คนโดยทั่วไปคุ้นเคยกับการทำงานแบบแบ่งงานกันทำ แต่ละคนรับผิดชอบงานส่วนของตน โดยมีกลไกการประสานงานด้วยวิธีต่างๆ วิธีนี้แตกต่างจากวิธีทำงานแบบ KM ซึ่งก็มีการแบ่งงานกันทำเหมือนกัน แต่มีอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญเท่ากัน หรือสำคัญยิ่งกว่า คือร่วมกันรับผิดชอบและชื่นชมความสำเร็จของงาน
การทำงานแบบไม่มี KM ในหัวใจ คนหน้างานเพียงแต่ทำงานตรงหน้าของตน ไม่ได้รับรู้หรือสนใจงานในภาพใหญ่ เพราะคิดว่านั่นคือหน้าที่ของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายจัดการ แต่การทำงานแบบมี KM ในหัวใจ ทุกคนร่วมกันวางยุทธศาสตร์และร่วมกัน ทำงาน และพัฒนางาน เพื่อบรรลุภาพใหญ่ คือนอกจากรู้งานของตน รู้ความสเร็จของตนแล้ว ยังรู้งานของเพื่อน และชื่นชมความสำเร็จของเพื่อน และเอามาเป็นข้อเรียนรู้ของตนด้วย นี่คือ Team Learning
ในกิจกรรม Learn During มีการทำ AAR เพื่อตรวจสอบความสำเร็จ และการปรับปรุงวิธีการร่วมกัน โดยมีเป้าหมายใหญ่อยู่ที่ความสำเร็จในภาพรวมขององค์กรหรือหน่วยงาน
วิจารณ์ พานิช
๒๓ ส.ค. ๕๑
สวัสดีครับอาจารย์
หากคนในองค์กรตระหนักถึงผลกระทบร่วมกันคงจะเป็นองค์กรที่มีพลังมากทีเดียวครับ
One for all, all for one