มุสาวาทในการโฆษณา


          นี่คือ “สติ” อย่างหนึ่ง    ที่จะรับรู้สื่อที่มีการสื่อออกมาแบบโฆษณาอย่างรู้ทันสื่อ    ว่าเขามีวิธีใช้การสื่อแบบ “ครึ่งจริงครึ่งหลอก” แต่สร้างความสนใจ    โน้มน้าวให้เชื่อ


 การบินไทยติดป้ายโฆษณาไว้ที่สนามบินเชียงราย    ไว้ว่าช่วงโปรโมชั่นบินไปกรุงเทพมีราคาเดียว xxxx   ซึ่งเท่ากับที่ภรรยาพยายามจะซื้อ แต่เขาบอกว่าราคาโปรโมชั่นเต็มแล้ว    เพื่อนของลูกไปถามที่เคาน์เตอร์ว่า ซื้อตั๋วราคา xxxx ได้ใช่ไหม    เจ้าหน้าที่บอกว่า ราคา xxxx มีเฉพาะ ๔๐ ที่นั่งต่อเที่ยว


 โฆษณาครีมหน้าขาว ฉายให้เห็นในหน้าหญิงสาวคนเดิมที่ขาวขึ้นๆๆ    ผมเห็นทีไรคิดว่า “โกหก” ทุกที    ผมคิดว่านางแบบโฆษณาคนนั้นไม่ได้ใช้ครีมนั้น   และในหน้าที่ขาวขึ้นในภาพเกิดจากการทำขึ้น ไม่ใช่ใบหน้าที่ขาวขึ้นจริง    ผมถามตัวเองว่าคนคิดโฆษณานี้เขารู้สึกไหมว่าเขาหลอกสังคม


 มุสาวาทในการโฆษณานี้ เป็นการบอกว่าวงการโฆษณายึดถือเกณฑ์คุณธรรมจริยธรรมที่ต่ำหรือเปล่า    ผมขออภัยนักโฆษณาดีๆ ด้วยนะครับ    เพียงต้องการถามออกไปในสังคม และเตือนสติสังคมเท่านั้น


 ทำไมวงการโฆษณาจึงมุ่งข่มเหงรีดเลือดเยาวชนวัยรุ่น โดยเฉพาะวัยรุ่นผู้หญิงกันนัก

วิจารณ์ พานิช
๒๙ ก.ค. ๕๑

                       

หมายเลขบันทึก: 197836เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2008 15:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน 2012 14:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับมาอ่านและลงชื่อไว้ครับ

สื่อโฆษณา สื่อสารมวลชน ทำหน้าที่ตอบสนองกลไกการตลาด ขาดคุณธรรมมานานแล้ว ผู้ชมส่วนใหญ่ได้รับสิ่งเร้า เร้าโลม หลอกลวง โดยไม่รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่สะท้อนมุมมองเพื่อหาทางออกให้กับสังคม ถ้าจะประเมินคุณธรรมของคนสื่อ ต้องพิจารณาจากผลของสื่อว่าให้อะไรที่เป็น ธรรม ที่เป็นคุณกับผู้ชมบ้าง สื่อควรได้รับโทษ สังคมต้องเรียกร้องกฎหมายให้สามารถฟ้องร้องสื่อที่บิดเบือนความเป็นจริง ผ่านกลไกคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือคณะกรรมการ กลั่น กรอง รายการ คล้ายอัยการ ให้มีผู้รับผิด ตั้งแต่สถานี ผู้ผลิต ผู้จ้างผลิต เพื่อให้สื่อเป็นสื่อสีขาว

ใครเป็นใหญ่ คนนั้นต้องรับผิดชอบ

รู้ไหมครับว่า ใคร

วันนี้ถูกเชิญไปบรรยายที่โรงแรมเวล จัดโดยเทศบาลนครปฐมบรรยายเรื่อง สมองกับการเรียนรู้ให้กับแพทย์ พยาบาล ครู ผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็ก 300 คน ฟัง หวังว่าคราวนี้หนูจะได้ตัวคูณบ้างค่ะ!!

จากคำถามสุดท้ายเรื่องโฆษณากับวัยรุ่นและผู้หญิงนั้น เข้าใจว่านักโฆษณาคงรู้เรื่อง she brain/ he brain ซึ่งมีงานวิจัยแสดงความแตกต่างระหว่างสมองของหญิงชายดังนี้ค่ะ น้ำหนักสมองของชายและหญิงพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน สมองบริเวณ corpus callosum ซึ่งเป็นไฟเบอร์เชื่อมต่อระหว่างสมองซีกซ้ายและขวา มีหน้าที่เชื่อมโยงจินตนาการ ความเป็นเหตุเป็นผลของสมอง 2 ซีกนั้น บางรายงานพบว่าผู้หญิงมีความหนาและพัฒนาการดีกว่า แต่บางรายงานพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน ที่มีความแตกต่างกันและเห็นพ้องในทุกการวิจัยคือรูปร่างนิวเคลียสของไฮโปธาลามัสที่มีรูปร่างแตกต่างกันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย ไฮโปธาลามัสมีความสำคัญต่อการควบคุมอุณหภูมิ อารมณ์ การกิน และ sex ดังนั้นพฤติกรรมเหล่านี้จึงมีภาวะการณ์ต่างกันระหว่างหญิงชาย ส่วนวัยรุ่นจะมีระบบลิมบิกพัฒนามากที่สุด ลิมบิกมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ พฤติกรรม จึงทำให้วัยรุ่นถูกกระตุ้นได้ง่ายค่ะ นี่แหละค่ะผู้หญิงและวัยรุ่นจึงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของวงการโฆษณา แต่เมื่อรู้เท่าทันพัฒนาการสมองแล้วเราทุกคนช่วยกันบ่มเพาะทิศทางพฤติกรรม ที่ถูกที่ควรให้ลูกหลานเราได้ค่ะ

จึงเรียนมาเพื่อกระจายองค์ความรู้แก่ชาว blog ที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ทุกท่านค่ะ

กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ

  • ตัวอย่างที่ยกมาเป็นเพียงส่วนน้อยครับ  ที่สาหัสกว่านั้นก็มีอีกมาก  มีเวลาอยากให้ท่านผู้สนใจเปิดวิทยุ AM ย่าน MW ฟังกันดู การหลอกลวง ชวนเชื่อนั้นโจ่งแจ้ง และว่ากันซ้ำๆซากๆอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสรรพคุณของน้ำโน่นน้ำนี่ .. สมุนไพรตัวนั้น ตัวนี้ .. เรียกว่าถ้าจริงตามที่โฆษณากัน .. เราคงไม่ต้องมาทุกข์ทรมานกับหลายโรค หลายเรื่องเลยล่ะครับ
  • แต่ที่น่าเกลียด น่ากลัวกว่า ได้แก่การเอาพุทธธรรม มาปู้ยี่ปู้ยำผ่านคลื่นวิทยุของทหาร และคลื่นส่วนตัวของบางสำนัก .. เป็นการโฆษณาชวนหลง ที่สุดแสนที่จะทนทานได้ หากว่าใครได้ลองสดับ .. ดึกๆยิ่งมีมากครับ .. หลอกกันแบบเหลือเชื่อ .. ผมอัดเสียงตอนเด็ดๆไว้เยอะครับ .. แต่ก็ได้แค่เอามากลุ้มอยู่คนเดียว เคยลองโทรไปแจ้งศูนย์พิทักษ์พุทธศาสนา ก็ไม่เห็นได้เรื่องได้ราวอะไรครับ

เห็นด้วย เห็นด้ยว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท