ผมดูวิดีโอ “การจัดการความรู้ในงานส่งเสริมการเกษตร” ที่ใช้เปิดงาน KM ของกรมส่งเสริมการเกษตร เมื่อวันที่ ๑๔ – ๑๕ พค. ๕๑ แล้วมีความประทับใจมาก
ประทับใจคำพูดตอนสุดท้ายของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ว่าเขาเปลี่ยนบทบาทของตัวเอง จากนักถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกร ไปเป็นนักจัดการเรียนรู้ของเกษตรกร นี่คือหัวใจของ KM เพื่อเกษตรกรนะครับ เกษตรกรต้องไม่มุ่งรับถ่ายทอดความรู้สำเร็จรูปจากนักส่งเสริมการเกษตร หรือจากนักวิชาการ
ตรงนี้ต้องอ่านดีๆ ไม่ได้หมายความว่าความรู้จากนักวิชาการและจากนักส่งเสริมการเกษตรไม่สำคัญ ความรู้มีความสำคัญแน่นอน แต่เกษตรกรต้องไม่หวังรับความรู้สำเร็จรูป เกษตรกรต้องเอาความรู้จากท่านเหล่านั้นมาปรับให้เหมาะกับสภาพของตน ต้องมีการทดลองว่าใช้ความรู้นั้นอย่างไรจึงจะได้ผลดี ไม่เกิดผลร้าย
วิดีโอนี้ตอนเนื้อเรื่องสุดยอดมาก เป็นกรณีตัวอย่างการจัดการความรู้โดยเกษตรกร ของเกษตรกร เพื่อเกษตรกร ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ โดยเขาเอาเรื่องการจัดการความรู้ของกลุ่มเกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัด อ. ละแม จ. ชุมพร มาเดินเรื่อง ผมชื่นชมคุณวิเวก อมตะเวทย์ เกษตรอำเภอละแม ที่เข้าใจ KM ถึงแก่นจริงๆ และคุณชัชชัย ไพศาล ประธานกลุ่ม เกษตรกรทำสวนทุ่งคาวัด ที่มาร่วมเล่าเรื่องการจัดการความรู้เพื่อผลิตกล้วยหอมทองคุณภาพส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น ได้อย่างเด็ดดวงมาก
เราเห็น “หัวปลา” (KV) ทั้งหัวปลาใหญ่ และหัวปลาย่อย เห็นกระบวนการ ลปรร. ของชาวบ้านจากการปฏิบัติ เอาความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติไปใช้ และพัฒนาต่อ เกิดผลดี ทำให้ผลิตกล้วยหอมทองปลอดสารพิษ คุณภาพสูงส่งออกได้อย่างน่าชื่นใจ
วิจารณ์ พานิช
๑๕ พ.ค. ๕๑