KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ : ๕๓๙. Interdependence


 

 สภาพความเป็นจริงในธรรมชาติ ในสังคม และในองค์กร คนเรา (และสรรพสิ่ง) มีความสัมพันธ์กันแบบคู่ตรงกันข้าม   คือทั้งอิสระต่อกัน (independent, autonomy) และทั้งขึ้นต่อกันหรือพึ่งพิงซึ่งกันและกัน (interdependent)

 
 มนุษย์ปัจจุบันเดินตามวัฒนธรรม “ยิว-คริสต์” ที่มุ่งเอาชนะธรรมชาติ   และประสบความสำเร็จสูงมาก   วัฒนธรรมนี้มุ่งสร้างความเข้มแข็งของปัจเจก    จนเลยเถิด ทำให้มนุษย์ลืมธรรมชาติที่แท้จริงว่าสรรพสิ่งล้วนเกี่ยวข้องพึ่งพิงซึ่งกันและกัน


 เอาชนะธรรมชาติ จนลืมใช้จุดแข็งของธรรมชาติในการสร้างความสุขร่วมกันของมวลมนุษย์ ธรรมชาติ และสรรพสิ่ง


 ความเข้าใจ interdependence และรู้จักนำมาใช้เป็นพลังขับเคลื่อนตนเอง ทีมงาน และองค์กร ทำให้เกิดความราบรื่น ความเคารพซึ่งกันและกัน และความสามัคคีกลมกลียวกันภายในหน่วยงาน


 การปฏิบัติ KM จะทำให้สมาชิกเข้าใจธรรมชาติและพลังของ interdependence โดยไม่ต้องรู้จักคำนี้   ไม่ต้องเข้าใจทฤษฎี    แต่ปฏิบัติและใช้พลังของมัน


 ทุกคนจะเข้าใจข้อจำกัดของตนเอง    และเข้าใจว่าเมื่อมีจุดแข็งของเพื่อนเข้ามาเสริม ตนเองจะทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม หรือง่ายขึ้นกว่าเดิม    เสริมกันไปเสริมกันมาในหมู่สมาชิก สามารถทำในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้


 ร่างกายของมนุษย์ หากขาดส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งไป ความมหัศจรรย์ของความเป็นมนุษย์จะลดลงอย่างมาก 

 
 ร่างกายของมนุษย์มีทั้งอวัยวะที่มี autonomy สูงมาก    และมีทั้งอวัยวะที่แทบไม่มี autonomy เลย   แต่ทุกอวัยวะจะทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือความอยู่รอดของชีวิต   หากอวัยวะใดแตกแถว ชีวิตก็ดำรงอยู่ไม่ได้   อวัยวะเหล่านี้มี interdependence เป็นธรรมชาติ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเข้าใจทฤษฎีหรือหลักการของ interdependence

 

วิจารณ์ พานิช
๒๓ ก.ค. ๕๑

                     

หมายเลขบันทึก: 195929เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2008 11:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 15:28 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท