สมองกับความทรงจำ


การจัดโต๊ะเรียนเป็นรูปแบบต่างๆที่หลากหลาย และพอใจของแต่ละคน เพื่อให้รู้สึกมั่นคง ทำให้สมองรับความรู้ได้ง่ายขึ้น
กลยุทธ์ของความทรงจำ
เราจะให้เด็กสามารถจำความรู้ต่างๆ ได้ดังนี้
1.        Mind mapping หรือ Webbing เช่น แสดงความคิดหลัก และรายละเอียดปลีกย่อย วิธีนี้จะทำให้เกิดการสรุปรวบยอด และเข้าถึงความจำได้ดีที่สุด วิธีการคือ เขียน ความคิด หัวข้อที่กลางแผ่นกระดาษแล้วลากโยงเส้นสีต่างๆ กันไปที่แต่ละรายละเอียด โดยใช้คำน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจวาดรูป หรือสัญลักษณ์ เพื่อแสดงคำอธิบาย
2.       
การตั้งคำถามปลายเปิด หรือให้เด็กตั้งคำถาม หรือกำหนดคำตอบหรือให้เด็กตั้งคำถาม
3.        การสรุปใจความสำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของการคิดซับซ้อนได้
4.       
การแสดงบทบาทตัวละครในเรื่องที่เรียน (บางวิชา) เช่น ประวัติศาสตร์ สงคราม
5.       
การถกเถียงกัน
6.        คำย่อจากหลายๆ คำนำหน้า เช่น WTO ฯลฯ  
7.        ลำดับเวลาได้ผลดีในวิชาประวัติศาสตร์
8.        การทดสอบความรู้
9.        ถอดคำให้ง่ายเข้า จากคำพูดของผู้เขียนมาเป็นภาษาเด็กๆ
10.     ในการเรียนการสอนควรจัดกลุ่มกัน ผลัดกันสอนหรือให้วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล เมื่อเปลี่ยนหัวข้อที่สอน ก็จะเปลี่ยนกลุ่มกัน หรือเปลี่ยนที่นั่งกัน ทำให้มีความหลากหลาย สนุกสนาน หรือเปลี่ยนสีกระดาษ การจัดโต๊ะเรียนเป็นรูปแบบต่างๆที่หลากหลาย และพอใจของแต่ละคน เพื่อให้รู้สึกมั่นคง ทำให้สมองรับความรู้ได้ง่ายขึ้น
11.     เมื่อต้องการให้เด็กจำได้อาจจะต้องสอบในสถานที่ ที่เคยเรียนรู้
12.     การใช้ดนตรี การเต้นรำ กีฬา รูป เสียง เกมช่วยในการเรียนรู้ เช่น ตบมือ กระโดดเมื่อตอบคำถามได้ การทำให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกายขณะเรียน จะทำให้สนุกสนาน และจำได้ง่ายขึ้น การใส่ข้อมูลในดนตรี โคลง กลอน ภาษิตล้วนทำให้จำได้ง่ายขึ้น
13.     การทำให้สิ่งแวดล้อมในห้องเรียนมีความสุข และทำให้มีอารมณ์ดี
14.     อาจทำให้เด็กเสนอวิธีเรียนเอง ทดสอบเป็นครั้งคราวว่าเด็กเข้าใจไหม
15.     ดารฉลองกันหลังเรียนจบแต่ละเรื่อง การตกแต่งห้องเรียนเพิ่มความแปลกใหม่ 16.     กำหนดจุดมุ่งหมายต้องการรู้อะไร และจำกัดเวลา (dead line setting)
17.     เรียนรู้ด้วยการกระทำ
       
o        ร้อยละ10 เกิดจากสิ่งที่เราอ่าน
       
o        ร้อยละ20 เกิดจากสิ่งที่เราได้ยิน
       
o        ร้อยละ30 เกิดจากสิ่งที่เราได้เห็น
       
o        ร้อยละ50 เกิดจากสิ่งที่เราได้เห็นและได้ยิน
       
o        ร้อยละ70 เกิดเมื่อเราได้ถกเถียงความคิดเห็นกัน
       
o        ร้อยละ80 เกิดเมื่อเราได้สัมผัสกับตัวเอง
       
o        ร้อยละ90 เกิดเมื่อเราได้สอนคนอื่น
ที่มา    พท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธุศรี
ประธานเครือข่าย พ่อ แม่ เยาวชน เพื่อการปฏิรูปการศึกษาhttp://advisor.anamai.moph.go.th/tamra/child/brain05.html
หมายเลขบันทึก: 143135เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2007 22:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 23:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

สนใจเรื่องนี้อยู่พอดี  ขอบคุณค่ะที่บันทึกข้อมูลดีๆไว้

ดีค่ะคุณแก้ม ใช้ได้เลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท