• สุ (สุตตะ – ฟัง) จิ (จิตตะ –
หมกมุ่น) ปุ (ปุจฉา – ถาม) ลิ (ลิขิต –
จดบันทึก) ไม่เพียงพอ ต่อความสำเร็จ
• ส่วนที่ขาด คือ ลงมือทำ หรือปฏิบัติ
• สุจิปุลิ เป็นคาถาสำหรับการเรียนรู้เชิงทฤษฎี หรือ explicit
knowledge
• ปฏิบัติ เป็นคาถาสำหรับการเรียนรู้ tacit knowledge
• คาถาสำหรับ KM คือ ปฏิบัติ + สุจิปุลิ
• คาถาที่สมบูรณ์ คือ ปฏิบัติ + สุจิปุลิ + ลปรร.
วิจารณ์ พานิช
๒๕ เมย. ๔๙
ขอบคุณครับสำหรับความรู้
จะนำไปใช้สอนลูกศิษย์ครับ
บาลี ที่ว่า สุ จิ ปุ ลิ ไม่ได้มีไว้เพื่อความสำเร็จครับ แต่กล่าวคือเป็นคาถาหัวใจนักปราชญ์
คือผู้รู้นั่นเอง
ผมคิดว่า พระบาลี กล่าวดีแล้ว ในหน้าที่ของตนๆ
บาทแห่งความสำเร็จนั้นคือ อิทธิบาท ๔ ครับมี
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
พร้อมมูลด้วยความสำคัญและเหตุดีแล้ว :) ครับ
จิ คือ จินตะ ครับ แปลว่า คิด (จินตนาการ)
เป็นหัวใจของผู้รู้ ผู้ศึกษา ครับ
ในทางการวิจัย
สุ จิ ปุ ลิ
นับได้ว่าครบถ้วนกระบวนการหาความรู้
สุ - ฟัง ==> หรือ อ่าน ค้นคว้า
จิ - คิด ==> มีสิ่งที่น่าสงสัยหรือไม่
ปุ - ถาม ==> ตั้งคำถาม สมมุติฐาน ค้นคว้าหาคำตอบ อาจถือได้ว่าเป็นขั้นปฏิบัติก็ได้
ลิ - เขียน ==> เขียนรายงานในสิ่งที่ได้ค้นคว้านั้น
พระพุทธองค์ ทรงบอกไว้ถึง 10 อย่าเชื่อ ตาม กาลามสูตร ด้วย (อย่าจำสับกับกามสูตร นะเออ) ซึ่งทำให้เราต้องรู้จักค้นคว้า พินิจพิเคราะห์เพื่อพิสูจน์