การหมุนเวียนงาน (Job
Rotation)
เป็นเครื่องมือของการจัดการความรู้อย่างหนึ่ง
ทำให้พนักงานต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ปฏิบัติระหว่างกัน
แต่การประยุกต์ใช้ระบบหมุนเวียนงานภายในหน่วยงานทำยาก
เพราะหัวหน้ามักจะหวงลูกน้องที่ทำงานดี
ไม่อยากให้หมุนไปอยู่หน่วยงานอื่น
ยิ่งถ้าคาดว่าตนจะได้คนที่ทำงานไม่ดีมาทำงานด้วย
ก็จะยิ่งไม่ยินยอมให้มีการหมุนเวียนงาน
อุปสรรคอีกประการหนึ่ง
คือคนที่ทำงานในตำแหน่งเชิงเทคนิค
มักจะหมุนเวียนงานยาก
เนื่องจากหาคนอื่นมาทำงานเชิงเทคนิคนั้นไม่ได้
และตนเองก็ไม่มีทักษะในการทำงานอื่น
ผมเพิ่งไปเห็นที่บริษัทปูนซีเมนต์ไทย (แก่งคอย) ที่เขาใช้วิธีให้มีพนักงานตำแหน่งเดียวกันทั้งหมดภายในส่วนงานหนึ่ง ทำให้สามารถหมุนเวียนงานกันได้ โดยที่คนที่ไม่คุ้นกับงานบางอย่างก็เรียนเอาเองจากเพื่อนร่วมงาน
ระบบไอที และเครื่องจักรอัตโนมัติที่ก้าวหน้ามากในปัจจุบันเปิดโอกาสให้คนแต่ละคนสามารถทำงานได้หลายหน้า หลายทักษะ
นี่คือแนวโน้มสากลของการทำงาน - multitasking แต่แม้จะทำงานหลายหน้าเหมือนๆ กัน แต่ก็รู้กันว่าใครทำงานไหนชำนาญเป็นพิเศษ ก็จะถือผู้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ และคนอื่นๆ ก็จะมาขอเรียนรู้ เป็นการจัดการความรู้อย่างเป็นธรรมชาติ
วิจารณ์ พานิช
๒๙ มิย. ๔๙
คิดตามแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจมากครับ ในมิติของผลสัมฤทธิ์ของงาน คงจะลดลงบ้างในระยะเริ่มแรก แต่ในมิติทางสังคม คิดว่ามีผลดีมากเพราะจะก่อให้เกิดอะไรหลายอย่างเช่น :-
นอกจากเรื่อง Job Rotation แล้ว ในการเปลี่ยนงานหรือได้รับมอบหมายงานใหม่ เช่น On the Job Tranning ถือว่าเป็นเครื่องมือของการจัดการความรู้หรือเปล่าคะ เพราะว่าก็มีแนวคิดเหมือนกัน คือ ผู้ที่เคยปฏิบัตหน้านี้ก่อนจะต้องสอนงานให้กับผู้ที่มารับหน้าที่ใหม่
ขอคำชี้แนะด้วยคะ
มีคำถามค่ะ.. ว่า
1. การหมุนเวียนงานระหว่าง พนักงานที่เป็นงานหลัก และ งาน support สามารถหมุนเวียนกันได้หรือไม่คะ
2. หากมีพนักงานจำนวนมากจากหลาย ๆ แผนก ต่างคนต่างแจ้งความจำนงเข้ามาเป็นจำนวนมาก มีวิธีจัดการจับคู่หรือจัดการความยุ่งยาก หรือขั้นตอน อย่างไรบ้างคะ
3. หากท่านใดมีกรณีศึกษา หรือ ตัวอย่างงานจริงเรื่องของการหมุนเวียนโปรดอนุเคราะห์ด้วย นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
มีคำถามเกี่ยวกับการหมุนเวียนงานค่ะ
คือ ทางบริษัท (เป็นบริษัทญี่ปุ่นค่ะ) มีความประสงค์จะทำการหมุนเวียนงาน โดยจะเริ่มจากการทำ แบบสอบถาม ให้พนักงานได้แสดงความคิด ว่าต้องการ หรือคิดว่าตัวเองเหมาะสมกับงานด้านไหน อีก เป็นการดีหรือเปล่าคะ แล้วพอจะมีแนวทาง หรือรูปแบบที่อื่น ๆ ที่ทำเช่นนี้หรือไม่คะ
กำลังทำวิจัยอรื่งอนี้พอดีเลยค่ะ
งานเขียนของอาจารณ์เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับงานวิจัยของหลาย ๆ คน
ขอบพระคุณมากนะคะ