KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ : 160. ในสังคมไทยมีวัฒนธรรมย่อยที่ทำ KM ได้ยากง่ายแตกต่างกัน


การฝึกอบรม KM แก่ครูควรต้องใช้เวลากับการฝึกจับประเด็นให้มาก ต้องออกแบบกิจกรรมเพื่อฝึกทักษะนี้เป็นพิเศษ

KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ  : 160. ในสังคมไทยมีวัฒนธรรมย่อยที่ทำ KM ได้ยากง่ายแตกต่างกัน

         ผมเขียนบันทึกนี้จากความประทับใจจากการไปอีสานเที่ยวนี้      คือวันที่ ๑๔ กย. ติดตามคุณอ้อไปจัด KM Workshop ฉบับย่อ ๓ ชม. ให้ รพ. ศรีนครินทร์      และวันที่ ๑๕ ติดตามครูใหม่ไปจัด KM Workshop ฉบับแนะนำ KM ให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา ที่คณะศึกษาศาสตร์ มมส. เนื่องในงาน "วันศึกษาศาสตร์' 49"     โดยที่ผู้เข้าร่วมเป็นครูโรงเรียน กับครูนอกโรงเรียน (กศน.)  

        ๒ หน่วยงานนี้อยู่ในภาคอีสานด้วยกัน     อยู่ห่างกันไม่ถึงร้อย กม.    แต่วัฒนธรรมองค์กร ห่างกันมาก      ผมไม่มองว่าใครดีใครไม่ดี     แต่กำลังหาทางทำความเข้าใจสิ่งที่ผมไปเห็นมา      ว่าประเทศไทยเราจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง ถ้ามีการ ลปรร. ข้ามวัฒนธรรม    

        การมองว่าวัฒนธรรมองค์กรทุกแบบมีทั้งข้อดีและข้อไม่ดีอยู่ในตัวของมัน     และหาทางให้เกิดการ ลปรร. ข้ามวัฒนธรรม คือหัวใจของ KM

        ผมกลับมาถึงบ้านเมื่อคืนกว่าสี่ทุ่มครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ดึกมากสำหรับผม      ตื่นเช้าขึ้นมาก็เมื่อยไปทั้งตัว เพราะเมื่อวานนั่งรถยาวมาก     คือไปเยี่ยมชมกิจการของกลุ่มสหกรณ์น้ำเกลี้ยงเวียงชัย     ห่างออกไปจากมหาสารคามเกือบ ๕๐ กม.     แล้วกลับมามหาสารคามและต่อไปสนามบินขอนแก่น     แต่ผมเหนื่อยแต่กาย     ส่วนใจนั้นลุกโพลงด้วยเชื้อไฟที่ผมรับเหตุการณ์มา ๒ วัน  ๓ เหตุการณ์     ไฟในใจผมมีเปลวลอยขึ้นมาเป็นคำถามว่า "แล้วจะปรับวิธีทำงานของ สคส. อย่างไรบ้าง" 

        KM มันเป็นแค่เครื่องมือ  มันไม่มีชีวิต     มันจะก่อผลดีก็ได้ ก่อผลร้ายก็ได้    อยู่ที่ผู้ใช้  วิธีใช้  ใช้ทำอะไร     ผมมองว่าผลร้ายที่สุดของ KM คือการที่มันถูกเอาไปเป็นเป้าหมายสุดท้าย     มีการเอาไปอวดกัน ว่า "ฉันทำ KM นะ" แล้วก็จบ     ซึ่งก็จะจบจริงๆ คือหน่วยงานนั้นก็จะเดินสู่ "นรกอเวจี" ไป

        สคส. เป็นแค่ "พ่อค้า" เสนอขายเครื่องมือ     ไม่ใช่ผู้ใช้เครื่องมือ     ที่จริง สคส. ไม่ใช่พ่อค้า     เพราะไม่ได้เอากำไรเข้าตัว     หวังกำไรแก่แผ่นดินหรือสังคม     ซึ่งผู้ทำ "กำไร" คือผู้ใช้ "เครื่องมือ" KM นั่นเอง     ไม่ใช่ สคส. 

        ในการทำ KM หัวใจคือ "ตัวปลา" หรือกระบวนการ ลปรร.    ซึ่งจะต้องคู่กับการสะกัด หรือจับประเด็น "หางปลา" หรือ ขุมความรู้ ที่มาจากการ ลปรร.     โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเรื่องเล่า      ผมเริ่มเห็นอย่างชัดเจน ว่าคนในวงการครูจับประเด็นไม่เก่ง     จับออกมาเป็นประโยคสั้นๆ ไม่ค่อยได้     ถ้าเช่นนี้ การฝึกอบรม KM แก่ครูควรต้องใช้เวลากับการฝึกจับประเด็นให้มาก     ต้องออกแบบกิจกรรมเพื่อฝึกทักษะนี้     ซึ่งสำหรับคนในอีกบางวงการ อย่างที่ผมไปเห็นที่ รพ. ศรีนครินทร์ จับประเด็นเก่งมาก     ไม่มีความจำเป็นต้องออกแบบฝึกทักษะจับประเด็นเป็นพิเศษ     สคส. เราเริ่มมีความรู้ความเข้าใจ  สามารถจำแนกแยกแยะ "ลูกค้า" ได้มากขึ้นแล้ว   

        นอกจากนั้น  ในการจัด workshop ทำนองนี้ สคส. ต้องซักซ้อมกับผู้รับผิดชอบจัดงานอย่างละเอียด ในขั้นตอนต่างๆ     จนมั่นใจว่าผู้จัดงานเข้าใจวิธีการประชุมของ สคส. จริงๆ      มิฉนั้น รูปแบบที่ผู้จัดเตรียมไว้ มีโอกาสเพี้ยนไปได้ง่ายมาก     และทำให้ workshop ได้ผลน้อย     ดังที่ผมพบว่า workshop ที่ รพ. ศรีนครินทร์ ใช้เวลา เพียง ๓ ชม.     ได้ผลสำเร็จสูงกว่าที่คณะศึกษาศาสตร์ มมส. มาก  ทั้งๆ ที่ที่ มมส. ใช้เวลา กว่า ๔ ชม.    คือที่ รพ. ศรีนครินทร์ เรามั่นใจว่าจะเกิดกิจกรรม KM ต่อเนื่องได้      แต่ที่ มมส. ผมไม่มั่นใจ    โดยผมคิดว่า ที่คณะศึกษาศาสตร์ มมส. จะต้องปรับ ทีมจัดการเรื่องนี้ จึงจะหวังผลสำเร็จได้

วิจาณ์ พานิช
๑๖ กย. ๔๙

หมายเลขบันทึก: 50404เขียนเมื่อ 16 กันยายน 2006 20:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • ขอบพระคุณท่านอาจารย์หมออย่างยิ่งครับที่กรุณา มมส.
  • คงจะได้รับโอกาสรับการชี้แนะจากทาง สคส. และท่าน อ. หมอ ต่อไปด้วยนะครับ

การฝึกอบรม KM แก่ครูควรต้องใช้เวลากับการฝึกจับประเด็นให้มาก     ต้องออกแบบกิจกรรมเพื่อฝึกทักษะนี้   -----  ขอบพระคุณท่านอาจารย์หมอสำหรับบันทึกนี้เป็นอย่างสูงค่ะ

  • วันพุธนี้ (20 ก.ย.49) ทีม NUKM นำทีมโดยท่านอาจารย์เทียมจันทร์และฟาน้อยจาก QAU  3 คน (ตูน โอ พัช) กำลังจะต้องเดินทางไปทำ Workshop ให้กับครู  กลุ่มโรงเรียนวังเจ้า จ.ตากจำนวนประมาณ 50 คนค่ะ
  • ท่านอาจารย์เทียมจันทร์ได้เคยทำ Workshop ให้กับกลุ่มครูมาบ้างแล้ว  แต่ตูนคิดว่าเราน่าจะประชุมเตรียมการกันอีกครั้งหลังจากอ่านบันทึกนี้ของอาจารย์หมอค่ะ

      ด้วยความเคารพค่ะ

  • ทำ KM กับผู้ที่ไม่มีพื้นฐาน อย่างพวกนิสิตปริญญาตรี (ของผม) นี่ยากสุดๆ แล้วครับ..
  • แต่ก็ไม่ยากเกินความตั้งใจ
  • ขอขอบพระคุณสำหรับบันทึกนี้
  • ด้วยจิตคารวะ

เสียดายมากค่ะที่วันนั้นไม่ได้ไปฟังอาจารย์และทีมงาน 

ทั้งๆที่เคยตั้งใจว่าจะไปให้ได้อ่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท