การปล่อยให้คนอื่นมีอิสระที่จะโง่งมบ้าง เป็นก้าวสำคัญและยากที่สุดในการพัฒนาจิต เห็นด้วยหรือไม่ครับ!
เห็นด้วยค่ะ...เมื่อทำถึงที่สุดแล้ว การปล่อยให้ผู้อื่นเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง...ขณะที่ตัวเราค่อยๆ ถอยออกไปยืนข้างๆ คือสิ่งที่ยากแต่ต้องทำ..นะคะ อาจารย์ POP...
นกที่บินไปไม่ว่าเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม...ไม่เคยบินใกล้กันเกินไปนัก...แต่จะบินห่างกันมากพอที่ปีกของแต่ละตัวจะสยายได้ ประคองตัวเองได้..และต่างก็เติบโตได้เช่นกัน..จริงไหมคะ
สิ่งที่พึงทำ คือ ทำในสิ่งที่ตนทำได้โดยไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีใครจำได้เมื่องานเสร็จ
ผู้ที่สามารถยืนสงบอยู่หลังฉาก และอวยพรให้ผู้ที่ยืนอยู่หน้าฉากที่ได้รับเสียงปรบมือนั้น...ยอดเยี่ยมและน่านับถือจริงๆค่ะ
และพี่หมอเจ๊เขียนต่อความเห็นไว้ในอนุทิน ว่า
- รับรู้ด้วยใจ เห็นด้วยอย่างเต็มหัวใจ แล้วว่า "ควรอย่างยิ่งที่จะให้บุคคลที่อยากลอง ได้มีประสบการณ์เรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง เพื่อว่าเมื่อเขาจำเริญวัย เขาจะได้ตัดสินใจได้ในสิ่งที่เหมาะควรได้ด้วยตัวเอง"
- เมื่อรับรู้อย่างเข้าใจ การตัดสินใจสำหรับคนที่มีวัยวุฒิกว่าที่จะไม่คอยประคอง คอยช่วย ยากจริงๆค่ะ
- แต่....เพื่อให้เขาเหล่านั้นเติบโตอย่างกล้าแข็ง แข็งแรง ก็คงต้องยอมรับกับการปรับตัว ปรับใจเสียใหม่ค่ะ
ประเด็นที่อยากเขียนต่ออีกนิดคือ เรื่องของดูแลในแบบที่ผู้หญิงควรจะเป็นด้วยค่ะ
คิดว่าในความเป็นผู้หญิง...เรามักจะชอบดูแลผู้อื่น และบางครั้งการดูแลก็จะเลยไปรวบรัดตั้งความหวัง อยากไปมีส่วนร่วมคิด ร่วมรับผิดชอบในสิ่งต่างๆที่คนอื่น(โดยเฉพาะคนที่เราดูแลนั้น)จะทำหรือจะคิดอะไร อย่างไรไปด้วย.....จนทำให้คนที่เราดูแลนั้นแทบจะไม่มีโอกาสได้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
การดูแลใครก็ตามจึงมีความเห็นว่า ควรให้โอกาสแก่คนที่เราดูแล ได้ลองคิดเอง ทำเอง และเรียนรู้เองบ้าง...เราอาจจะถอยออกมายืนข้างๆ หรือยู่ข้างหลังให้เขาได้มีโอกาสแกร่งด้วยตัวเขาเอง ....และต้องปรับใจตัวเอง รู้เท่าทันความคิดของตัวเองให้มากๆ ด้วยนะคะ