KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ : 239. KM เพื่อการพัฒนาจิตใจคนทั้งสังคม


การดำเนินการพัฒนาจิตใจ ที่ได้ผลดีนั้น มีอยู่แล้ว และมีอยู่ในหลากหลายบริบท หลากหลายพื้นที่ หลากหลายกลุ่มคน

KM (แนวปฏิบัติ) วันละคำ  : 239. KM เพื่อการพัฒนาจิตใจคนทั้งสังคม

         ในการประชุมวิสามัญ มสส. (มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์) เมื่อวันที่ ๒๙ ธค. ๔๙     ศ. นพ. ประเวศ วะสี แนะนำวิธีนำเอา KM ไปใช้เป็นเครื่องมือดำเนินการพัฒนาจิตใจ หรือสุขภาวะทางจิตวิญญาณของคนทั้งชาติ     ผมจึงนำมาบอกต่อ    ที่จริงผมเอามาตีความ แล้วบอกต่อ

         ต้องเริ่มด้วยวิธีคิดที่ถูกต้องก่อนครับ     โดยคิดว่า การดำเนินการพัฒนาจิตใจ ที่ได้ผลดีนั้น มีอยู่แล้ว     และมีอยู่ในหลากหลายบริบท หลากหลายพื้นที่ หลากหลายกลุ่มคน     มสส. (โดย นพ. ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เป็นผู้จัดการแผนงาน) ไม่ต้องเอาเงินไปให้ทุนหาคนมาทำโครงการหรือกิจกรรมใหม่อีก     มสส. ต้องลบภาพความเป็น granting agency ออกไปโดยเร็ว     เพราะจะหมดแรงอยู่กับการพิจารณาโครงการ (เหมือนกับที่ผมลบภาพการเป็น granting agency ของ สคส. เมื่อ ๔ ปีก่อนเปี๊ยบ)

         กิจกรรมที่ มสส. ดำเนินการเพื่อการพัฒนาจิตใจคนทั้งสังคม คือ KM & Social Communication

         ทำ KM โดยเสาะหาความสำเร็จที่มีอยู่แล้วในสังคมไทย (ด้านการพัฒนาจิตใจ) เชื้อเชิญ และส่งเสริมให้ ลปรร. และเป็นเครือข่ายกัน    แล้ววิเคราะห์สังเคราะห์ความรู้เหล่านั้นยกระดับขึ้น     สื่อสารความรู้เรื่องกิจกรรมพัฒนาจิตใจ ทั้งความรู้ระดับปฏิบัติ และความรู้จากการสังเคราะห์ตีความยกระดับ  ออกไปสู่สังคมวงกว้าง     สร้างความชื่นชมยินดี และสร้างความชื่นชมคุณค่าในมิติของความสุขด้านจิตวิญญาณ ขึ้นในสังคมไทย      ให้เกิดเป็นกระแสขึ้นในสังคม

        เป้าหมายของการดำเนินการ จะเน้นที่เด็กและเยาวชน (ทั้งในและนอกสถานศึกษา) และที่หน่วยงานในระบบสุขภาพและผู้มาใช้บริการหรือเครือข่าย     ผมจึงเสนอให้ มสส. ทำงานร่วมกับภาคีที่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว     โดย มสส. เอาความรู้เข้าไปเสริม และทำงานเชิงวิชาการต่อยอดความรู้จากความรู้ปฏิบัติ      ผมแจ้งข้อมูลว่า มูลนิธิสยามกัมมาจลก็จะสนับสนุนการเชื่อมโยงเครือข่ายด้าน youth development      มีเป้าหมายหวังว่าจะสร้าง "เยาวชนพันธุ์ใหม่" ที่มีจิตสำนึกใหม่     เน้นที่สำนึกสาธารณะ     อาศัยการทำงานอาสาสมัครเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นและประโยชน์สาธารณะในการขัดเกลาจิตใจของตนเอง      มูลนิธิสยามกัมมาจล จะทำงานเชื่อมโยงเยาวชนเหล่านั้น     สร้างกระแสใหม่ ค่านิยมใหม่ ขึ้นในสังคมไทย      มสส. กับ มูลนิธิสยามกัมมาจล จึงสามารถเป็นภาคีกันได้

