ชีวิตที่พอเพียง : ๘๗๔. ไปแต่งงานหลานสาวที่เชียงราย



          เป็นการแต่งงานหลานสาวคนที่ ๓ ในปีนี้ คือ เดย์ (ดุษณี พานิช)   แต่งงานกับ โก๊ท (จิรายุทธ เพชรชื่น) ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี   ดังนั้นจึงมีญาติพี่น้องจากทั้งจังหวัดชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางมาร่วมงานกันคับคั่ง   รวมทั้งมีเพื่อนสนิทของน้องชาย คือ นพ. วิชัย พานิช มาร่วมงานจากจังหวัดอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง    เขาบอกว่าจองโรงแรมไว้ต้อนรับ ๕๐ ห้อง

          สาวน้อยของผมจัดการเตรียมหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกล่วงหน้าหลายเดือน   แล้วผมจองตั๋ว แอร์ เอเซีย เช้ามืดวันที่ ๑๖ ต.ค. ๕๒   ราคาไป-กลับ ๒,๕๐๐ บาทเศษๆ   เมื่อมาถามหลานที่เดินทางแบบเดียวกัน เขาซื้อล่วงหน้า ๒๐ วัน ก็ได้ในราคาเดียวกัน  

          เครื่องบินเที่ยว ๖.๓๕ – ๗.๔๐ น. มีผู้โดยสารเต็ม   ภรรยาเขาชอบ ว่าเครื่องบินใหม่ดี   แต่ผมว่าเขาจัดระยะห่างระหว่างแถวที่นั่งชิดเกินไป นั่งไม่สบาย   เขามีระบบ hot seat ที่ได้รับบริการขึ้นเครื่องบินก่อน และระยะห่างระหว่างแถวที่นั่งกว้างขึ้นเล็กน้อย   แต่เราซื้อตั๋วที่นั่งธรรมดา ได้นั่งแถว ๒๔ ซึ่งอยู่ค่อนไปทางท้ายเครื่อง

          ผมเพิ่งได้รับความรู้ ว่าระบบ low-cost airline เริ่มต้นปี ค.ศ. ๑๙๘๐ ที่สหรัฐอเมริกา   โดยการเปลี่ยนกฎการอนุญาตให้เปิดสายการบิน เพื่อลดราคาค่าเดินทางทางอากาศ   แต่ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากแนวคิดนี้กว่า ๒๐ ปีให้หลัง   โดยต้องขอบคุณท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ริเริ่มขึ้น   แต่ความดีของท่านก็ถูกลบล้างที่ผลประโยชน์ทางธุรกิจของตนเอง คือบริษัท แอร์ เอเซีย นี่แหละ

          คนเล่าเรื่องนี้เขาเล่าว่า   บริษัทการบินราคาถูกที่เป็นที่นิยมชมชอบในสหรัฐฯ คือ Southwest Airlines   ที่มีการจัดบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการและผู้โดยสาร   ให้ความประทับใจ   มีการเล่าโจ๊กโดยพนักงาน  และเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารเล่าโจ๊กให้เพื่อนผู้โดยสารฟังด้วย   ที่จริงผมว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นโจ๊กก็น่าจะเอามาเล่าได้   ขอให้เป็นเรื่องเล่าที่น่าประทับใจ 

          น้องชายพาไปเข้าโรงแรมธันยา อินน์ แล้วไปเช่ารถที่บริษัทข้างบ้าน   ได้รถโตโยต้า วีออส ในราคาวันละ ๑,๒๐๐ บาท   แล้วเราก็ออกเดินทางขึ้นเหนือมุ่งไปแม่สาย เพื่อช็อปปิ้งที่ฝั่งพม่า และเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนั้น 

          ระยะทางจากอำเภอเมืองเชียงรายไปแม่สายเพียง ๖๐ ก.ม.   ผ่านอำเภอแม่จัน   ถนนดี คือเป็นถนน ๔ เลน   มีด่านตรวจรถเป็นระยะๆ เข้าใจว่าเพื่อป้องกันคนเข้าเมืองและสินค้าผิดกฎหมาย   ประมาณ ๑๐ ก.ม. เศษๆ ก่อนถึงแม่สาย เป็นเวลาเกือบ ๑๑ น. สาวน้อยบ่นหิว    เราจึงตามป้ายโฆษณาข้าวซอยไก่ร้าน อ. ทองใบโภชนา   ไปกินคนละชาม อร่อยใช้ได้   ซักถามคนขายได้ความว่าคนขายเป็นลูกจ้าง    เจ้าของเป็นอาจารย์ชื่ออาจารย์ทองใบ   ทำอาหารเอามาให้ขาย  มีข้าวซอย กับขาหมูตุ๋นโอวัลติน   ว่ามี ๒ ร้านอยู่คนละฟากถนนห่างกันไม่มาก   โดยที่ อ. ทองใบมีฟาร์มหมูด้วย   

          ก่อนถึงแม่สายมีป้ายบอกเป็นระยะๆ ว่าต้องไปทำใบผ่านแดนที่ที่ว่าการอำภอ   เป็นที่เดียวที่มีบริการนี้   เมื่อไปทำใบผ่านแดนผมก็ต้องบันทึกชื่นชมว่า    บริการทำใบผ่านแดนสะดวกรวดเร็วดีมาก   โดยเรายื่นแค่บัตรประชาชน เขาใช้ระบบคอมพิวเตอร์ และมีพริ้นเตอร์พิมพ์ใบผ่านแดนออกมาเลย   เสียค่าบริการคนละ ๓๐ บาท   รอไม่ถึง ๕ นาทีก็ได้แล้ว 

          เนื่องจากเราไปวันศุกร์ คนที่ผ่านแดนจึงไม่มากนัก   เราจอดรถริมถนนห่างจากชายแดนประมาณ ๑๐๐ เมตร   แล้วเดินผ่านร้านค้าและแผงลอยริมถนนไปยังด่านชายแดน ผ่านด่านไทยที่เพียงประทับตราและลงชื่อ   แล้วเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่สายซึ่งแคบนิดเดียวไปด่านพม่า ที่ประทับตราและรับค่าธรรมเนียม ๑๐ บาท   ผมประทับใจว่าระบบบริการนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้ความสะดวกดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน   และสถานที่ของทั้ง ๒ ประเทศก็สะอาดเรียบร้อยขึ้น 

          ร้านขายของที่ฝั่งพม่าที่ท่าขี้เหล็กเหมือนๆ เดิมในสายตาของผมซึ่งไม่ใช่นักช็อป   ผมตั้งใจไปซื้อวีซีดีสารคดี   และวีซีดีเพลงคลาสสิคที่เป็นของต่างประเทศ ผลิตในประเทศจีน   ซึ่งก็ได้สมใจ  ในราคาและคุณภาพที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ 

          สาวน้อยได้ผจญภัยมากกว่าผม   เพราะเธอชอบเกาลัด   และเมื่อถามราคาก็พบว่าต่อได้กิโลละ ๕๐ บาท   ผมเตือนเธอว่ากิโลของที่นี่ครึ่งเดียวของกิโลไทยหรือน่าจะเท่ากับ ๑ ปอนด์   เธอก็หยวนเพราะต่อแล้ว   และเมื่อกลับมาฝั่งไทยเธอก็ซื้ออีกเพื่อเปรียบเทียบ   ก็พบว่า ๕ กิโลพม่าเท่ากับ ๓ กิโลไทย   เกาลัดที่ซื้อจากฝั่งพม่าจึงแพงกว่าซื้อจากฝั่งไทยเล็กน้อย   น้องชายบอกภายหลังว่าเขาไม่ซื้อเกาลัดฝั่งพม่ากัน   เพราะจะถูกโกงตาชั่ง

          สาวน้อยบอกว่าชักจะหมดแรง   กลับไปนอนพักที่โรงแรมดีกว่า    แต่เราก็ได้เที่ยว ๒ ที่   คือไปไหว้พระธาตุดอยเวาที่ตลาดแม่สายนั้นเอง   ถามคนขายของว่าเอารถขึ้นไปได้ไหม    ได้คำตอบว่าได้ และมีที่จอดรถด้วย   เราจึงขับรถฝ่าร้านค้าและนักท่องเที่ยวขึ้นไป    จากดอยเวามองลงมาเห็นตลาดอำเภอแม่สายและฝั่งพม่า   แยกไม่ออกว่าแม่น้ำเมยที่กั้นเขตแดนอยู่ตรงไหน

          บนยอดดอย ใกล้ๆ พระธาตุ มีประติมากรรมรูปปั้นแมงเวา หรือแมงป่องช้าง เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงพระองค์เวา ที่เป็นกษัตริย์องค์ที่ ๑๐ ในราชวงศ์สิงหนวัติ   และมีอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร   ทั้งหมดนี้เพิ่งก่อสร้างไม่นาน   ที่เป็นของเก่าคือพระธาตุเจดีย์ ซึ่งตามตำนานว่าอายุกว่า ๒ พันปี

