ปัญญาปฏิบัติประกอบไปด้วยทักษะ ความเชื่อ/ศรัทธา ปฏิภาณไหวพริบ สามัญสำนึก การคิดโดยไม่คิด การปิ๊งแว้บ
ในทางสังคมศาสตร์ มีผู้เสนอคำว่า phronesis แปลว่า practical understanding ดูรายละเอียดได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Making_Social_Science_Matter หนังสือที่เขาอ้างถึง รศ. ดร. อรทัย อาจอ่ำ แห่งสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แปลและจัดพิมพ์จำหน่ายโดยสำนักพิมพ์คบไฟ ในชื่อ "ฟื้นสังคมศาสตร์ : ทำไมการวิจัยทางสังคมจึงล้มเหลว และจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร" สคส. เคยเชิญ ดร. อรทัยมาสรุปเรื่องนี้ให้เราฟังในการประชุมวิชาการจัดการความรู้ โดยที่เราเข้าใจว่าหนังสือเรื่องนี้ว่าด้วยปัญญาปฏิบัติ ซึ่งยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นว่าถูกต้องและสำคัญ เรามี VCD เรื่องนี้จำหน่ายที่ สคส. ด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ Prof. Nonaka มาพูดที่กระทรวงศึกษา ดร. ประพนธ์ไปฟัง และกลับมาบอกว่า ดร. โนนากะ เน้น phronesis
ผมมีความเชื่อว่าปัญญาปฏิบัติมีหลายแบบ บางแบบเน้นเหตุผล บางแบบเน้นอารมณ์ บางแบบหรือในบางสถานการณ์ต้องเน้น evidence-based แต่บางแบบอาจเน้น hunch-based คืออาศัยลางสังหรณ์ หรือประสาทที่หก รวมความแล้วปัญญาปฏิบัติเป็นความรู้บูรณาการ ผมเรียกว่าจับแพะชนแกะ หรือบางทีก็บอกว่าใช้วิธีมั่วแบบไม่มั่ว
ปัญญาแบบนี้มีผู้เรียกว่า "ปัญญา ๒ วินาที" คือเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นใน ๒ วินาทีแรกที่เผชิญหรือประสบสิ่งนั้นหรือสถานการณ์นั้น เป็นปัญญาแบบไม่คิด หรือเรียกว่าปัญญาญาณ (intuition) หนังสือชื่อ "blink : The Power of Thinking Without Thinking" แต่งโดย Malcolm Gladwell บอกว่า"วิธีคิดแบบไม่คิด" นี้ฝึกได้
ผมเชื่อว่า การทำ KM มีส่วนช่วยการฝึกทักษะในการคิดแบบไม่คิด อย่างน้อยตัวผมเองก็ได้ฝึกทักษะนี้จากการทำ KM
วิจารณ์ พานิช
๑๕ กค. ๔๙
เยี่ยมไปเลยครับ เชื่อมโยงได้ดี
ผมอ่านเล่มนี้แล้วยอดมาก
แต่ยังไม่เคยนำไปเปรียบเทียบกับ blink และ Intuition
ผมคิดว่ามีความเหมือนและต่างในบางระดับ
แต่ผมกลับนำไปเปรียบกับ I Ching ศาสตร์โบราณของจีนเสียนั่น
ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความกระจ่างแจ้งวครับ