วันก่อนแวะเข้าไปอ่านเรื่องระบำรำฟ้อนของอาจารย์บัวชูฝัก แล้วฝากไว้ว่าจะเล่าเรื่องผ้าโบราณ จากจิตรกรรมฝาผนัง ของวัดเมืองน่าน ได้ถ่ายภาพจากหนังสือเอาไว้แล้ว วันนี้พอจะมีเวลา จึงขอนำภาพมาประกอบการเล่าเรื่องให้ได้ทราบกันนะครับ
ในการเล่าประวัติผ้าไทย ภาพจิตรกรรมฝาผนังในวิหารวัดหนองบัว จังหวัดน่าน มักจะได้รับการยกเป็นตัวอย่างอยู่เสมอ ภาพผ้าไทยในวิหารนี้ เป็นภาพสตรีสูงศักดิ์ นุ่งผ้าซิ่นอย่างดี มีลวดลายสวยงาม
ผมได้มีโอกาสไปแวะที่วัดหนองบัวเมื่อคราวทำสารคดีเรื่องผ้าอยู่ช่วงหนึ่ง ได้ถ่ายทำภาพจิตรกรรมฝาผนังเอาไว้ทั้งหมด ถ่ายด้วยกล้องเบต้า เป็นเทปวิดีโอสำหรับการออกอากาศโทรทัศน์ ไม่ได้ถ่ายภาพนิ่งเอาไว้เลย เพราะคิดว่า อย่างไรเสียก็คงได้แวะไปอีกครั้งสองครั้งเป็นอย่างน้อย แต่ในที่สุดก็ไม่ได้แวะไปอีก อดเสียดายไม่ได้
แต่ยังโชคดี มีหนังสือ "เมืองน่าน MUANG NAN" ของกรมศิลปากร (จัดทำขึ้นเป็นหนังสือนำชมในวโรกาสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน จังหวัดน่าน เมื่อวันศุกร์ ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2530) จึงได้มีโอกาสนำภาพเหล่านี้มาถ่ายทอด บอกต่อกัน
จิตรกรรมฝาผนังในวัดหนองบัว มีหลายภาพ อายุคงไม่เก่ามากนัก วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2405 มีภาพชาวต่างชาติเข้ามา มีภาพวิถีชีวิตสมัยโบราณ จากจันทคาธชาดกด้วย
สำหรับภาพอ้างอิงเรื่องผ้านั้น เข้าใจว่าเป็นภาพสตรีบนหลังช้าง ภาพหนึ่งมีสตรีนั่งในสัปคับ อีกคนเป็นควาญนั่งด้านหน้า กับภาพรบบนหลังช้าง สตรีคนหนึ่งยืนรำดาบ รบกับชายชาตรีบนหลังช้างเช่นกัน
ภาพที่นำมาให้ชมนี้ เป็นภาพนั่ง จะเห็นลายผ้าซิ่นชัด ว่าหญิงที่นั่งในสัปคับนั้น ใช้ซิ่นที่สวยงาม ลักษณะแบบตีนจก แต่มีลายสีทอง เข้าใจว่าทอดิ้นทอง ที่มีราคาแพง ตรงปลายเป็นทางยาวลงมา ทางเหนือเรียกว่า "หางสะเปา" เป็นระบายชายผ้า ถัดลงมาจากตีนซิ่นซึ่งเป็นผ้าจก มีพื้นแดง
หญิงที่นั่งคอช้างจะนุ่งซิ่นแบบเดียวกันหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เห็นตีนจกดำเป็นพื้น ลวดลายจิตรกรรมฝาผนังอาจจะลอกไปก็ได้ แต่ดูแล้วก็เห็นว่าเป็นผ้าซิ่นตีนจก ใส่ดิ้นทองสวยงาม หญิงทั้งสองไม่ใส่เสื้อ คนหนึ่งห่มสไบ อีกคนมีผ้าคาดอก เพื่อความสะดวกคล่องตัว เพราะนั่งหลังช้าง
อีกภาพ เป็นหญิงกำลังนุ่งผ้าซิ่น ลักษณะการทบแบบจับที่ขอบเอวด้านเดียว (ชาวไทยทรงดำ นุ่งแบบกางซิ่น แล้วจับสองข้างเอว แล้วพับทบสองข้างมาตรงด้านหน้า แล้วพับลง, วันหลังมีภาพมาให้ชม) จับปลายไปทบด้านขวาแล้วพับลง คล้ายการนุ่งซิ่นทั่วไป ลวดลายบนตัวซิ่น เป็นแถบ ขวาง ซึ่งมีลักษณะคล้ายผ้าลายน้ำไหลแบบไทยลื้อ
ลักษณะผ้าในจิตรกรรมฝาผนัง ในวัดหนองบัวนี้ มีบางลักษณะที่แตกต่างไปจากผ้าในปัจจุบัน บางลักษณะก็มีความคล้ายกันอยู่ เราคงไม่สามารถนำภาพจิตรกรรมมาเป็นหลักฐานการนุ่งห่มเสียทีเดียว แต่ก็น่าจะเป็นหลักฐานส่วนหนึ่งที่ควรจะพิจารณา
