KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ : ๕๘๖. ชาวนาเป็นครูใหญ่โรงเรียนชาวนา



          ชาวนาท่านนี้คือคุณเบี้ยว ไทยลา อายุ ๖๘ ปี แห่งบ้านหนองแจง  อ. ดอนเจดีย์   

          คุณเบี้ยวเข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้เพื่อทำนาแบบไม่ใช้สารเคมีของมูลนิธิข้าวขวัญ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๕   เพราะสนใจการทดลองปลูกข้าวในกระถางดินของ มขข.   ที่ปลูกต้นเดียวแล้วแตกกอมากมาย   โดยที่ตนเองทำนามาทั้งชีวิตก็ไม่เคยเข้าใจเรื่องการแตกกอของต้นข้าว  

          เมื่อเข้ามาเรียนในโรงเรียนชาวนาของ มขข. ก็ได้เรียนรู้เรื่องการทำนาอินทรีย์มากมาย   ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น แม้จะทำนาน้ำฝน ทำได้ปีละครั้งเดียว   ปีไหนฝนแล้งก็ทำนาไม่ได้  เพราะพื้นที่อำเภอดอนเจดีย์ไม่มีชลประทาน   

          เมื่อวันที่ ๓๐ ก.ค. ๕๓ ผมได้ฟังจากปากคุณเบี้ยวเองว่าได้เอาความรู้ที่ได้ไปจัดตั้ง “โรงเรียนชาวนา” ที่ตนเองทำหน้าที่เป็น “คุณอำนวย” ใน ๒ พื้นที่   พื้นที่หนึ่งอยู่ในอำเภอเมือง  จ. สุพรรณบุรี   อีกพื้นที่หนึ่งเป็นที่ไหนคุณเบี้ยวพูดไม่ชัด   และผมก็ไม่มีโอกาสซัก

          การเรียนรู้ทำนาโดยไม่ใช้สารเคมีเป็นการเรียนรู้เพื่อปลดปล่อยชาวนาออกจากการครอบงำโดยสื่อ และโดยโลกาภิวัตน์สารเคมี    ที่เป็นทั้งเพชรฆาตเชิงทำลายสุขภาพ   และเป็นการหลอกเอาผลประโยชน์ไปจากชาวนา 

          ในโลกทุนนิยมวัตถุนิยมโลกาภิวัตน์ ชาวบ้านทั่วไปตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาล้างสมอง   ให้ต้องผลิตต้องบริโภคคามกระแสที่โฆษณาในสื่อ   ที่ในที่สุดแล้วผลประโยชน์ไปตกแก่บริษัทในประเทศพัฒนาแล้วและบริวาร   และที่ร้ายกว่านั้นยังครอบงำลดทอนมิติหรือศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของคนทั่วไป  

          ชาวนาถูกครอบงำมอมเมาให้ทำนาแบบใช้สารเคมี   ซึ่งเมื่อ มขข. พิสูจน์ให้เห็นว่า มีวิธีทำนาแบบไม่ใช้สารเคมี   คือไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ไม่ใช้พันธุ์ข้าวที่บริษัทฝึกให้มีนิสัยชอบปุ๋ยเคมีและอ่อนแอต้องฉีดยาฆ่าแมลง   ชาวนาจะมีรายได้จากการทำนาสูงกว่าวิธีใช้สารเคมี    และนำเอา KM มาจัดกระบวนการเรียนรู้ของชาวนา    คุณเบี้ยวได้มาเข้าเป็นนักเรียนชาวนารุ่นที่ ๑

          ผมต้องการพิสูจน์ให้สังคมไทยเห็นว่า “การเรียนรู้ตลอดชีวิต”   คือการเรียนรู้แบบที่ทุกคนสร้างความรู้ขึ้นใช้เองในการทำมาหากินและการดำรงชีพของตน   และคนทุกคนไม่ว่าจะมีพื้นฐานการศึกษาระดับใด สามารถสร้างความรู้ขึ้นใช้เองได้โดยกระบวนการจัดการความรู้    จึงตื่นเต้นมากที่ได้รับทราบว่า คุณเบี้ยวซึ่งพื้นฐานการศึกษาเพียงแค่ ป. ๓   บัดนี้กลายเป็นครูใหญ่โรงเรียนชาวนา  

