยว จากป้ายดังกล่าว ที่เขียนเอาไว้ว่า "วัดถ้ำน้ำ" ชื่อแปลก ชอบความเงียบของถ้ำ ที่มันวิ้ง จนใจหยุดนิ่งไปด้วย พระธุดงค์ท่านชอบมาเจริญภาวนากัน หรือชาติก่อน ผู้เขียนจะเคยธุดงค์ละมัง จึงเป็นสัญญาเดิมๆ ที่ผุดขึ้น

    ผู้เขียนรู้สึกว่าบทความของตัวเอง มักจะเขียนยาวเกิน อาจทำให้ผู้อ่านเบื่อก็ได้ ดังนั้น จะขอเขียนเรื่องการท่องเที่ยวนี้ อีก 2 ตอน ในวันนี้แหละสัญญา เพราะเรื่องราวนั้น เป็นคนละรูปแบบ คือมีทั้งทางบก ทางน้ำ ความรู้สึกจะได้ไม่ปนเปกัน งั้นกระทู้นี้ แค่เกริ่นนำ ติดตามบันทึกหน้า กับการท่องเที่ยวถ้ำน้ำด้วยกัน ซึ่งขอบอกไว้เลยว่า ผู้เขียนถึงกับอึ้ง เมื่อได้พบกับสิ่งที่ไม่ได้คาดฝัน กับผู้ที่ข้าพเจ้าระลึกถึงทุกวัน ท่านคือพญายม......เยี่ยมวิมานพญายมค่ะ

   

หมายเลขบันทึก: 140711เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2007 08:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะ คุณ ตันติราพันธ์

  • ตามมาเยี่ยมถึงถิ่นค่ะ
  • เพราะสิ่งที่นำไปด้วยคือ "หัวใจ" สิ่งที่ได้กลับมาก็คือความสุขเต็มๆ น่าอิจฉาคนมีความสุขค่ะ

สวัสดีค่ะ

  ถ้าว่างอยากจะขอเชิญ ไปเที่ยว วัดถ้ำน้ำกันต่อนะคะ จะได้มีความสุขร่วมกัน

 กลับไปอ่านบทความอีกครั้งแล้ว และคงจะได้เข้าไปคุยด้วยเรื่องอยู่ดีมีสุข นี่แหละค่ะ ที่เป็นความทุกข์อย่างหนึ่งของชุมชนที่เตรียมตัวรับสุขไม่ทันค่ะ

แหม ความจริงถ้าเขียนสนุกแบบนี้ ไม่ต้องต่อเป็นตอนๆ ก็ได้นะครับ

ผมผ่านไปราชบุรีหลายครั้ง ไม่ยักเห็นวัดถ้ำน้ำ

สงสัยปีหน้าต้องกลับไปเที่ยวเมืองไทยบ้างแล้วครับ

ด้วยความปรารถนาดี

สวัสดีค่ะ

P

  วัดถ้ำน้ำอยู่ที่ อ.โพธาราม ถ้าเราเข้าเมืองราชบุรีเลย จะไม่เจอ ไปตามป้ายข้างทางค่ะ รับรองว่าถ้าไป คุณพลเดชต้องชอบแน่ๆ สงบ เงียบ อยู่ท่ามกลางแผ่นน้ำ และรายล้อมไปด้วยพระพุทธรูป จิตคงจะนิ่งได้รวดเร็ว เหมาะแก่การเจริญ สมถะ กัมมัฎฐานค่ะ

  ถ้าได้กลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่ ลองไปเที่ยวชมนะคะ รับรองไม่ได้บันทึกเกินจริงค่ะ

ผมก็ชอบเที่ยวแบบนี้ครับ ไม่ต้องกำหนดกฎเกณฑ์ เมื่อหลายปีก่อนพาครอบครัวกับคุณแม่ไปเที่ยวกันไม่ได้กำหนดว่าจะไปไหนแต่กำหนดศูนย์กลางที่กทม.ก่อนเพราะน้องสาวกับน้องชายอยู่ เยี่ยมเสร็จพาแม่ไปเที่ยวสวนนงนุช แม่เห็นมะม่วงอกร่องซึ่งแม่ชอบมาก แม่บอกว่าถ้าพักที่นี่ตื่นเช้าขึ้นมาเก็บมะม่วงอกร่องที่มันหล่นอยู่มากินคงจะอร่อยนะ ผมก็เดินไปจองห้องพักทันที ตีห้าตื่นขึ้นมาเปิดประตูไปดู เห็นแม่นั่งทานมะม่วงอย่างมีความสุข การเที่ยวแบบนี้เราไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา ขับรถก็ไม่ต้องรีบ อยากแวะที่ไหนก็แวะที่นั่น อยากอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ ดีครับ จะรออ่านตอนต่อไปครับ

สวัสดีค่ะคุณP

  การกำหนดเวลา สถานที่ ทำให้เราขาดอิสระภาพไม่รู้ตัว มองเหมือนเป็นนักวางแผนที่ดี แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างต้องธรรมชาติค่ะ นี่ก็ไปเพราะหลงทางเหมือนกัน เจออะไรสะดุดตา ก็แวะ

คุณบัณฑูร ก็เป็นผู้ยืนยัน อีกคนใช่ไหมคะ ถึงการ..............เที่ยวไปตามตะวัน บุกบั่นไปตามลม สนุกสุขสมหัวใจหายควำ...........................

ขอบคุณที่แบ่งปัน เขียนตอนต่อไปแล้วค่ะ

คิดเหมือนกันเลยค่ะ  การท่องเที่ยวเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ดีค่ะ แต่ไปคนเดียวไม่สนุก ขอตามไปด้วยคนค่ะ (ไปกับบล็อกนี่แหละ)มีเวลาว่างขึ้นไปเที่ยวเมืองสี่แควยินดีต้อนรับนะคะ (พร้อมที่พัก)แต่ขอเป็นวันหยุด

สวัสดีค่ะคุณP

  เราไปด้วยกันทางกายไม่ได้ ก็ขอไปด้วยกันทางใจนะคะ เที่ยวให้สนุกกับอีก 2 ตอน แล้วรับของฝากกลับไปด้วยค่ะ

 ขอบคุณสำหรับการเอื้อเฟื้อแก่นักท่องเที่ยวสัญจร คงได้มีโอกาสแวะหาแน่นอนค่ะ

สวัสดีค่ะครุเสือP

  ครูเสือสอนวิธีทำภาพให้ชัดเจนหน่อย ถ่ายมาชัดเจนดี แต่พอนำมาย่อลงบล็อก ออกมาไม่สวย ภาพไม่ละเอียด สอนวิธีที่ภาพ แล้วออกมาชัดเจนเหมือนในกล้องค่ะ มีภาพเยอะมาก แต่ลงแล้วดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท