สวัสดีครับมาอ่านและลงชื่อไว้ครับ
สื่อโฆษณา สื่อสารมวลชน ทำหน้าที่ตอบสนองกลไกการตลาด ขาดคุณธรรมมานานแล้ว ผู้ชมส่วนใหญ่ได้รับสิ่งเร้า เร้าโลม หลอกลวง โดยไม่รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่สะท้อนมุมมองเพื่อหาทางออกให้กับสังคม ถ้าจะประเมินคุณธรรมของคนสื่อ ต้องพิจารณาจากผลของสื่อว่าให้อะไรที่เป็น ธรรม ที่เป็นคุณกับผู้ชมบ้าง สื่อควรได้รับโทษ สังคมต้องเรียกร้องกฎหมายให้สามารถฟ้องร้องสื่อที่บิดเบือนความเป็นจริง ผ่านกลไกคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือคณะกรรมการ กลั่น กรอง รายการ คล้ายอัยการ ให้มีผู้รับผิด ตั้งแต่สถานี ผู้ผลิต ผู้จ้างผลิต เพื่อให้สื่อเป็นสื่อสีขาว
ใครเป็นใหญ่ คนนั้นต้องรับผิดชอบ
รู้ไหมครับว่า ใคร
วันนี้ถูกเชิญไปบรรยายที่โรงแรมเวล จัดโดยเทศบาลนครปฐมบรรยายเรื่อง สมองกับการเรียนรู้ให้กับแพทย์ พยาบาล ครู ผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็ก 300 คน ฟัง หวังว่าคราวนี้หนูจะได้ตัวคูณบ้างค่ะ!!
จากคำถามสุดท้ายเรื่องโฆษณากับวัยรุ่นและผู้หญิงนั้น เข้าใจว่านักโฆษณาคงรู้เรื่อง she brain/ he brain ซึ่งมีงานวิจัยแสดงความแตกต่างระหว่างสมองของหญิงชายดังนี้ค่ะ น้ำหนักสมองของชายและหญิงพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน สมองบริเวณ corpus callosum ซึ่งเป็นไฟเบอร์เชื่อมต่อระหว่างสมองซีกซ้ายและขวา มีหน้าที่เชื่อมโยงจินตนาการ ความเป็นเหตุเป็นผลของสมอง 2 ซีกนั้น บางรายงานพบว่าผู้หญิงมีความหนาและพัฒนาการดีกว่า แต่บางรายงานพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน ที่มีความแตกต่างกันและเห็นพ้องในทุกการวิจัยคือรูปร่างนิวเคลียสของไฮโปธาลามัสที่มีรูปร่างแตกต่างกันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย ไฮโปธาลามัสมีความสำคัญต่อการควบคุมอุณหภูมิ อารมณ์ การกิน และ sex ดังนั้นพฤติกรรมเหล่านี้จึงมีภาวะการณ์ต่างกันระหว่างหญิงชาย ส่วนวัยรุ่นจะมีระบบลิมบิกพัฒนามากที่สุด ลิมบิกมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ พฤติกรรม จึงทำให้วัยรุ่นถูกกระตุ้นได้ง่ายค่ะ นี่แหละค่ะผู้หญิงและวัยรุ่นจึงเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของวงการโฆษณา แต่เมื่อรู้เท่าทันพัฒนาการสมองแล้วเราทุกคนช่วยกันบ่มเพาะทิศทางพฤติกรรม ที่ถูกที่ควรให้ลูกหลานเราได้ค่ะ
จึงเรียนมาเพื่อกระจายองค์ความรู้แก่ชาว blog ที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ทุกท่านค่ะ
กราบเรียนท่านอาจารย์ที่เคารพ
เห็นด้วย เห็นด้ยว