๑. ทำหรือบันทึกเพื่อโอ้อวด หรือเพื่อเอาคะแนนเป็นเป้าหมายหลัก เพราะจะมีความปลอมอยู่ในนั้นเยอะเกิน
๒. เอาความรู้ในตำรา ในระเบียบราชการหรือหน่วยงานมาเขียน บล็อก
๓. ไม่ได้อยู่บนฐานของชีวิตจริงหรืองานประจำ
๔. คิดว่าการเอาความสำเร็จมา ลปรร. กันนั้น เป็นความสำเร็จระดับ "สุดยอด"
๕. ไม่มีการบันทึก ผลการ ลปรร. หรือบันทึกไม่เป็น บันทึก tacit knowledge ไม่เป็น
๖. ใจไม่เปิด หูไม่เปิด ปากไม่เปิด ตาไม่เปิด หรือเปิด แต่เปิดผิดทาง เปิดแบบมิจฉาทิฐิ เปิดแบบสัมมาทิฐิหมายถึงเปิดโดยมีความเคารพผู้อื่น เห็นความสามารถและคุณค่าของผู้อื่น พร้อมไปกับมั่นใจตนเอง และเห็นข้อจำกัดของตนเอง
๗. ทำในระดับวัตถุ กายภาพ หรือระดับกิจกรรม ไม่ได้ลึกลงไปถึงระดับคุณค่า และจิตวิญญาณ
๘. ไม่ ลปรร. ออกไปนอกกลุ่ม นอกหน่วยงาน ไม่เขม้นหาความรู้จาก Best Practice ของหน่วยงานอื่นมาต่อยอด
๙. ไม่มีการ re-use ความรู้ที่ตนร่วมกันสร้างขึ้น
๑๐. หน่วยงานมีวัฒนธรรมอำนาจยึดครอง
๑๑. .......................................................................... (เชิญช่วยกันเติมครับ)
วิจารณ์ พานิช
๒๗ สค. ๔๙
ตรงประเด็นครับอาจารย์ นี้แหละแนวทาง Gotokrow ครับ เป็นการแสวงหาเครือข่าย เพื่อความร่วมมือระหว่างองค์และบุคคล ในการต่อยอดถึงการเรียนรู้ระดับต่าง ๆ ภายในพื้นที่ที่ประเทศไทยครับ ถ้านำแนวคิดและแนวทางนี้ไปต่อยอดเชื่อว่า แนวทางนี้เห็นผลมากกว่าครับ ขอบคุณครับอาจารย์
องค์กรและองค์ความรู้ครับ
ขอเพิ่มประเด็นครับ พอดีมือกดโพสเร็วไป...
เขียน blog ไม่ได้ดีหากเพราะ
- มัวติดยึดที่รางวัล..
-คิดแข่งขันกับผู้อื่น...แต่ไม่ได้มองพัฒนาการตน...
-ไม่รักที่จะสนุกแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลอื่น....
-ไม่รู้จักและไม่เข้าในคำว่า "มิตรภาพ"
-ไม่รู้จักและไม่เข้าใจคำว่า "ให้"...ให้ด้วยใจและเจตนาที่ดีงาม...
...
ด้วยความเคารพ...คิดออกได้เท่านี้คะ...ณ ตอนนี้
กะปุ๋ม
ต้องมีอารมณ์ดีในขณะที่เขียนค่ะ เป็นอารมณ์ของผู้ให้และเกิดความภาคภูมิใจค่ะ
ขออนุญาตนำมา update ให้ค่ะอาจารย์ http://gotoknow.org/blog/tutorial/126737
1. ทำหรือบันทึกเพื่อโอ้อวด หรือเพื่อเอาคะแนนเป็นเป้าหมายหลัก เพราะจะมีความปลอมอยู่ในนั้นเยอะเกิน
2. เอาความรู้ในตำรา ในระเบียบราชการหรือหน่วยงานมาเขียนบล็อก
3. ไม่ได้อยู่บนฐานของชีวิตจริงหรืองานประจำ
4. คิดว่าการเอาความสำเร็จมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนั้นเป็นความสำเร็จระดับ "สุดยอด"
5. ไม่มีการบันทึกผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือบันทึกไม่เป็นและไม่รู้วิธีในการบันทึก tacit knowledge
6. ใจไม่เปิด หูไม่เปิด ปากไม่เปิด ตาไม่เปิด หรือเปิด แต่เปิดผิดทาง เปิดแบบมิจฉาทิฐิ ไม่เปิดแบบสัมมาทิฐิ หมายถึงเปิดโดยมีความเคารพผู้อื่น เห็นความสามารถและคุณค่าของผู้อื่นพร้อมไปกับความมั่นใจตนเอง และเห็นข้อจำกัดของตนเอง
7. ทำในระดับวัตถุ กายภาพ หรือระดับกิจกรรม ไม่ได้ลึกลงไปถึงระดับคุณค่าและจิตวิญญาณ
8. ไม่ทำการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ออกไปนอกกลุ่ม นอกหน่วยงาน ไม่แสวงหาความรู้จาก best practice ของหน่วยงานอื่นมาต่อยอด
9. ไม่มีการ re-use ความรู้ที่ตนร่วมกันสร้างขึ้น
10. หน่วยงานมีวัฒนธรรมอำนาจยึดครอง
11. ไม่มองในแง่บวก มีอคติกับสรรพสิ่่ง
12. ความไม่เข้าใจวัฒนธรรมการเรียนรู้ ไม่เข้าใจวิธีการใช้บล็อก และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายใต้วัฒนธรรมดังกล่าว
13. ไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ของบล็อกอย่างแท้จริง ใช้การเขียนบันทึกเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ไม่สร้างสรรค์
14. มัวติดยึดที่รางวัล
15. คิดแข่งขันกับผู้อื่น แต่ไม่ได้มองพัฒนาการตน
16. ไม่รักที่จะสนุกในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลอื่น ไม่มีอารมณ์ดีในขณะที่เขียน ซึ่งเป็นอารมณ์ของผู้ให้และเกิดความภาคภูมิใจ
17. ไม่รู้จักและไม่เข้าใจคำว่า "มิตรภาพ"
18. ไม่รู้จักและไม่เข้าใจคำว่า "ให้" ที่เป็นการให้ด้วยใจและเจตนาที่ดีงาม ไม่มุ่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนหรือหน่วยงานของตน และลดตัวตนให้น้อยที่สุด
19. เขียนบล็อกตามคำสั่งของเจ้านาย นายบอกให้เขียนก็เขียนไป
20. อยากจะประชาสัมพันธ์หน่วยงานของตัวเอง
หากท่านคิดเห็นแตกต่างอย่างไรก็สามารถเขียนข้อคิดเห็นต่อยอดกันเข้ามาได้นะค่ะ
ดิฉันอาจจะไม่สามารถสรุปการเขียนblogออกมาเป็นข้อๆได้ค่ะ...แต่อาจจะเล่าในความคิดและประสบการณ์ส่วนตัวว่า....
(ต่อค่ะ)
เล่ามาซะยืดยาวเพียงอยากบอกสั้นๆค่ะว่า....จะเขียนblogไม่ได้ดี ถอดความรู้ไม่ออก...ถ้าหากบรรยากาศการแลกเปลี่ยนไม่เอื้อและไม่ได้ใจจาก bloggers ค่ะ
(ขอประทานโทษนะคะที่ไม่สามารถสรุปให้สั้นได้ด้วยตนเอง...อ.จันทวรรณ สรุปเองนะเจ้าคะ)