บันทึกนี้เป็นบันทึกจากเวทีเสวนาการติดตามการดำเนินงานโครงการพื้นที่ชุ่มน้ำจังหวัดน่าน (โครงการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างมีส่วนร่วมของชุมชนในประเทศไทยและลุ่มน้ำโขง - Community Management of Wetlands in Thailand and the Mekong River Basin) เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๑ ณ วัดอรัญญาวาส ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน
ความมุ่งหวังกับการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำที่น่าน
“ชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีศักยภาพและความสามารถในการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ อย่างชาญฉลาดและยั่งยืน”
สิ่งที่ทำ (เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนและเยาวชน)
๑. สำรวจข้อมูลด้านเศรษฐกิจ-สังคม รวมถึงข้อมูลสัตว์น้ำ พืชน้ำ อาหารป่า
๒. ตรวจวัดคุณภาพของน้ำ ทั้งลำน้ำหลักและน้ำสาขา รวมทั้งการตรวจวัดค่าออซิเจนในน้ำแบบง่ายๆ
๓. การสำรวจพืชน้ำ (ไก) โดยเยาวชน และการศึกษาดูงานแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารจาก “ไก”
๔. การจัดทำแผนที่และเขตแดนพื้นที่ป่าชุมชน
- การเดินสำรวจเขตป่าชุมชน และติดป้ายเขตป่าชุมชน, จับพิกัด GPS และบันทึกค่าพิกัด
- นำค่าพิกัดมาลงในโปรแกรม GIS เพื่อทำแผนที่ป่าชุมชน และคำนวณขนาดพื้นที่ป่าชุมชน
- จัดทำแบบจำลอง ๓ มิติ ของตำบล (Model)
๕. กำหนดกฎ กติกา และคณะกรรมการดูแลป่าชุมชน (ส่วนใหญ่มีอยู่เดิมแล้ว เพยงแต่นำมาทบทวน ปรับปรุงให้เหมาะสม)
๖. จัดตั้งคณะกรรมการพื้นที่ชุ่มน้ำระดับจังหวัด มีการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ และที่สำคัญได้มีมติรับรอง “แผนที่ เขต กฎ กติกา และคณะกรรมการดูแลป่าชุมชนของชุมชน” ที่ได้เสนอขึ้นจากพื้นที่
๗. การสื่อสารสร้างสำนึกในการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ผ่านสื่อต่างๆ เช่น วิทยุชุมชน บทความ แผ่นพับ และเว็ปไซด์
สิ่งที่ค้นพบใหม่
๑. แผนที่ป่าชุมชนที่มีพิกัดอ้างอิง พร้อมแบบจำลอง ๓ มิติ ที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของชุมชนเอง
๒. การรับรอง “แผนที่ เขต กฎ กติกา และคณะกรรมการดูแลป่าชุมชนของชุมชน” โดยจังหวัด
๓. เยาวชนเกิดการเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์น้ำ พืชน้ำ
คำแนะนำและก้าวต่อไป
๑. การขยายพื้นที่จากเดิมที่ดำเนินการใน ๒ ตำบล
๒. เน้นความเข้มข้นของงานด้านพื้นที่ชุ่มน้ำและแม่น้ำน่าน
๓. การประสานงาน/งานเชิงสถาบัน เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐกับชุมชน
ข้อคิดจากคุณแอนดรู มิธเธอร์แมน Consultant Review โครงการพื้นที่ชุ่มน้ำ
@ การดำเนินงานโครงการภายใต้ทรัพยากรและเวลาที่จำกัด ควรเน้น “ตัวอย่างเล็กๆ แต่เข้มข้น ให้มองเห็นชัดเจน” แล้วจึงค่อยขยาย
@ ควรให้สื่อมืออาชีพมาทำเป็นสารคดี เพื่อประโยชน์ต่อคนภายนอก และคนภายในพื้นที่เอง
@ การสร้างสำนึก พ่อแม่ห่วงใครที่สุด คำตอบคือ “ห่วงลูก” เพราะฉะนั้นการสร้างสำนึกให้พ่อแม่ต้องชี้ให้เห็นผลที่จะเกิดกับลูกหลาน
@ คนเมืองนอกมองว่า สัตว์ “มันสวยงาม มันน่ารัก” แต่คนไทยมองว่า “มันอร่อย”
@ ตัวชี้วัดของสิ่งแวดล้อมง่ายๆ คือ น้ำแห้ง ปลาหาย อาหารป่าหาย ซึ่งถ้าเราฟื้นฟูมันก็จะกลับมา
ข้อคิดจาก นพ.ชาตรี เจริญศิริ ศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน
@ มีคำกล่าวว่า “มนุษย์สร้างโลกได้ ถ้าเราปรารถนาให้โลกเป็นแบบไหน” นั่นคือฐานคิดเป็นสิ่งสำคัญ
@ อย่าคาดหวังกับคณะกรรมการจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ เทอะทะ
@ ข้อค้นพบจากโครงการ สามารถนำไปใช้ใน อปท. ตามสิทธิชุมชน และพรบ.องคกรชุมชน
@ อย่าวางใจในคุณภาพของน้ำที่ได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะคุณภาพน้ำในหน้าแล้งแย่มากๆ การให้เยาวชนสำรวจสารเคมีในครัวเรือนที่มีผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ จะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้เห็นแนวโน้มสถานการณ์ปัญหา
@ ควรดูเรื่องนโยบายรัฐที่อยู่เหนือสิทธิชุมชนด้วย เช่น การสัมปทานดูดทราย รวมถึงเส้นแบ่งระหว่างความสะดวกกับธรรมชาติด้วย
ข้อคิดจากพ่อทองผล มหาวงศนันท์ แกนนำชาวบ้าน
@ เราสามารถดูพื้นที่เปรียบเทียบผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อนุรักษ์ป่าไว้กับพื้นที่ที่มีการทำลายป่ารุนแรงได้
ข้อคิดอื่นๆ
@ ควรผลักดันทั้งนโยบายของจังหวัดและนโยบายของท้องถิ่นไปพร้อมๆ กัน
@ ควรนำเรื่องราวดีดีเหล่านี้ไปสื่อสารผ่านสื่อชุมชนให้มากขึ้น เหมือนกับที่เขาโฆษณาให้เราทำลายสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา (ขายปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า)
หวังว่าหลังจากนี้หลายฝ่ายจะช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างจริงจังต่อไป
............................................
ขอบคุณภาพดีดี จากคุณทนงศักดิ์ ธรรมะ โครงการพื้นที่ชุ่มน้ำจังหวัดน่าน
ไม่มีความเห็น