KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ : ๗๒๔. KM เป็นเครื่องมือใช้น้ำดีไล่น้ำเน่า


 ในสังคมและในหน่วยงาน (รวมทั้งในแต่ละคนด้วย) มีทั้งน้ำดีและน้ำเน่า เป็นปรกติธรรมดา


 ที่ไหนน้ำดีเด่น หรือน้ำดีครอบครองพื้นที่ ที่นั่นก็มีความสุข มีชีวิตอย่างปรกติธรรมดา    ไม่ถูกแผดเผาด้วยเพลิงทุกข์


 KM เป็นเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ ที่เป็นการเรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่ม เป็นทีม หรือร่วมกันในหน่วยงาน    เรียนรู้จากการทำงานตามปรกติประจำวัน


 เอาความรู้มา ลปรร. กัน ผ่านการเล่าเรื่อง ใหม่ๆ ก็เน้นเรื่องราวของความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ   ซึ่งในความสำเร็จนั่นเอง มีความรู้    แล้วแต่ละคน แต่ละหน่วยย่อย ก็เอาความรู้ที่ได้จากการ ลปรร. ไปปรับใช้   แล้วนำผลมา ลปรร. อย่างต่อเนื่อง


 ต่อมา เมื่อมีความไว้วางใจต่อกันและกัน สบายใจที่จะเล่าเรื่องราวของความไม่สำเร็จ หรือความผิดพลาด    storytelling ก็จะก้าวสู่ การ ลปรร. จากความผิดพลาด    ซึ่งจะได้ความรู้ในอีกมิติหนึ่ง


 ไม่ว่าจะ ลปรร. จากความสำเร็จหรือความผิดพลาด    เป็นการ ลปรร. ภายใต้เครื่องมือ Appreciative Inquiry   คือในบรรยากาศของมิตรไมตรี ความชื่นชมต่อกัน


 ความสัมพันธ์ระหว่างคนจะดีขึ้น    เรื่องราวดีๆ จะเข้าครอบครองบรรยากาศในหน่วยงาน และครอบครองความสัมพันธ์ระหว่างคน


 ความสัมพันธ์แบบจุกจิก นินทาว่าร้ายระหว่างกัน จะถูกแทนด้วยความสัมพันธ์แบบชื่นชม เห็นคุณค่าซึ่งกันและกัน


 เป็นการเอาน้ำดีไล่น้ำเสียแบบไม่ต้องไล่   น้ำเสียมันเหือดหายไปเอง

 


วิจารณ์ พานิช
๔ ธ.ค. ๕๒

      
          

คำสำคัญ (Tags): #521218#km วันละคำ
หมายเลขบันทึก: 321197เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2009 15:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
วราภรณ์ วานิชสุขสมบัติ

เป็นแนวปฏิบัติที่น่านำไปเผยแพร่และปฏิบัติค่ะ ดิฉันอยากให้สังคมเราเป็นแบบนี้จริง ๆ

น้ำดีมีมากๆดีค่ะ..

นอกเหนือจากทำตนเองให้เป็นน้ำดีแล้ว

ทำอย่างไรจะปรับน้ำเสียเป็นน้ำดีในองค์กรได้

อาจต้องใช้ออกซิเจนช่วยปรับสถาพน้ำ

ขอบคุณค่ะ

แนวทาง KM นี้ ลปรร.  สานเสวนา

ถ้าไม่ใช้ภาษาวิชาการ ศัพท์หรูๆ

ที่ฟังดูไฮไป เราจะเรียกว่า

"จับเข่าเว่ากันเอง"

ได้มั้ยครับ อาจารย์

เรียนคุณยุทธ

ย่อมได้ยู้

วิจารณ์

OK เลย

ขอบคุณครับ อาจารย์

ท่านอาจารย์วิจารณ์

สังคม (สังฆะ) แบบนี้ นับเป็นสังคมแห่ง "KM" ที่นับว่า "ดีและมีคุณค่า" ต่อสังคมไทยอย่างยิ่ง แต่การจะเดินบนเส้นทางนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ต้องอาศัย "วฺุฒิภาวะ" ของคนในองค์กรและหน่วยงาน สรุปคือ "ธรรมใดย่อมไร้ค่า ถ้าไ่ม่ทำ" ขอให้พระธรรมคุ้มครองอาจารย์ให้มีสุขภาพแข็งแรง และเป็นที่พึ่งพา "ทางใจ" และผองศิษย์ทั้ืงมวล

เจริญธรรม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท