ดังได้บันทึกแล้วว่าวันที่ ๒๕ สค. ๔๙ (click) ผมไปฟัง ศ. ดร. จรรจา สุวรรณทัต อภิปรายเรื่องนี้ ผมฟังด้วยความอิ่มอร่อยในปัญญา และขอนำมาฝากดังนี้
ปัญหาใหญ่ในสังคมไทยในปัจจุบัน คือการขาดจริยธรรมพื้นฐาน ความอดทน (อดทนต่อความแตกต่างทางความคิด อดทนต่อความแตกต่างหลากหลาย) แนวโน้มของการวิจัยต่างจากสมัยก่อน สมัยก่อนหาความเหมือน เดี๋ยวนี้หาความต่างหรือลักษณะจำเพาะของแต่ละกลุ่ม
ต้องเริ่มจากการอบรมเลี้ยงดูให้อยู่ในกรอบคุณธรรม ๕ ประการได้แก่
(๑) ไม่ก้าวร้าวรุกราน
(๒) ความกตัญญูรู้คุณ ไม่ใช่เฉพาะต่อคน แต่รู้คุณสัตว์ สิ่งของ ด้วย
(๓) เมตตาปรานีต่อกัน มองคนในแง่ดี แง่ให้อภัยได้
(๔) รู้จักบทบาทของหญิงชาย มีการพัฒนาสมตามเพศ วัย
(๕) ความเกรงใจ (มากกว่า consideration - ไม่มีคำภาษาอังกฤษ นักวิชาการฝรั่งจึงใช้คำว่า Kreng Jai Values)
วิธีการที่สำคัญที่สุดคือ family socialization - การหล่อหลอมภายในครอบครัว ในทางสากลให้ความสำคัญมากขึ้น
ต้องให้เยาวชนฝึกที่จะมีอิสระควบคู่กับความรับผิดชอบ เต็มใจที่จะรับผลของการกระทำของตน
วิจารณ์ พานิช
๒๗ สค. ๔๙
ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ......
การฝึกจิตจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเด็กในยุคใหม่ เด็กขาดความอดทน เพราะส่วนหนึ่งเด็กไม่เคยได้รับการฝึกให้อดทน และ รอ
ปัจจุบันเราสอนให้เด็กแสดงออกอย่างอิสระ สอนเรื่องสิทธิหน้าที่ เห็นตนเองเป็นสำคัญ แต่ไม่ได้สอนเหตุผล ความถูกต้องศีลธรรม ฝึกความอดทนการรู้จักรอ ควบคู่ไปด้วย จะเห็นว่าปัจจุบัน จากการสังเกต จะเห็นว่า เด็กสมัยใหม่ ส่วนหนึ่งเป็นคนเจ้าอารมณ์ แสดงออกจากเต็มที ตามความรู้สึก ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ และรออะไรไม่เป็น ขาดเหตุผล วิจารณญาณในการกระทำสิ่งต่างๆ และความคิดวิเคราะห์ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด
ส่วนวีธีการในการแก้ปัญหา ก็ตามที่อาจารย์เขียนด้านบนครับ
การพัฒนาจริยธรรมเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนของเด็กในยุคปัจจุบัน นอกจาก "ครอบครัว" จะมีบทบาทหลักผ่านกระบวนการขัดเกลาและหล่อหลอมแล้ว ดิฉันพบว่า "ครู" ก็เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถช่วยขัดเกลาเด็กได้ ดิฉันขอแบ่งปันผ่านประสบการณ์ที่ทำ 2 ประการคือ 1) การให้เด็กฟังเสียงที่อยู่ข้างในจิตของตนเองที่เรียกว่า "Inner voice" ถ้าเราได้ยินเสียงที่บอกว่า "ไม่ดีนะ" เราควรหยุดคิด ทบทวน แล้วตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่สำคัญเด็กต้องมีจิตที่เข้มแข็งในระดับหนึ่งถึงจะก้าวข้ามผ่านจุดนั้นได้ และ 2) การสอนให้เด็กรู้จัก "การประเมินตนเอง" ทั้งนี้โดยมีมาตรฐานของ "การกระทำความดี" ในหลายหลายมุมมอง แล้วมาพูดคุยกัน ซึ่งการพูดคุยจะทำให้ครูสามารถเรียนรู้ความคิด หรือมาตรฐานความดีของเด็ก ในขณะเดียวกันก็สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองบางเรื่องของเด็กได้ค่ะ
ขออนุญาติร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยค่ะ
ค่านิยมและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ก็มีส่วนที่จะเป็นต้นแบบให้กับเด็กๆด้วย
และบางครั้งพวกผู้ใหญ่ในครอบครัวก็ไม่ยอมรับฟังข้อเสนอแนะและความคิดเห็นของเด็กๆ ทำให้เด็กรู้สึกว่ากลุ่มเพื่อนสำคัญสำหรับชีวิตของเขามากกว่าญาติพี่น้องโดยเฉพาะนักเรียนโรงเรียนประจำ