         ที่จริงงานนี้ก็คือส่วนหนึ่งของเป้าหมายของกระทรวง พม. ที่กำลังหารือกับ ดร. ประพนธ์ ในการนำเอา KM ไปเป็นเครื่องมือ ขับเคลื่อนสังคมที่มีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างพอเพียง  อยู่เย็นเป็นสุข ไม่ทอดทิ้งกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน 

วิจารณ์ พานิช
๓๐ ธค. ๔๙

หมายเลขบันทึก: 70291เขียนเมื่อ 31 ธันวาคม 2006 09:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 16:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

  งานด้านเยาวชน กำลังเป็นปัญหาเกี่ยวกับระบบให้การศึกษา การดูแลของสังคม โดยข้อเท็จจริงแล้วเด็กส่วนใหญ่รู้สึกอ้างว้างเขว้งขว้างอย่างมาก

ระบบในโรงเรียน ครู ผู้บริหาร เอาเวลาไปทำในเรื่องความก้าวหน้าของตนเอง และยุ่งอยู่กับการหาเศษหาเลย ลอยแพเด็ก เมื่อทำจนอุณหภูมิเพิ่มขึ้น เด็กเริ่มไม่ทนอยู่กับสภาพนี้ 

แกก็จะลอยเพครู ลอยแพโรงเรียน ลอยแพการเรียนรู้

ออกไปแสวงหาโลกที่เขาเอื้ออาทรเด็กอกหักทั้งหลาย เช่นสื่อต่างๆ กิจกรรมเชิงลบต่างๆ ยังไม่เห็นกลไกที่เข้มแข็งพอที่จะมารับเรื่องตรงนี้ได้

เด็กชนบทน่ากลัวมาก กินเหล้าขาว40ดีกรี ผสมเครื่องดื่มทั้งหญิงชาย เมามายข้างถนนให้เห็นบ่อยๆ ยังมีเรื่องยาเสพติด เรื่องเพศอีก นับวันจะสร้างวัฒนธรรมแก่นกระด้างมากขึ้น

บางโรงเรียนไม่มีครูคนไหนพูดกับเด็กให้เชื่อฟังได้เลย  เพราะตัวอย่างที่ไม่ดีจากครูเองในโรงเรียนก็มาก โรงเรียนหลายแห่งเป็นแหล่งบ่มเพาะตัวอย่างที่ไม่ดี ผมว่าใครๆก็รู้แต่ไม่กล้าเตะ ปล่อยให้มันลุกลามต่อไปๆๆ เรื่องที่เล่านี้จะบานปลายมากขึ้นๆจนไม่อาจจะควบคุมได้ ถ้าคนที่รับผิดชอบอ่อนแอไม่ตั้งใจแก้ไขทั้งระบบ

ที่โรงเรียนประเมินไม่ผ่านเป็นหมื่นๆโรงนั่น  เป็นลางบอกเหตุขี้ปะติ๋ว ยังมีเรื่องที่ปกปิดปกป้องกันอีกมากนัก ผมเกรงว่าพลังมูลนิธิทำเพื่อเด็กอาจจะไม่มีกำลังพอที่จะฝ่ากระแสเชี่ยวของสังคมวัยรุ่น

วันนี้ผมยังมองไม่เห็นว่า ใครจะเป็นเจ้าของเรื่องตัวจริง และมีแผนแม่บทที่ทรงพลังให้เกิดความร่วมมือกันอย่างจริงจัง

เรื่องเด็กนี่น่ากลัว แต่ก็น่าทำที่สุด  

มาให้กำลังใจอาจารย์ที่คิดทำสิ่งที่ดีๆที่คิดว่ายากมากเพราะสวนกระแสทุนนิยมค่ะ     ขอบคุณแทนเด็กๆค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท