บันทึกนี้สรุปย่อจากหนังสือ “พื้นที่ของชีวิต” ของอาจารย์ถวัลย์ มาศจรัส อีกครั้งหนึ่ง ด้วยเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจค่ะ
4 ขั้นตอนหลักของการเป็น “นักเขียน” คือ การเตรียมตัว สั่งสมประสบการณ์ เก็บข้อมูล และเขียน ลองมาดูรายละเอียดกันนะคะ
1. การเตรียมตัว : ผู้จะเขียนหนังสือได้ดีควรเตรียมตัวอย่างเป็นลำดับด้วยการอ่าน การคิด และการบันทึก
การมีพื้นฐานของการเป็น “นักอ่าน” ทำให้มีข้อมูล เกิดประสบการณ์ แม้ไม่ใช่ประสบการณ์ตรง หากได้เปิดโลกทัศน์และสร้างปัญญา ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งของผู้เขียน
การคิดหลาย ๆ ด้าน หลายแง่หลายมุม และคิดอย่างมีระบบระเบียบจะช่วยให้ ความคิดคมชัด และเมื่อความคิดคมชัดย่อมสามารถสื่อสารกับผู้อ่านได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
การบันทึกเรื่องราวที่ได้อ่าน ฟัง นอกจากทำให้ฝึกการเขียนเบื้องต้นแล้ว ยังทำให้ได้เรียบเรียงความคิด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเขียนต่อไป
2.สั่งสมประสบการณ์ : ทุกคนย่อมมีประสบการณ์ในชีวิตมากน้อย ยากง่ายต่างกันไป นอกจากนี้การสั่งสมประสบการณ์ในการใช้ภาษา ก็มีส่วนสำคัญในการเขียนด้วย เนื่องจากคนที่อ่านหนังสือมาก ฟังคนอื่นพูดมาก ๆ จะซึมซับภาษาในหลายรูปแบบและนำไปประยุกต์ใช้กับข้อเขียนของตนได้
3.เก็บข้อมูล : ข้อมูลนับเป็นวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับการเขียน นอกจากประสบการณ์ของผู้เขียนแล้ว การศึกษาค้นคว้า สอบถามจากแหล่งข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ ก็สำคัญมาก โดยใข้อุปกรณ์และวิธีการต่าง ๆ ที่สะดวกและถนัดของตน เช่น การใช้สมุดบันทึก บัตรช่วยจำ เทปบันทึกเสียง กล่องถ่ายรูป ฯลฯ
4.ลงมือเขียน : เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุด อาจารย์ถวัลย์กล่าวไว้ว่า ต้องจัดเวลาสำหรับการเขียนหนังสือ จากนั้นให้กำหนดเรื่องราวที่จะเขียน และก็...ลงมือเขียน หากเริ่มเขียนได้และหาจุดจบได้ นั่นคือเราได้เขียนหนังสือแล้ว ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ คนอ่านเป็นผู้ประเมินและตัดสิน หน้าที่เราก็คือการพัฒนางานเขียนของเราไปเรื่อย ๆ ค่ะ
ดังนั้น สำหรับผู้ปรารถนาจะเขียน จะเป็นนักเขียน หรือเพียงต้องการสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์และประสบการณ์ของตนสู่ผู้อื่นและสังคมแล้ว จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวจัดสรรเวลาสำหรับการเขียน หมั่นสั่งสมประสบการณ์ เก็บข้อมูลที่ผ่านเข้ามา และลงมือเขียนเป็นขั้นตอนสุดท้ายค่ะ
การเขียนเป็นการบันทึกประสบการณ์ พัฒนาการทางความคิดของเรา ฝึกอ่าน ฟัง คิด เขียนบ่อย ๆ เราจะสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับตนเองและสังคมได้มากมายเลยค่ะ
(^___^)
สวัสดีครับไม่ได้มาทักทายตั้งเกือบปี
สบายดีมั๊ยครับ
วันนี้พาแม่ไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลค่ายประจักษ์ฯที่ จ.อุดรธานี
พอดีเปิดเว๊บเจอเลยแวะมาทักทาย
เดี๋ยวสักวัน บุษราก็จะเป็นนักเขียนที่ดีได้สักวัน
พี่หญิงปิงจ๋า มาอ่าน มาชม เพิ่งได้เห็นภาพอาจารย์นักเขียนท่านนี้นี่เองที่พี่หญิงพูดถึงบ่อยๆ .. พื้นที่ชีวิต น่าสนใจจังค่ะ ขอบคุณเรื่องราวดีๆ มีแบ่งปันกันเสมอ :)
สวัสดีค่ะ..คุณคนไม่มีราก..(ยายธี..ไม่เคยคิดว่า..จะเขียนอะไรๆๆ..ได้..พอมาอ่าน..ตรงนี้..ขอหลบไปยิ้มให้กำลังใจ..ตัวเอง..อ้ะ)...กลับเมืองไทยคราวนี้...คงจะได้พบคุณ.โหล..สักครั้งนะเจ้าคะ..ขอบคุณกับความอบอุ่นที่ได้รับเจ้าค่ะ..ยายธี
เป็นเคล็ดลับที่ดีมากเลยครับ เดี๋ยวขอหยิบไปใช้นะครับ
ชอบอ่านและเขียนเหมือนกัน แต่ยังไม่เป็นเล่มเท่านั้นเอง อิอิ กำลังหาครูอาจารย์ฝากเนี้อฝากตัวครับ
สวัสดีค่ะทุกท่าน ^_^
คุณบุษรา เีขียนบันทึกได้น่าอ่านอยู่แล้วค่ะ... เขียนต่อ ฝึก ๆ ๆ ๆ นะคะ ... คิดถึงค่ะ
คุณmonbaw(หนุ่มนาสวรรค์) เข้าใจว่าทักทายคุณบุษรา... แต่มาที่นี่คนไม่มีรากก็เลยสวัสดีด้วยค่ะ ฮา ๆ และแน่นอนค่ะ คุณบุษราต้องเป็นนักเีขียนในวันหนึ่งค่ะ
น้อง poo เปลี่ยนรูปประจำตัวแล้ว...น่ารักกกก...^_^
สวัสดีค่ะคุณยายธี ... คุณยายธีเป็นนักเขียนเรื่องชีวิตอยู่แล้วนี่คะ เล่าเรื่องสนุก ๆ มากมายเลย... คิดถึงเช่นกันค่ะ
อ.ขจิต ฝอยทอง เล่มนี้เป็นหนังสือล่าสุดของท่านที่เขียนเนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ (Early) ค่ะ ^_^
คุณพ่อน้องซอมพอ เขียนหนังสือน่าอ่านมาก ๆ อยู่แล้ว ยินดีที่สนใจค่ะ ^_^
คุณครูนาย หนังสือเล่มนี้มีหลายเรื่องราวค่ะ โดยเฉพาะเทคนิคของผู้อยากเป็นนักเขียน รวมทั้งประวัติการทำงานของอ.ถวัลย์ มาศจรัส ด้วยค่ะ ยินดีที่สนใจค่ะ
อ.โสภณ เปียสนิท ได้อ่านบันทึกของอาจารย์บ่อยครั้งเลยค่ะ สุดยอดอยู่แล้ว... อยากเป็นนักเขียน ต้อง เขียน เขียนไปเรื่อย ๆ ค่ะ ยินดีที่อาจารย์สนใจค่ะ
.... หวังว่าข้อมูลที่สรุป/คัดลอก/ย่อมานี้คงเป็นประโยชน์กับผู้สนใจและอ่านบันทึกค่ะ...
(^__^)
จากการอ่าน สู่ การเขียน
มาเรียนรู้ เพื่อ สร้างประสบการณ์ครับ
ผมเคยถามนักเขียนคนปักษ์ใต้ นาม รูญ ระโนด ถึงการเขียนหนังสือ ท่านบอกว่า"ต้องรู้ว่าเราจะเขียนอะไร และเขียนให้ใครอ่าน"สั้นๆอย่างนี้แหละครับ
สวัสดีครับ คุณคนไม่มีราก
มีโอกาส ได้อ่านบันทึก ดี ดี ยามดึก
ความสงบเงียบ....เป็นภาวะแวดล้อมที่ดีต่อการจุดประกายในเรื่องที่จะเขียน
หลายต่อหลายครั้ง ผมเขียนบันทึก ยามดึกและเป็นเวลาที่สมองนั่งคิดทบทวน อะไรต่อมิอะไรได้อย่างมากมายนัก
พื้นที่ชีวิตคนเราต่างกัน...แต่ต้องมีสักมุมหนึ่งที่เราจะคล้ายกันได้
....หนังสือเล่มนี้ ของอาจารย์ถวัลย์ น่าสนใจมากเลย นะครับ
ขอบคุณกับบันทึก ดี ดี ก่อนเข้านอน
ราตรีสวัสดิ์ ครับ คุณคนไม่มีราก
สวัสดีค่ะท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
ท่านรูญ ระโนด ท่านให้ข้อคิดที่ตรงที่สุดค่ะ นั่นคือ รู้ว่าเราจะสื่อเรื่องอะไร และสื่อกับกลุ่มเป้าหมายใด นั่นคือ รู้เรา รู้เขา ค่ะ
สังเกตได้ว่าท่านที่เข้ามคอมเม้นท์โดยมากจะเป็นนักเขียนมีฝีมืออยู่แล้วค่ะ
ขอบคุณที่สนใจค่ะ
(^__^)
สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี
ยินดีที่ชอบค่ะ คุณแสง ฯ เองก็เป็นคนหนึ่งที่เขียนหนังสือได้ดีนะคะ อ.ถวัลย์เคยสอนคนไม่มีรากว่า นักเขียนที่ครองใจคนอ่านได้ ไม่ใช่เพราะเขาใส่ ข้อมูล/ความรู้ ไว้ในงานเขียน แต่เพราะงานเขียนของเขา มี "ความรู้สึก" และยิ่งดีขึ้นไปอีกคือ มีทั้ง "ความรู้และความรู้สึก" ค่ะ
และงานเขียนของคุณก็เป็นเช่นนั้น... หากมีเวลาพอจะนำอีกบันทึกหนึ่งเกี่ยวกับการเขียนมาให้อ่านอีกค่ะ
(^__^)