ที่จริงน่าจะใช้คำว่า Positive Change and Continuity คือ KM เป็นเครื่องมือสร้างการเปลี่ยนแปลงและความสืบเนื่อง ด้วยมาตรการ หรือวิธีการเชิงบวก สร้างการเปลี่ยนแปลงโดยขยายจากสิ่งดีๆ ที่มีอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค. ๕๐ มีการประชุมคณะที่ปรึกษาอาวุโสของ รมต. ว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะทำงานคณะที่ ๙ ที่มี นพ. ปัญญา สอนคม เป็นประธาน เสนอเรื่อง "แผนยุทธศาสตร์การสร้างเสริมวัฒนธรรมราชการสาธารณสุข" โดยมีวัตถุประสงค์ ๕ ข้อ ดังนี้
๑. เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการราชการสาธารณสุข ให้มีธรรมาภิบาลเป็นรากฐาน เป็นระบบคุณธรรมที่ส่งเสริมคนดี และการทำความดี
๒. เพื่อสร้างวัฒนธรรมการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข บนพื้นฐานคุณธรรมแห่งวิชาชีพที่เอื้ออาทร อ่อนโยน และใส่ใจต่อความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์
๓. เพื่อให้บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข มีวัฒนธรรมในการตัดสินใจด้วยข้อมูลและความรู้ เป็นบุคลากรมืออาชีพ ที่มีศักดิ์ศรี มีคุณธรรม และคุณภาพ
๔. เพื่อส่งเสริมแบบแผนประเพณีที่ดีงามในสังคมสาธารณสุข โดยสร้างวินัยและแบบแผนการปฏิบัติที่มีคุณธรรม มีเหตุผล และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของสังคมส่วนรวม
๕. เพื่อสร้างกลไกการทำงานด้านการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน
คณะทำงานคณะที่ ๙ เสนอยุทธศาสตร์การดำเนินการ ๕ ข้อ ข้อ ๕ คือ ส่งเสริมการวิจัยและจัดการความรู้ เพื่อสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กร ผมจึงเสนอความเห็นว่า ควรใช้ยุทธศาสตร์ positive / appreciative change คือมีแมวมอง เสาะหาตัวอย่างดีๆ (เป็นบุคคล กลุ่มคน หรือหน่วยงาน) มาเล่าและชื่นชมยกย่อง ให้โอกาสเจ้าตัวได้เล่าว่า คิดอย่างไร ทดลองทำ และฟันฝ่าอย่างไร จึงประสบความสำเร็จในการทำดี จนเป็นที่ยกย่อง ทีมส่งเสริมควรได้กำหนดรางวัล (เน้นการยกย่อง ไม่เน้นรางวัลราคาแพง) ของการได้ไอเดียจากเรื่องเล่าของคน/หน่วยงานอื่น แล้วเอาไปทดลองปฏิบัติจนเกิดผล กรณีเช่นนี้ ควรให้รางวัลทั้งคู่ คือทั้งผู้ share ความรู้/เรื่องราวความสำเร็จ และผู้เอาความรู้ไปประยุกต์ในต่างบริบทหรือสภาพแวดล้อม โดยปรับใช้จนได้ผลดี ในการให้รางวัล ต้องไม่ลืมที่จะให้โอกาสผู้ทำดีได้เล่าความในใจ หรือแบ่งปันความรู้ที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ได้รับการยกย่อง การให้โอกาสเล่าเรื่องราวความสำเร็จของตน ถือเป็นการยกย่องสูงสุด
กระบวนการยกย่อง ชื่นชมความสำเร็จเล็กๆ ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางของวิสัยทัศน์ร่วม (shared vision) อย่างต่อเนื่อง และมีวิธีการที่สร้างความตื่นเต้นคึกคักอยู่ตลอดเวลา จะนำไปสู่การสร้าง positive / appreciative change & continuity โดยไม่รู้ตัว
วิจารณ์ พานิช
๑๕ ม.ค. ๕๐
เรียน อาจารย์วิจารณ์ ที่เคารพ
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. สำนักประกันคุณภาพ มอ.จัดประชุมพัฒนาเจ้าหน้าที่ QA ของคณะต่าง ๆ มีการแลกเปลี่ยนวิธีการทำงานในการรวบรวมข้อมูล การจัดทำรายงานประเมินคุณภาพของแต่ละคณะ
นาได้พูดถึง "วัฒนธรรมคุณภาพ ของคณะแพทย์" ว่า หัวหน้างานแต่ละงาน ตามมาตรฐาน/ตัวบ่งชี้ ตระหนักว่า เป็นความรับผิดชอบของตนที่จะต้องจัดเก็บข้อมูล และรายงานผลงาน หน่วย QA เป็นเพียงผู้ประสานงานในการรวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำ SAR
กลไก วิธีการ "พัฒนาวัฒนธรรมองค์กร" เป็นเรื่องที่นาเกิดคำถามว่าในใจจากการประชุมแลกเปลี่ยนวันนั้น ว่า ทำไมแต่ละคณะจึงมีวัฒนธรรมต่างกัน บทบาทของผู้บริหารในการสร้าง/ชี้นำวัฒนธรรม สำคัญเพียงไร ต้องใช้เวลายาวนานเพียงไรในการปลูกฝังวัฒนธรรมที่ต้องการ
เรื่องเล่าข้างต้นเป็นคำตอบหนึ่งค่ะ
ขอบพระคุณ