          เราไม่ได้แวะชมโบสถ์ซึ่งอยู่ระหว่างทางขึ้นยอดดอย เพราะไม่มีที่จอดรถ   ท่านที่สนใจดูได้จากที่นี่

          ขับรถกลับมาถึงบ้านถ้ำเราเลี้ยวขวาแวะเข้าไปชมถ้ำปลา บ้านโป่งงาม  ต. โป่งงาม  อ. แม่สาย   ติดๆ กันมีวัดถ้ำปลา ผมชอบโบสถ์ที่สร้างหน้าหน้าผาสวยงาม   และมีเจดีย์เก้ายอด สร้างโดยใช้ศิลปะอินเดีย   ที่ถ้ำปลามีสิ่งน่าชม ๓ อย่าง   คือบรรยากาศร่มรื่นสดชื่น   ปลาจำนวนมากในลำธารที่ไหลมาจากถ้ำ    และลิงจำนวนมากที่มาแสดงกระโดดน้ำจากหน้าผาของถ้ำ

          หลังจากกลับมานอนเอาแรงที่โรงแรม ตกเย็นเราไปเดินเที่ยวที่ไนท์ บาซาร์   ซื้อหมูยอสุจินต์สำหรับเอากลับบ้าน   และกินข้าวเย็นง่ายๆ ที่นั่นเลย   ฟู้ด คอร์ท ของ ไนท์ บาร์ซาร์ มีลักษณะเป็นร้านเล็กๆ กว่า ๒๐ ร้าน ๒ ฟากของลานที่มีโต๊ะเก้าอี้วางอยู่เต็ม   จัดเป็นระเบียบเรียบร้อย   อาหารยอดนิยมได้แก่อาหารทะเลจิ้มจุ่ม   และอาหารญี่ปุ่น  

          สาวน้อยบ่นว่าสินค้าที่ไนท์ บาซาร์ เป็นของกรุงเทพ   ไม่ค่อยมีของทางเหนือ   ผมเดาว่า demand dictates supply   และสาวน้อยกับผมไม่ใช่ลูกค้าของเขา   พิสูจน์โดยเราไม่ด้เดินดูของแบบจริงจังเลย   และไม่ได้ซื้ออะไร  

 

๑๗ ต.ค. ๕๒

          พิธีแต่งงานทำแบบล้านนา    มีอาจารย์ผู้ทำพิธีที่เก่งมาก อายุราวๆ ๖๐ ปี   มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ   พิธีมัดมือบ่าวสาว   และพิธีส่งตัวในภาคเช้า   ช่วงที่ผมประทับใจที่สุดคือช่วงส่งตัว   อาจารย์ผู้ทำพิธีกล่าวแนะนำบ่าวสาวว่าพ่อแม่ซึ่งเคยมีประสบการณ์การครองชีวิตคู่ที่มีทั้งช่วงราบรื่นและไม่ราบรื่น   จนได้เลี้ยงลูกเติบใหญ่แต่งงานเป็นหลักเป็นฐานในครั้งนี้   พ่อแม่ต่างก็ต้องการให้บ่าวสาวอยู่กันอย่างยั่งยืน รู้จักถนอมน้ำใจกัน    จึงขอให้พ่อเจ้าสาว  แม่เจ้าสาว  พ่อเจ้าบ่าว  แม่เจ้าบ่าว  และแถมผมในฐานะผู้ใหญ่  ให้คำแนะนำการครองชีวิตคู่   เป็นช่วงที่ทุกคนในพิธี ซึ่งก็มีกัน ๘ คน ต่างก็ร้องไห้หรือน้ำตาไหลทุกคน   เพราะถ้อยคำของผู้ใหญ่แต่ละคนกินใจมาก

          ผมบอกเจ้าบ่าวเจ้าสาวตอนถ่ายรูปร่วมกันในงานเลี้ยงตอนกลางคืนว่า    ให้จดจำความรู้สึกตอนช่วงพิธีส่งตัวไว้ให้ดี   โดยให้จดจำความรู้สึกหรืออารมณ์ ไม่ใช่จดจำเหตุผล   สำหรับเอาไว้ใช้เวลาความสัมพันธ์ไม่ราบรื่น หรือมีอารมณ์ด้านลบต่อกัน

          ผมคิดว่าพิธีแต่งงานแบบล้านนา อย่างที่เดย์-โก๊ท จัดนี้   ให้ความศักดิ์สิทธิ์ และให้คติเตือนใจ ดีกว่าพิธีแบบที่จัดกันในกรุงเทพ   นอกจากคู่บ่าวสาวได้คติเตือนใจแล้ว    แขกที่มาร่วมก็ได้รับสติเตือนใจด้วย

          เดย์เรียนจบปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ   ส่วนโก๊ท จบวิศวะ จากพระจอมเกล้าลาดกระบัง 

          งานเลี้ยงกลางคืนเป็นโต๊ะจีน   ผมประทับใจที่เขามีพิธีแปลก ๒ อย่าง   คือนอกจากฉายภาพเล่าประวัติเจ้าบ่าวเจ้าสาว  และภาพกิจกรรมร่วมกันแล้ว   ยังเอาประวัติของพ่อแม่ทั้ง ๒ ฝ่ายมาฉายให้แขกรู้จักสั้นๆ ด้วย  

          อีกอย่างหนึ่งคือเจ้าบ่าวซึ่งเป็นคนเงียบๆ ได้แสดงความสามารถร้องเพลงลูกทุ่งให้แขกฟัง ๑ เพลง  

          ผมเพิ่งรู้ว่าพิธีโยนช่อดอกไม้ ให้สาวโสดมารับ   เป็นการสร้างความสนุกสนาน เป็นทำนองสร้างโชคให้สาวโสดคนที่รับช่อดอกไม้ได้ เป็นคนที่จะได้แต่งงานเป็นคนถัดไป  

 

๑๘ ต.ค. ๕๒

          เช้านี้ผมได้ออกไปวิ่งออกกำลังและชมบ้านเมือง   จึงรู้ว่ามีร้านข้าวต้มอยู่ไม่ห่างจากโรงแรม    รวมทั้งมีร้านก๋วยเตี๋ยวยูนนาน และขายชาจีนด้วย อยู่ใกล้ๆ 

          พบน้องชายมาที่โรงแรมมาส่งแขกกลับบ้านตั้งแต่เช้ามืด   ผมชมว่างานจัดได้เรียบร้อยดี   น้องชายเล่าให้ฟังว่า งานนี้เพื่อนๆ ของเจ้าสาว ๘ คนช่วยกันจัด   มีเรื่องขลุกขลักบ้างตรงที่เจ้าหน้าที่ของโรงแรมลิตเติ้ล ดั๊ก ไม่ค่อยรับผิดชอบงาน ก็ปัดเป่าไปได้ 

          เรากลับกรุงเทพด้วยเที่ยวบิน ๘.๓๕ – ๙.๕๕ น.   สาวน้อยชมว่าเครื่องบินตรงเวลาดีมาก   แต่น้องชายที่อยู่สุราษฎร์ธานีบอกว่าตอนเดินทางมาจากสุราษฎร์ธานีมากรุงเทพและต่อมาเชียงราย เครื่องบิน แอร์ เอเซีย เสียเวลามาก

 

วิจารณ์ พานิช
๑๘ ต.ค. ๕๒

จุดชมวิว  ศาลพระนเรศวร  และประติมากรรมแมงเวา

บนยอดดอยเวา

 

พระธาตุดอยเวา

 

 

อุโบสถวัดถ้ำปลา

 

ภายในอุโบสถวัดถ้ำปลา

 

ถ้ำปลา

 

ดอกรสสุคนธ์ที่บ้านน้องชาย

 

พิธียกขันหมากอย่างง่ายๆ

 

พิธีบายศรีสู่ขวัญ

 

เจ้าบ่าวเจ้าสาวกับพ่อแม่

 

พิธีส่งตัวที่น่าประทับใจที่สุด

 

คู่สมรสกับป้าและลุง

เจ้าบ่าวกำลังครวญเพลงลูกทุ่งในงานเลี้ยงตอนค่ำ

หมายเลขบันทึก: 311124เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2009 14:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 22:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เคยไปเชียงรายครั้งหนึ่งค่ะ..แต่ขึ้นไปกราบพระธาตุดอยตุง... เยี่ยมชมพระตำหนักดอยตุง..และได้ศึกษาพิพิธภัณท์ฝิ่น..ชอบบรรยากาศของเชียงรายมากค่ะ..

 

  • กำลังจะไปเชียงรายพอดีค่ะ อาจารย์ พาคุณแม่ไปเยี่ยมเพื่อนๆ อ.เมือง และ อ.เทิง
  • และเยี่ยมเพื่อนของตัวเอง ที่เชียงแสน แต่เรียกให้มาหาที่ อ.เมืองค่ะ
  • มีแผนจะไปแม่สาย ได้ข้อมูลจากอาจารย์ ก็เลยน่าไปขึ้นเยอะเลย เพราะว่าการทำใบผ่านแดนคงไม่ยากเท่าไร
  • แต่จะพยายามเลี่ยงการซื้อของชั่งกิโลค่ะ อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท