เรากำลังตามล่า หา “โรงเรียนเพื่อศิษย์” ที่ครูร่วมกันลงมือทำ แล้วครูเกิดความสุข กลายเป็น “ครูเพื่อศิษย์” เพื่อจะให้คุณเอกจตุพร ไป “จับภาพ” เชื้อเชิญมาตั้งวง ลปรร. เพื่อขับเคลื่อนเครือข่าย “โรงเรียนเพื่อศิษย์” แห่งประเทศไทย
ผมจึงกลับไปค้นเอกสาร KM ในโรงเรียน ที่โครงการEdKM หรือโครงการที่มีชื่อยาวมากว่า “โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรทางการศึกษาด้วยการจัดการความรู้” จัดพิมพ์ ได้มาตั้งใหญ่ เล่มที่ ๒ คือ “เรื่องเล่าของครูภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ การพัฒนาการอ่าน การเขียน” ของ สพท. สข. ๓
ผมทำตัวเป็น “นักสืบ” สืบเสาะหาร่องรอยของ “โรงเรียนเพื่อศิษย์” และ “ครูเพื่อศิษย์” จากเรื่องเล่า ๑๐ เรื่อง ในหนังสือเล่มเล็กนี้
ผมพบว่า เรื่องเล่าทั้ง ๑๐ เรื่อง เป็นเรื่องเล่าเร้าพลัง เป็นเรื่องราวของความสำเร็จเล็กๆ ที่น่าชื่นชม เรื่องที่แสดงความริเริ่มสร้างสรรค์มากที่สุดในสายตาของผมคือเรื่องที่ ๒ “รวมพลังรัก สร้างนักอ่าน” โดยครูนิภา โชคอรรคนิต โรงเรียนบ้านพรุตู เพราะใช้วิธีให้วาดรูป เล่าเรื่อง เขียนเรื่อง แล้วอ่านให้เพื่อนฟัง เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง และเรียนรู้หลายสาระวิชาในเวลาเดียวกัน ทำให้การอ่านเป็นเรื่องสนุก ไม่น่าเบื่อ รวมทั้งเรื่องนี้ มี KM อยู่ในตัว เพราะได้แนวทางมาจากการไปดูงานที่โรงเรียนชุมชนบ้านทางควาย
เนื่องจาก KM เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการเนียนอยู่ในชีวิตประจำวัน ผมจึงอยากรู้ว่าครู/โรงเรียน ในเรื่องเล่าเหล่านี้ ได้เอาเคล็ดลับวิธีการจากเรื่องเล่าไปปรับใช้กับสาระวิชาอื่นๆ อย่างไรบ้าง ในช่วงเวลาปีเศษที่ผ่านมา มีโรงเรียนใดที่มีกระบวนการริเริ่มสร้างสรรค์การจัดการเรียนรู้จนเกิดความสุขความภูมิใจทั่วทั้งโรงเรียน
ท่านผู้ใดรู้เรื่องราวของ สพท. สข. ๓ โปรดนำมาเล่าสู่กันบ้างนะครับ
สุดยอดของการสร้างสรรค์วิธีสอนภาษาไทย ต้องยกให้ครูวัลย์วิสา แจ้งสว่าง แห่งโรงเรียนวัดท่าไชย สพท. ๒ สุพรรณบุรี
วิจารณ์ พานิช
๒๖ มิ.ย. ๕๒