          ผมได้เสนอแนะต่อทีวีไทย (Thai PBS) ให้ไปทำสารคดีชีวิตของคุณเบี้ยว   เชื่อมโยงกับการทำนาปลอดสารพิษ   การมีชีวิตที่ดีกว่าทำนาใช้สารเคมี   การเรียนรู้ตลอดชีวิตของชาวนา   และการที่หลานสาวอายุ ๑๒ ปีของคุณเบี้ยวมีความตั้งใจจะสืบต่อชีวิตชาวนา

 

วิจารณ์ พานิช
๓๑ ก.ค. ๕๓
บนรถกลับจากอยุธยา

         
        
            

คุณเบี้ยว ไทยลา กำลังเล่าเรื่องการทำนาปลอดสารพิษ

หมายเลขบันทึก: 391907เขียนเมื่อ 7 กันยายน 2010 16:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • น่าสนใจมากเลยครับ
  • ครั้งก่อนแวะไปที่พี่เดชามา
  • กรณีคุณเบี้ยวถ้ามีการประชาสัมพันธ์
  • จะช่วยให้ชาวบ้านมีทิศทางการทำนาที่ปลอดสารเคมีได้มากเลยครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ คุณเบี้ยวเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้นมากนะคะ พออ่านมาถึงตรงที่หลานของคุณเบี้ยวอยากเป็นชาวนายิ่งรู้สึกดีมากค่ะ

เมื่อสองวันก่อนเพิ่งคุยกับคุณจิ๋ว-ผ้าย้อมครามแม่ฑีตา ซึ่งเขาประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นชมไม่ใช่เพราะทำผ้าย้อมครามขายแล้วรวย แต่เพราะเขามีความสุข ความภูมิใจ สร้างการเชื่อมต่อส่งผ่านความรู้ไปยังรุ่นลูกหลานได้ โดยที่ลูกหลานยินดีมาเรียนรู้ สืบทอดและทำมาหาเลี้ยงชีพ คุณจิ๋วเล่าว่าลูกๆหลานๆเขาอยากเรียนจบเร็วๆแล้วจะมาทำเรื่องผ้าย้อมครามเต็มตัว

การเรียนรู้ที่ทำให้เป็นไท เกิดความภูมิใจในตัวเองและสิ่งที่ตนทำสร้างความสุข ความเบิกบานจากการเรียนรู้เช่นนี้ลูกหลานก็เกิดความมั่นใจที่จะสืบทอดนะคะ

น่าชื่นชมมากครับ

http://www.wisdomthai.com/home/index.php

ลองศึกษาโครงการธารทิพย์ทุ่งทองนะคะ

เป็นอีกหนึ่งท่าน...ครูใหญ่ของชาวนาไทย..

ทรัพยากรดินของเราบอบช้ำและจากสารเคมีมานาน เคยร่วมในหลาย ๆ โครงการเพื่อฟื้นฟูดิน (โครงการเกษตรอินทรีย์ ช่วงปี 2547-48) เมื่อได้อ่านบทความนี้ รู้สึกดีใจและชื่นชมมากจริง ๆ ครับ

นพ.พิพัฒน์ ชุมเกษียร

ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์วิจารณ์ ช่วยเปิดและส่งเสริมปัญญาปฏิบัติของคุณครูเบี้ยว ไทยลา ที่เป็นภูมิปัญญาไทย ทำให้เห็นความจริงของคำสอนของบรรพบุรุษไทย "เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง" เรียน รู้ และ อยู่ กับความจริง มีความสุขกว่ากันอย่างมาก(ทั้งทางสุขภาพกาย และ สุขภาพใจ) ใช้เงินบ้างเท่าที่จำเป็น จึงไม่ใช่สาระหลักของชีวิต

เห็นควรให้สื่อต่างๆ นำไปถ่ายทอดเป็นต้นแบบ

เพื่อคนไทย จะได้มีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ โศก(หนี้ทางการเกษร) โรค ภัย(จากสารเคมี ยาฆ่าแมลงและตนเอง) ทั้งสิ้นเทอญ

ชอบมากและอยากได้รายละเอียดเพราะมีที่นาอยู่เล็กน้อยอาจนำไปใช้บ้างเพราะขณะนี้ซื้อข้าวที่ปลอดจากสารเคมีมาจากจังหวัดอุบลมาหุงแทนข้าวสารทั่วไปในบ้างโอกาส ราคาแพงมาก

เรียน อาจารย์วิจารณ์ ที่เคารพอย่างสูง

เดือนกันยายนนี้มีโอกาสได้ดู สารคดีทาง ทีวีไทย เรื่อง ครูของข้าว ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น คล้ายเกิดความเข้าใจ ว่า เขาเป็นนักวิจัยท้องถิ่น โดยแท้จริง มีการทดลอง วิเคราะห์ วิจัย ในงานของเขาร่วมกับลูกชาย ซึ่งเขาต้องการหาวิธี หรือหาพันธุ์ข้าว ที่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กำลังมาเยือนโลกนี้อย่างชัดเจน รูู้สึกประทับใจวิธีการวิจัยของท่านผู้นี้ ที่หาข้อมูลรอบด้านจากการไปพบนักวิจัยที่เป็นนักวิชาการญี่ปุ่นที่ทดลองเรื่องการปลูกข้าวทุกสายพันธุ์ นักวิชาการที่ทดลองเรื่องพืชทุกชนิดในสภาวะการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงนี้ เป็นต้น นอกจากนี้เขายังได้คุยกับชาวประมงที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติเปลี่ยนแปลงจึงหาปลาได้น้อยลง ร้านอาหารที่ต้องใช้ปลาดิบ และข้าวญี่ปุ่นพันธุ์ดี เขาเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงและคิดหาหนทางอย่างไม่ย่อท้อ ด้วยอุดมการณ์ผู้ผลิตข้าวที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้บริโภค

เมื่อได้อ่านบันทึกของอาจารย์ฉบับนี้ รู้สึกยินดีกับชาวนาไทย ที่มีกำลังสนับสนุนในหลากหลายรูปแบบเพียงแต่ชาวนาไทยจะเลือก หรือค้นเจอ หรือไม่ ถ้าคุณเบี้ยว ไทยลา มีโอกาสได้ออก สารคดีชีวิต ทางทีวีไทย การเชื่อมโยงองค์ความรู้เชิงเปรียบเทียบระหว่าง นักการจัดการความรู้ชาวนาไทย กับนักการจัดการความรู้ชาวนาญี่ปุ่น ก็จะฉายภาพชัดขึ้นที่ ทีวีไทย ทีวีสาธารณะของคนไทย นับว่ามีประโยชน์มูลค่าเพิ่มอย่างเป็นรูปธรรมระดับประเทศและโลก เลยทีเดียวค่ะ

ขอแสดงความนับถือ

คุณลิขิต

ครูเล็ก บันทึกติดปีก

คาราวะครูเบี้ยว ไทยลา ศิษย์รุ่นพี่โรงเรียนชาวนา ขอบคุณข้อเขียนของคุณหมอ

เราเป็นรุ่นน้อง ที่ไม่ได้ทำนา ไปอบรมที่โรงเรียนชาวนาเพราะอยากรู้ ประมาณปี 50-51 มีเพื่อนรุ่นเดียวกันตั้งหลายจังหวัด ล้วนแล้วแต่ชั่วโมงบินสูงทั้งนั้น(สารเคมีสูง+ทางเกษตรอินทรีย์สูง)

หลังจากอบรมกับครูเดชาและครูอื่นๆ เพื่อนชาวนาที่เคยใช้สารเคมีมาหนักๆ รู้สึกจะเปลี่ยนใจบ้างแล้ว ขอให้เปลี่ยนใจไปทำเกษตรอินทรีย์กันให้หมด

เราชื่นชมคนทำนาเกษตรอินทรีย์++เป็นสาวกเกษตรอินทรีย์ 50% (ซื้อข้าวกิน)

สิ่งที่รับรู้จากร.ร.ชาวนา คือ ความตั้งใจจริงของมูลนิธิข้าวขวัญ +ชาวนาน่ารักจริงๆ +จริงใจ ยิ่งได้เห็นสื่อ "สิ้นนาสิ้นชาติ" แล้วน้ำตาหยด เป็นน้ำตาของคนซื้อข้าวกินมาตลอด

แล้วชาวนาผู้มีเลือดชาวนาทั้งชีวิตจะไม่ร้องไห้อย่างไรไหว มันจริงตามเนื้อหานั่นแหละ

ส่วนคนไทยที่เห่อผร่าง.ฝร่าง....หลายๆคน อาจหน้าชาถ้าฟังฝรั่งมาร์ตินพูด (พวกจัดรายการ อะ ทำอาหารก็เปิดเพลงฝร่างคลอ เลี้ยงปูม้า ... ก็เปิดเพลงผร่าง คลอรายการ...โอ..ทำไมไม่ใช้เพลงไทยอะ รายการดีนะ แต่ใช้เพลงฝร่าง มากไป)

เราใช้สื่อที่ได้อนุเคราะห์มาจากโรงเรียนชาวนา เอามาสอนศิษย์ พวกเขาตระหนักและตระหนก เพราะสื่อทีวีของเราไม่เคยมีแบบนี้(ทีวีไทยเจ้านกพิราบสีขาว เป็นความหวังของเราแล้วหละ แล้วก็รายการดี ๆจากอีกหลายช่อง .....เดี๋ยวเขาจะน้อยใจ)

นึกแล้วก้อยากเป็นแอรี พอตเตอร์ จะfreezeee ให้คนที่กำลังโรยปุ๋ยโรงยาฆ่าแมลง หยุดชะงัก แล้วอุ้มไปเข้าโรงเรียนชาวนาให้หมด รับรองกลับมา นาทุกแปลงในเมืองไทย มีข้าวใสๆ ปลอดภัยเปรมปรีด์ ไม่ต้องส่งออก เอาของดีไว้ไทยกิน น่าจะต่อรองกับสินค้านำเข้าอื่นๆ ได้หลายรายการ เนอะ ...ไม่ได้ฝันเกินจริง

  • สวัสดีครับ อาจารย์วิจารณ์
  • กิจกรรมดีครับ ส่งเสริมกำลังใจให้ชาวนา
  • ส่วนมากเขาก็ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่
  • ดีใจแทนชาวนาจริงๆ ครับ

สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์วิจารณ์

ทึ่งมากค่ะ เรื่องการทำนาปลอดสารพิษ

น่ายกย่องชาวนาแบบนี้นะคะ

ส่วนชาวนาที่ดิฉันรู้จัก ไม่มีใครสนใจเรื่องปลอดสารพิษ

ยังทำนาแบบเคมี อยากจะให้เขาหันมาสนใจเรื่องนี้บ้าง

เขาให้คำตอบว่าถ้าเขาทำนาปลอดสารพิษ แล้วนาที่อยู่ติดกันยังใช้เคมี

แมลงศัตรูต้นข้าวทั้งหลาย ก็จะหนีมาอยู่ที่นาเขาหมด นาเขาก็แย่ ก็เลยต้องใช้เคมีแข่งกัน

เรียนท่านอาจารย์

ดีใจจังเลย ที่มีโรงเรียนชาวนาวิถีอินทรีย์ ครั้งแรกนึกถึงโรงเรียนชาวนาที่คานาอันของเกาหลีที่ท่านพลตรีจำลองเคยเล่าถึง พอมีในเมืองไทยดีก็ใจมากค่ะ ก็เป็นลูกหลานชาวนามาก่อนแต่เปลี่ยนอาชีพกันหมดแล้ว เคยดูรายการคนค้นคนตอน แหลมอรหันต์ชาวนาที่ยโสธร ก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว เห็นด้วยกับคุณที่ว่า เงินทองของมายา ข้าวปลาของจริง เพราะเศรษฐกิจพอเพียงเท่านั้นที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ เคยเห็นโรงเรียนสธีวิทยาที่อ.พระพุทธบาท สระบุรี พานักเรียนทำนา ปลูกข้าว แต่ย้ายมาอยู่เมืองเลยได้

20 กว่าปีแล้ว ไม่ทราบว่ายังสอน หรือฝึกเด็กให้ทำนากันอยู่อีกไหม

ขอบคุณเเทนชาวนาเรื่องการทำนาปลอดสารพิษ

ช่วยเติมเต็มความรู้

เป็นกำลังใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท