ที่จริงเขาเรียกงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งโดยหลักการเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่วิธีดำเนินการ มักอ้างความเร่งด่วนทำงานแบบมักง่าย และก่อความน่าสงสัยว่าจะตกเป็นโอกาสของคนมักมาก (ในผลประโยชน์อันมิชอบ) หรือไม่
ในการประชุม “การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ” ของมูลนิธิแพทย์ชนบท ที่พัทยา วันที่ ๒๘ ส.ค. ๕๒ มีคนยกตัวอย่างการออกแบบกั้นชั้นล่างของสถานีอนามัย ด้วยงบกระตุ้นเศรษฐกิจ SP2 โดยกำหนดแบบก่อสร้างตายตัวมาจากส่วนกลาง ให้มีประตูเดียว แก้ไขแบบไม่ได้เพราะต้องก่อสร้างให้เสร็จโดยรวดเร็วเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คนเล่า ซึ่งมาจากสถานีอนามัย บอกว่าเท่ากับก่อสร้างเพื่อจะทุบใหม่ เพื่อเจาะประตูและหน้าต่างเพิ่ม
มีคนเล่าว่าเงินกั้นผนังนี้ งบ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ต่อหนึ่งสถานีอนามัย มีงบสำหรับ ๑,๖๐๐ แห่ง กองแบบแผนของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขออกแบบมาตรฐาน ๓ แบบ ส่งให้ สสจ. ระบุว่าจะเอาแบบไหนภายใน ๒ วัน ถ้ามัวชักช้าก็เท่ากับไม่เอา คือต้องเลือกระหว่าง ๓ แบบกับไม่ได้งบประมาณเลย สสจ. ก็ต้องกาเลือก ๑ แบบไป เรื่องเล่านี้รายละเอียดที่ได้บางส่วนอาจไม่แม่นยำนัก
หมออีกคนหนึ่ง ต้องการทำงานสร้างสรรค์ ลาออกจาก รพช. ไปทำงานเป็นลูกน้องเจ้าหน้าที่ของสถานีอนามัย ซึ่งปรับเป็น รพสต. (โรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพประจำตำบล) เล่าว่า รพสต. คำชะอี จ. มุกดาหาร ได้งบประมาณ ๘ แสน โดยมีรายการครุภัณฑ์ให้เลือกว่าจะเอาอะไร ปรากฎว่ารายการใหญ่ๆ ราคาสูง เป็นสิ่งที่ โรงพยาบาลมีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม แต่ครุภัณฑ์ที่ต้องการอย่างยิ่ง ไม่มีในรายการ และไม่สามารถเขียนขอเป็นพิเศษได้ ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้อยู่ในงบ SP2 หรือไม่ แต่เขาเอามาเล่าเพื่อให้เห็นความแข็งทื่อในการบริหารของราชการ หมอคนนี้ชื่ออนุวัตร แก้วเชียงหวาง
เอามาลงบันทึกไว้ เพื่อจะบอกว่าประเทศของเรายังสามารถใช้เงินภาษีอากรของประชาชนให้ก่อผลดีต่อส่วนรวมได้อีกมาก หากการบริหารราชการมีความยืดหยุ่นแต่ตรวจสอบ (แบบ postaudit) จริงจัง สตง. และ กพร. น่าจะได้เอาใจใส่ และพวกเราทุกคนก็ต้องเอาเรื่องที่ควรปรับปรุงมาเล่าต่อสาธารณะ เพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
วิจารณ์ พานิช
๒๘ ส.ค. ๕๒
เชียงใหม่
เรียนท่านอาจารย์Prof. Vicharn Panich ที่เคารพ
paaoobtong
10/09/52
22:13
เรียน อจ.วิจารณ์ พานิช
ต้องขอชื่นชมความกล้าหาญ ที่หมออนุวัตร แก้วเชียงหวาง ออกมาบอกกล่าวเล่าขานให้สาธารณชนได้รับรู้ และจะสามารถเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ หากพวกเราชาวประชาที่ว่า คนเล็กๆเช่นนี้ ช่วยกันเผยแพร่และบอกต่อ ๆกันไปเรื่อยๆ จากเสียงเล็กๆก็แผ่ขยายกลายเป็นเสียงใหญ่ๆได้ในสังคม คล้ายดั่งระเบิดปรมาณูทางความคิด และเชื่อเหลือเกินว่า ข้าราชการและนักการเมืองกังฉินพวกนี้ จะมียางอายก็ต่อเมื่อถูกจับโกหกได้ เมื่อกลายเป็นข่าว ชาวบ้านบ้านนินทา จากหน้าหนังสือพิมพ์และข่าวลือในอินเตอร์เน็ต นี่คือ action plan แบบ low cost & easy act. สำหรับการปราบคอรัปชั่นยุคนี้ ที่ทุกคนทำได้ แม้แต่เด็กตัวเล็กๆก็ทำได้