วัฒนธรรมการเขียน คือการจดบันทึก เป็นเครื่องมือของการเรียนรู้อย่างหนึ่ง
การเขียนไดอารี่ หรืออนุทิน คือการฝึกคิดกับตัวเอง ฝึกทบทวนเรื่องราวในชีวิตที่ตนประสบ นำมาทำความเข้าใจในหลากหลายมิติ และสรุปออกมาเป็นข้อเขียน
ในยุคไอที มีการเขียนบล็อก ช่วยให้เขียนไดอารี่ส่วนตัวออกเผยแพร่ในวงกว้างได้ เป็นการฝึกเขียนออกมาจากใจ เขียนอย่างอิสระเพื่อปลดปล่อยความรู้ฝังลึก (tacit knowledge) ออกมา
การเขียนบางแบบกระตุ้นจินตนาการ บางแบบกระตุ้นเหตุผล บางแบบกระตุ้นความคิดเชิงระบบ บางแบบกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ
ที่จริงความรู้ของคนเราเขียนออกมาได้ไม่หมด แต่การฝึกเขียนช่วยให้เราสะท้อนภาพความรู้ในตัวเราออกมาได้ชัดเจนขึ้น เป็นรูปแบบหนึ่งของการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น
การเขียนเป็นรูปแบบหนึ่งของการสื่อสาร KM มีการสื่อสารเป็นเครื่องมือ และ KM ในตัวของมันเอง ก็คือเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง เป็นเครื่องมือสื่อสารที่มีความซับซ้อนสูงมาก
การเขียนมีหลายแบบ มีทั้งการเขียนเชิงบรรยาย เชิงพรรณา เชิงระบายอารมณ์ (ดี) เชิงจินตนาการ มีการเขียนออกมาเป็นแผนผัง เช่น ผังความคิด (Mind Map) เขียนออกมาเป็นภาพ ใครถนัดแนวไหนก็ใช้แนวนั้น
สำหรับบางคน การเขียนเป็นยาขม แต่สำหรับบางคน การเขียนเป็นการพักผ่อน บันเทิงใจ
วิจารณ์ พานิช
๒๙ มิย. ๔๙
สำหรับหนู การเขียนที่เพิ่งเริ่มต้นเมื่อเป็นไม้แก่ แต่ได้เรียนรู้ว่า เป็นเครื่องมือในการพัฒนาตนเองได้ดีเยี่ยม ตั้งแต่เรื่องภาษา เรื่องการจัดลำดับความคิดและเรื่องการสื่อสารและการคิดในเชิงบวก ค่ะ
การเขียน นอกจากจะเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจในลักษณะต่างๆ ระดับปัจเจกบุคคลแล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ อาจมีผลไปยังเรื่องการเขียน นั่นคือ การอ่านครับ หากไม่รักการอ่านแล้ว ก็คงยากที่จะเขียนบรรยายออกมาสื่อความหมายได้ครับ
วิชิต