ในชุมชนนักปฏิบัติ KM [email protected] มีการตั้งคำถามและมีการช่วยกันตอบ ผมได้ความรู้มากจากการเป็นสมาชิกของชุมชนนี้ ต่อไปนี้เป็นคำตอบของคุณ "Nick_Milton" [email protected] ต่อคำถาม what do u mean by 'pre-km' and post-km' persons. The purpose beind keeping these two.
คำตอบของคุณ Nick Milton
Pre-KM means the world before KM, where people only access the knowledge in their own heads
Post-KM means the world after KM, where people can access the knowledge of the organisation
น่าสนใจนะครับ เขาวัดความเป็นคนปฏิบัติ KM ที่การเป็นหนึ่งเดียวระหว่างความรู้ของปัจเจก กับความรู้ขององค์กร ผม
เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่ผมว่าคำตอบของเขามองที่จุดเดียว ไม่ครบถ้วน
ผมขอเติมว่า คน Post-KM เป็นคนที่
- มีทักษะในการเปิดทวารทั้งสี่ ให้ความรู้ปฏิบัติ และสิ่งดีๆ ไหลเข้า-ออก
- มีทักษะในการชื่นชมยินดี
- มีทักษะในการสร้างบรรยากาศเชิงบวก
- มีเจตคติ และพฤติกรรมที่เคารพความรู้ในคน เคารพและเห็นคุณค่าความแตกต่าง
- มีทักษะในการ คว้าความรู้จากภายนอก และควักความรู้จากภายใน
- มีทักษะในการปรับความรู้/วิธีการให้เหมาะต่อบริบท/สิ่งแวดล้อมของตนเอง
- มีทักษะในการเป็น "ผู้นำ"
- มีทักษะในการกระตุ้นตนเอง และกระตุ้นผู้อื่น ให้สามารถนำสิ่งดีๆ ภายในตัวออกมาสร้างสรรค์ คือมีทักษะในการดึง
ศักยภาพที่ซ่อนเร้นออกมาทำประโยชน์
- กรุณาช่วยกันเติมด้วยครับ บันทึกนี้จะสำคัญมากหลังจากประชาคม Gotoknow ช่วยกันเติมแล้ว
วิจารณ์ พานิช
๑๖ กค. ๔๙
เชื่อว่าเมื่อความรู้ใดที่มีอยู่ในตัวเรา เราควรที่จะใช้ความรู้นั้นให้เป็นประโยชน์และถ่ายทอดไปยังคนที่ไม่รู้ หรือคนอื่นๆ ในสังคมด้วยค่ะ
ความรู้บางครั้งอยู่กับเราก็ไม่ได้ไช้ประโยชน์เท่าไหร่ แต่อาจจำเป็นสำหรับบางคนที่ไม่รู้ และ บางคนที่ไม่มีโอกาสหรือศักยภาพเพียงพอ ศักยภาพนี้ไม่ได้หมายถึงแต่เพียงความสามารถเท่านั้น แต่อาจหมายถึงตำแหน่ง หน้าที่ที่เรายืนอยู่ในสังคมแห่งการใช้ความรู้นั้น ความเอื้ออำนวยต่างๆ ต่อความสำเร็จของการนำความรู้ไปใช้
นอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ แล้ว จะสามารถนำความรู้นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยไม่ใช่เฉพาะแต่กับตัวเราแต่กับสังคมที่ยังต้องการความรู้อีกมากจะได้มั้ยคะ
1 ความอดทนต่อความแตกต่างทางความคิด พฤติกรรม และการกระทำ ซึ่งมักจะทำให้เราเบื่อและย่อท้อ
2 ความจริงใจและเข้าใจที่เราจะต้องมีให้ผู้อื่นเพราะฐานของคนไม่เหมือนกัน การพูดจะง่ายแต่ทำจริงมันยากมากๆ
ดิฉันเคยรำคาญลูกน้องที่มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกใจ ก่อนเจอหน้าต้องแผ่เมตตาและสั่งตัวเองว่าเธอไม่มีสิทธเกลียดเลยเพราะถ้าเราไม่ชอบและลูกน้องจับได้ก็จะทำให้เกิดความท้อแท้ค่ะ
เล่าเพื่อ ลปรรค่ะอาจารย์