ในบันทึกเรื่องต่อไป จะได้เล่าถึง ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ในวัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน ซึ่งมีผ้าโบราณให้ได้ศึกษาเช่นเดิมครับ
สวัสดีครับ คุณนายกาแฟ
สวัสดีครับ คุณย่ามแดง
สวัสดีครับ เป็นจิตรกรรม เป็นงานศิลปะ ที่น่าชื่นชมยิ่งนัก
ขอบคุณครับผม
ดีจัง ได้อ่านเรื่องพร้อมมีภาพประกอบ ขอบคุณคุณcoffee_mania ที่กดดัน อิ อิ
ชอบจริงๆ รออ่านอีกนะคะ
สวัสดีครับ คุณรักชาติ ท. บ. พล ทหาร
ขอบคุณมากครับ ที่แวะมาเยี่ยมชม
จิตรกรรมฝาผนังในวัดหนองบัวยังมีอีกหลายภาพเลยครับ ถ้ามีโอกาสลองแวะไปชมนะครับ
สวัสดีครับ คุณพี่คุณนายดอกเตอร์
ไม่ใช่คุณ coffee_mania คนเดียวครับที่กดดัน
หลายคนเลย อิๆ
จะพยายามหาภาพมาประกอบให้ได้ครับ บางเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ทยอยตามไปใส่ บางเรื่องอาจต้องตามไปถ่ายใหม่ ครับ
ขอบคุณมากครับที่ติดตามมาตลอด ;)
สวัสดีครับ อาจารย์ขจิต
ก็เข้าได้มั่งไม่ได้มั่งครับ
ถ้าไม่มีเมนู ก็ต้องใส่โค้ด html เองเลย ไม่งั้นตัวหนังสือติดเป็นพืด
ไม่ต้องกดดันแล้วนะครับ อิๆๆ
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ คุณnaree suwan
ลองนุ่งหลายๆ แบบดูสิครับ อิๆ
คนที่เขาชำนาญบอกว่าไม่ต้องมีเข็มรัดก็ได้
ถ้าสาวๆ รุ่นใหม่บอกว่ายังไงก็ต้องมีเข็มขัดคาด จะได้อุ่นใจ
จิตรกรรมฝาผนังตามวัดน่าสนใจครับ มีภาพที่บางทีเราก็นึกไม่ถึง
ขอบคุณมากครับที่แวะมาชมทุกบันทึกเลย
สวัสดีครับ ป้าแดง
วัดหนองบัว คนละที่กับวัดภูมินทร์ครับ
วัดหนองบัวอยู่ท่าวังผา เลยอำเภอเมืองขึ้นไป วัดภูมินทร์อยู่ในตัวเมือง
จิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ต้องแหงนหน่อย ด้านล่างๆ ก็มี แต่ตอนบนๆ จะสมบูรณ์กว่า
ขอบคุณที่เข้ามาทักทายครับ
สวัสดีครับ คุณซาหริ่มหวาน
เมืองน่านมีประวัติยาวนานครับ มีบันทึกเรื่องราวเก่าแก่ทีเดียว วันหลังคงได้เล่าเรื่องเมืองน่าน (หรืออาจมีท่านอื่นๆ เล่า) กันฟังอีกยาว อิๆ
ผ้าเมืองน่าน คนส่วนมากคุ้นเคยกับผ้าลายน้ำไหล ความจริงมีผ้าทอลายอื่นๆ ด้วยครับ
ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ
สวัสดีครับ อ.บัวชูฝัก
ตอนที่ผมไปวัดหนองบัว น้ำท่วมเพิ่งจะลด เข้าใจว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังคงจะเสียหายไม่มากก็น้อย ถึงไม่โดนน้ำโดยตรง ก็โดนความชื้นอยู่ดี
งานศิลปะพวกนี้ชำรุดเร็วมากครับ ไม่ได้เห็นสักปีสองปี กลับไปอีกที จำไม่ได้ เลือนหายไปเยอะ เว้นแต่จะมีการบูรณะกัน
คงถูกใจอาจารย์นะครับ บันทึกถัดไปจะเล่าเรื่องภาพในวัดภูมินทร์ครับ
ลวดลายผ้าที่ปรากฎบนจิตรกรรมฝาผนังวิหารวัดภูมินทร์ ส่วนใหญ่แล้วเป็นลายผ้าที่มีอยู่จริง ซึ่งผมได้ศึกษาผ้าน่านและมีความรู้ที่จะอธิบายได้ อีกทั้งยังสามารถทอลวดลายผ้าต่าง ๆ ตามที่ปรากฎตามรูปภาพได้อีกด้วยครับ สนใจเรื่องผ้าโบราณคุยกับผมได้ครับ 0896650792
ศิลปะไทลื้อมีความโดดเด่นเฉพาะตัว สวยมากครับ