โคลงสี่สุภาพ :คลื่นใต้น้ำ


   ฝั่งฝันเพียงคลื่นเคล้า       เคลียคลอ

สาดซัดฟองลออ                       อุ่นเย้า

ทุกยามฝั่งคอยรอ                      รับคลื่น     สาดนา

ไยคลื่นครวญเฉกเศร้า             โศกล้นเหลือแสน

 

โครมครามยามคลื่นม้วน    สาดมา

เพียงกระทบหินผา                  ผกย้อน

อึกกระทึกหากหา                    เหตุเกิด       ขึ้นนอ

เสียงคลื่นเงียบสะท้อน            เหตุร้ายอาจมี

 

   อำนาจหากหดสิ้น             สูญหาย

   ชนย่อมเกิดเสียดาย                เดือดร้อน

รวมพลก่อกวนหมาย                คืนอำ-    นาจนา

กวนคลื่นกระแสซ้อน               ซ่อนใต้สายชล

 

     จำใจขจัดคลื่นย้อน         ยอกมา

จำยื่นกาลเวลา                          หลอกไว้

จำเป็นเพื่อความผา-                 สุขทั่ว     ไทยนอ

จำพรากพลัดเรือนไซร้             สืบด้วยกฎกรรม

คำสำคัญ (Tags): #ร้อยกรอง
หมายเลขบันทึก: 56327เขียนเมื่อ 29 ตุลาคม 2006 15:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 22:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (56)

ขอบคุณคำกล่าวถ้อย         เชยชม
เยินยั่วเพียงโลมลม            เล่นล้อ
หรือชมชอบคารม              เรียมรจ-    นามา
หยอกเล่นเพียงพจน์พ้อ     เพื่อเย้าหยอกเอิน

ขอบคุณค่ะ 

 

 

 

 

 

 

 

    ชื่นชมคมคำถ้อย        จำนรรจ์
    หยิบยื่นสิ่งสารพัน       สรรสร้าง
    โยงใยใส่แทรกสันติ์    สงบสุข พอเพียง
    หวังจิตมิตรเพิศพร่าง  ผูกไว้ แก่กัน...
  • ชื่นชมค่ะ ...ชื่นชม!
  • พี่เม่ยติดตามมาหลายบันทึกแล้วอย่างมีความสุข

ยินดียามเม่ยร้อย                  เรียงคำ

ชมชื่นบทโคลงนำ                    เสนาะให้

เชิญแลกเปลี่ยนบทรำ-             พันร่วม      กันนอ

เรียมยิ่งยินดีไซร้                        สืบสร้างวงวรรณ๚ะ

 

วาทกรรมที่เรียงถ้อยร้อยคำอย่างนี้เป็นวรรณกรรมที่...อ่านเพลินใจดีมากครับ...ขอแสดงความชื่นชม...

ขอบคุณครับ...

ทะ   เลแม่ว่าห้วย                        เรียมฟัง

ลุ่ม  ว่าดอนเรียมหวัง                  ว่าด้วย

ปุ่ม   เปือกว่าปะการัง                   เรียมร่วม  คำแม่

ปู     ว่าหอยแม้นกล้วย                 ว่ากล้ายเรียมตาม.

...เป็นความงดงามของภาษา...ของศรีปราชญ์...เก็บมาฝากครับ...  

 ท่านUmiฝากกระทู้             มอบมา
ศรีปราชญ์ปราชญ์อยุธยา             เชี่ยวไซร้
ขอบคุณท่านอีกครา                     เยือนเยี่ยม     เรานอ
วันว่างจะตามใต้                           อ่านค้นคุณเขียน

 นายบอนนายหนุ่มโอ้          สะอาด      เอี่ยมนอ
บอกกล่าวการปัดกวาด                เก่งแท้
แนะนำเทคนิคปราชญ์                 คอยปก     ของแฮ
หลายเรื่องหลากรสแล้                ต่างต้องขอบคุณ   

 

อยากให้ช่วยแต่งโคลงสี่สุภาพ เรื่อง ผู้มีพระคุณให้ทีค่ะ  ขอบคุนมากนะคะ

ชื่นชมและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง  ที่มีครูภาษาไทย เช่น ครูภาทิพ  รวมทั้งติดตามผลงาน/บทเรียนต่าง ๆ ของครุภาทิพ ตลอด (แฟนพันธุ์แท้)

เรียงร้อยถ้อยคำเพราะ    จับใจ

ผู้คนชื่นชมไซร้               ทั่วหล้า

ชื่นชอบครูภาทิพ            เก่งแท้ ชื่นชม

อยากเป็นเหมือนครูจัง    เก่งเกินใครใคร

---อาจไม่เพราะแต่ชอบครูมากนะค่ะ---

สวัสดีค่ะ น้องนิน  จากโคลงของหนู

เรียงร้อยถ้อยคำเพราะ    จับใจ

ผู้คนชื่นชมไซร้               ทั่วหล้า

ชื่นชอบครูภาทิพ            เก่งแท้ ชื่นชม

อยากเป็นเหมือนครูจัง    เก่งเกินใครใคร

เกือบได้  แต่โคลงจะมีเรื่องของสัมผัส และเอกโทด้วยค่ะ ดูจากที่นี่นะคะ ครูพร้อมที่คุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ

http://www.st.ac.th/bhatips/klong.htm

         ยลยินภาทิพร้อย-       กรองงาม

จึงใคร่ขอเรียนถาม             เรื่องไซร้

ฝึกฝนร่างคำความ              ฤๅบ่

อุตส่าห์คิดคำได้                 แต่น้อยมึนหัว

   ครูนามาหยิบถ้อย       ถามคำ
ภาทิพตอบลำนำ           เนิ่นช้า
มารดาป่วยทุกข์ทำ        ถลาเยี่ยม    เยือนแล
พุธจวบเสาร์แสนล้า       เร่งล้อคืนหวน

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เหงาเทียน)
๑ ทะเลที่ไร้คลื่น..........สงบ
ไร้คลื่นไร้คู่คบ.................เพื่อนพ้อง
ไร้ฐานถิ่นฝั่งจบ............ตลิ่ง เซาะนา
ไร้คลื่นนั่งเหม่อร้อง.......คร่ำฟ้าเดียวดาย..

๑ ทะเลที่ไร้คลื่น...........สงบ
ไร้คู่หัวใจคบ................ว่าดิ้น
ไร้ดวงดั่งใจสบ.............มิหยั่ง ชีพพี่
ไร้แม่นางคงสิ้น............คลื่นไร้หัวใจ..ฯ

ทะเลเคียงคลื่นเคล้า                 โครมคราม
ปลุกปลอบความเหงาลาม         หลีกเร้น
โบราณบอกทะเลยาม                สยบอย่า  วางใจนา
เฉกหนุ่มครารักเว้น                     วุ่นว้าหาสาว

ทะเลคราคลื่นเคล้า                    เคลียคลอ
เคยหลบพะเน้าพนอ                   เหนื่อยล้า
ถึงคราคลื่นมิรอ                          รักคู่  เดิมแล
ไยคร่ำครวญดุจฟ้า                      กู่ร้องเรียกฝน


 
ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เหงาเทียน)

๑ ทะเลซัดคลื่นครั้ง...................คู่เคียง

โดนคลื่นกลืนอยู่เพียง...............หนึ่งนี้

ก่อนเคยอยู่แนบเนียง.................กายแม่..นุชพี่

ไหลหลั่งโดนขยี้........................คลื่นนี้ไร้นาง..ฯ

๑ วันวันคลื่นหยั่งรู้.....................ใจคน

มิบ่อยู่ไร้ชน................................อื่นบ้าง

เคยหลีกหนีบ่พ้น........................รักบ่วง..เลยนาง

อยู่อย่างไร้น้องข้าง...................พี่นี้อกตรม...ฯ

 มือแรกแย้ม เฮ้ย มือใหม่ครับ

พิจารณาด้วยคร้าบ

๏  สึนามิซัดม้วน              มิตรใจ   ฤาพ่อ
จึงโอดครวญพิไร             ร่ำร้อง
ทะเลผิดโทษใด                นางด่วน    จากฤๅ
ผิดพ่อขอโทษน้อง           เรียกร้องคืนหวน  ๚ะ


๏  หรือทะเลเล่นล้อ            หลอกหญิง
 หลอกคลื่นให้แอบอิง        ชั่วครั้ง
 เจอเรือเร่พักพิง                 พึงพ่อ   อีกนา
พบใหม่ทะเลรั้ง                   คลื่นเศร้าหลบหนี๚ะ

 

ยินดีร่วมเล่นล้อต่อโคลงค่ะ

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

๑ สึนามิบ่ได้..........................พรากมิตร ดอกแม่

ครวญต่างเพราะห่างพิศ.........เพื่อนพ้อง

เพื่อนคุ้นเพื่อนใจคิด...............ใจต่าง..แม่เอ่ย

มิบ่ได้หลอกน้อง.....................เพื่อนชี้ผู้ใด..ฯ

 

๑ คลื่นซัดสาดร่างให้.............จรไกล

จรแต่(ตัว)มิจรใจ.....................มั่นแท้

ครุ่นคิดคร่ำพิไร......................ห่วงแม่..อกเอ่ย

ใกล้แต่เราเขาแน้....................ห่อนให้คิดต่าง..ฯ

 

 

คารมคมคิดล้วน                    คมคำ
นุชย่อมหลงเก็บนำ                แนบไว้
สามวันจากลาทำ                   นุชหวั่น  ใจพ่อ
กลัวพี่พบคนใกล้                   กล่าวแกล้งครวญหา

  หรือชายหวาดหวั่นว้า            วกวน
นุชห่างกลัวใจตน                   ติดต้อง
พบคนใหม่สับสน                  แสดงส่อ   มานา
คราจากนารีข้อง                     จิตแท้ใจชาย
ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

๑ คมไหนเล่าเท่าได้.............คำถ้อย

เห็นเหม่อนั่งใจลอย..............เยี่ยงนี้

ใครฤาใคร่เปล่งร้อย.............คำหวาน..ฤาแม่

เห็นนั่งยิ้มปิ๋มปี้......................ส่งให้ชายใด.ฯ

 

๑ นุชนาถแม่ลุ่มแล้ว............หลงคำ

เห็นนั่งมิเป็นทำ...................แต่ยิ้ม

โอ้นุชพี่งามขำ....................เป็นอื่น..ไปนา

จะว่านุชนวลนิ้ม(นิ่ม)..........ใคร่แล้วชายใด..ฯ

 

จำใจจากหนุ่มเหน้า           นิรนาม
จึงฝากคำยลยาม                ห่างไว้
ภาระเร่งนงราม                  ระหก  ระเหินนา
วันว่างมาคืนใกล้                 กล่าวล้อโคลงหวาน

 

วอนฝากรสพจน์ถ้อย           แทนคำ
วันพระพุธทศาสน์นำ           หน่อเนื้อ
ฝีปากหนุ่มเชิงชำ-              นาญออก  นาพ่อ
เชิญแต่งเติมกูลเกื้อ           ก่อได้เป็นบุญ
  http://www.st.ac.th/bhatips/tip47/makabhucha48.html 

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

๑ ต่างจิตคิดต่างถ้อย.........คำหวาน

นุชพี่เลยระราน....................คำนั้น

ภาระไรนงค์คราน................วานบอก  พี่ฤา

โคลงร่ายใครฤาครั้น...........ทำให้น้องแปร..ฯ

 

ขอบคุณครับที่มาเล่นต่อโคลง

กับทะเลที่ไร้คลื่น

ทะเลที่ไร้คลื่นยังน้อยถ้อยคำศัพท์

แนะนำบ้างด้วยนะครับ

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tale-tee-rai-kleun

สวัสดีค่ะ  ครูภาทิพ ไปมาแว้ว ว ว ว

ตาลาย ย ย ยกลับมา  

ขอชมก่อนนะคะ  บล็อกสวยงามมีศิลปะบ่งบอกถึงอารมณ์ของเจ้าของ

ขอแนะนำค่ะ

ถ้าใช้พื้นสีดำ  หรือน้ำเงิน อักษรควรจะเป็นเหลืองหรือขาว  ครูภาทิพ  กำลังจะห้าสิบ  ไม่สามารถอ่านข้อความได้เลยค่ะ  อยากเข้าไปแจมแต่อ่านยากมาก   

 

มีความเข้าใจผิดเรื่องของคำประพันธ์ค่ะ

เมื่อพูดถึงร้อยกรอง  จะประกอบด้วย

โคลง   ฉันท์   กาพย์  กลอน   และร่าย

โคลงได้แก่โคลงสี่สุภาพ  โคลงกระทู้  โคลงสาม  โคลงสอง

ฉันท์ก็คือฉันท์  เช่น อินทรวิเชียรฉันท์   ฯลฯ

กาพย์ ก็คือกาพย์  กาพย์ยานี ๑๑  กาพย์ฉบัง ๑๖  กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘  กาพย์ขับไม้

กลอนก็คือกลอน กลอนสุภาพ  กลอนสี่ กลอนหก

ร่ายก็คือร่าย  ร่ายดั้น  ร่ายสุภาพ

แต่ถ้าบอกว่า  กลอนกาพย์ยานี ๑๑  กลอนโคลงสี่สุภาพ    อย่างนี้ไม่ถูกต้องค่ะ

หวังอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสแจมร่วมกันในครั้งต่อไป

ขอบคุณครับ "อาจารย์" ขอเรียกว่า"อาจารย์"ละกันครับ

ขอโทษด้วยนะครับเพิ่งเข้ามาดูวันนี้เอง

จะกลับไปแก้ไขนะครับ 

ผมแค่มือสมัครเล่นครับ

ไม่รู้เรื่องกลอนโคลงมากนักแค่รักในกลอนโคลง

ก็แต่งไปก็จะพยายามศึกษาเพิ่มเติมครับ

มีอะไร ผิดไปก็เข้าไปทักด้วยนะครับ

ขอพระคุณอย่างสูงครับ อาจารย์

จาก ทะเลที่ไร้คลื่น

ฝีมือเฉียบเยี่ยมแล้ว             ลีลา

เหตุที่รักภาษา                      ส่งให้

โคลงกลอนกาพย์รจนา       เนืองแน่น      นะพ่อ

วันผ่านหวนอ่านได้              ตื่นเต้นผลงาน

"ไม่รู้แต่รักและสืบสาน   ดีกว่ารู้แต่ปล่อยให้ผ่านเลยไปค่ะ" 

          

ยังยังด้อยห่างถ้อย................สำนวน หนาแม่

เริ่มแต่งโคลงเคล้งยวน........ไม่เยิ้ม

ขาดถ้อยกลั่นคำผวน............ศัพท์พร่อง..มากหนอ

ใคร่ท่านแนะนำเพิ้ม (เพิ่ม)...แด่ห้วงศิษย์จร..ฯ

 

.........ขอบคุณคร้าบ...........

   Blogใดเปิดใหม่ร้อย         เรียงคำ

Linksใส่มาแนะนำ              หนุ่มน้อย

จะตามไต่สานรำ-               พันร่วม    โคลงพ่อ

ตามแต่โคลงเมินต้อย        เล่ห์เลี้ยงชมโฉม

           

หนึ่งฤทัยผ่องแผ้ว...............รักมั่น

จุดต่อแหล่งความฝัน..........หนึ่งนี้

โคลงร่ายร่วมผูกพัน............เป็นสื่อ..เรียนนา

โยงเชื่อมถ้อยคำชี้..............ส่อเค้าโคลงคม..ฯ

 

ทะเลฯทะลุชั้น                   เชิงเซียน

โคลงคล่องคารมเนียน       เนิบแท้

เวลาล่วงพากเพียร            พันผูก  เสมอพ่อ

เลยล่วงหวาดโคลงแพ้       พ่ายถ้อยทะเลฯ
ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

แค่เพียงผู้ต่ำต้อย...........เดินดิน

มิบ่อาจห่อนบิน...............สู่ฟ้า

ขอเพียงแค่มิสิ้น..............หวัง-ห่าง ฝันนา

เดินดุ่มรอจันทร์จ้า..........ส่องโน้มมาเชย..ฯ

 

ประสบการณ์ผ่านพ้น       เกินวัย
ยังบ่เห็นแขไข                สู่หล้า
เทคโนโลยีไง                 เหินเหาะ    พบแล
เพียงแต่แหงนสู่ฟ้า         เยี่ยงนี้คงเฉา  

 

 

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

เป็นแค่กระต่ายผู้...........เฝ้าฝัน

คิดไขว่โน้มเจ้าจันทร์....สู่ข้าง

อิงแอบใคร่ผูกพัน.........เคียงคู่ จันทร์นา

แต่บ่ได้ดั่งอ้าง................พร่ำเพ้อเดียวดาย..ฯ

ทะเลฝันไขว่คว้า                  ครองจันทร์
รอชั่วชีพนิรันดร์                   หรอกเจ้า
แสงนวลส่องเฉิดฉัน             ฉาบภพ      นะพ่อ
ฉายเพื่อชนทุกเหย้า               เปล่าเอื้อเพียงใคร  
ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

..แก้ไขครับ.. 

 

แสงที่สาดส่องให้..............ลุ่มหลง

ตกอยู่อย่างงวนงง..............ดั่งต้อง

มนต์รักแห่งแสงทรง...........ทอส่อง..ใจพ่อ

จึ่งใคร่ใฝ่หมายน้อง...........เที่ยวจ้องมองเดือน

ลงมนตราแจ่มจ้า                   จันทร์ฉาย
เงาทอดธาราราย                      ไขว่คว้า
เงาจันทร์เคลื่อนกระจาย          ใจหนุ่ม    แหลกนอ
เดือนเด่นเลือนลับหล้า              หนุ่มบ้าลืมหลง

อยากให้คุณภาทิพแตงโคลงสี่สุภาพให้ผมหน่อยคับ

ในหัวข้อ รักหวานๆ คับ ผมจะเอาไปส่งครูวันจันทร์

นี้คับ ช่วยผมหน่อยนะคับ คือผมไม่ค่อยเชี่ยวชาญ

ทางด้านนี้นะคับ ถ้างไงก็   add มาหาที่ [email protected] นะคับ ขอขอบคุณล่วงหน้าคับ หวังว่าคงจะได้ทันส่งครูนะคับ

ครูขาเขาเรียกร้อง          แต่งโคลง

เขาบ่เขียนเองโกง        จ่งรู้

ฟิล์มเรียนร่ำยากโยง     โคลงเด่น   เลยนา

ครูสั่งงานยากสู้             ศิษย์ต้องเขียนขอ

 

 

ฟิล์มจงลองแต่งล้อ           ลองดู

ฟิล์มรักใครบอกครู            เถิดเจ้า

สาวสวยหนึ่งในพธู           ใครเล่า    ล่ะพ่อ

ลองแต่งฝากรักเย้า           ยั่วล้อลองเขียน

 

ครูภาทิพบ่เอื้อ                โกงครู

ครูแนะนำบอกหนู            เท่านั้น

จรรยาผิดอดสู                 อายนัก     พ่อเอย

ฟิล์มฝึกเขียนตามขั้น      ย่อมได้โคลงหวาน

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

เฝ้า..........รำลึกคร่ำร้อง............ใจหาย

มอง.........ไป่สุดฟ้ากาย............ฝั่งกั้น

หา............นุชมิ่งพ้อพราย.........ขวัญพี่...ชายแฮ

แม่...........นิ่มนวลพี่นั้น..............อยู่โพ้นแห่งใด..

 

อยู่..........โดดเดียวเด่นด้วง.....ใดฤา

กับ..........หน่ายไม่เห็นคือ.........ก่อนนี้

ใคร.........หนาแม่เป็นสื่อ...........ให้เปลี่ยน..ไปนา

กัน..........พี่จึ่งหลีกลี้..................ร่างไร้อุ่นนาง..

ขอโทษครับ "อาจารย์" ที่หายหน้าหายตาไปนาน คิคิ

โคลงกระทู้     เฝ้ามองหาแม่   แท้มีคนครอง

เฝ้า      ฝันหวังพบเจ้า            จอมใจ

มอง     เหม่อทะเลไกล          กู่ร้อง

หา       รอยทั่วผืนไพร         พฤกษ์ทั่ว    ทุกข์นอ

แม่       ซ่อนกายหนห้อง       แห่งฟ้าฟากไหน

 

แท้      จริงหลอกพี่เพ้อ            พึมพำ

มี         สุขกับคู่ทำ                    พี่เศร้า

คน      เคยพลอดสุขสำ-           ราญคู่   มานา

ครอง   สุขลืมคนเฝ้า               ฝากฟ้าคอยเรียม

 

สนใจกระทู้กลอน  และโคลงอ่านของเก่าที่นี่ค่ะ  (ครูหมูอ้วนก็คือครูภาทิพ)

  http://www.st.ac.th/bhatips/oldglon/oldglon9.htm
ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)
หนึ่งคนหนึ่งต่างต้อง..........ไกลกัน
แยกห่างวิถีพลัน................ชีพนี้
แม้ผูกเชื่อมสัมพัน.............ใจต่อ..กันนอ
ฟ้ากลั่นแกล้งหลบลี้............ซ่อนเร้นใจนาง

โครงสี่สุภาพมีสัมผัสระหว่างบทหรือเปล่าครับ จากบทที่1 ไปบทที่ 2 จากที่ดูตัวอย่างหลาย ๆ ที่แล้วไม่เห็นมีเลย จะเหมือนบทร้อยกรองอื่น ๆ หรือเปล่า รบกวนช่วยตอบด้วครับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

โคลงสี่สุภาพไม่มีสัมผัสระหว่างบท

แต่โคลงสี่ดั้น  เช่นวิวิธมาลี  บาทกุญชร   ตรีพิพิธพรรณและจัตวาทัณฑี มีค่ะ

คำสุดท้ายของบทต้นมาสัมผัสกับคำในวรรคหน้าของบาท ๑ หรือบาท ๒ ตามตำแหน่งบังคับ ของคำประพันธ์นั้น ๆ ค่ะ

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)
คิด......คะนึ่งอุ่นอ้าว..................ในอก
ถึง......แม่พิศเพริศพก...............ค่ำเช้า
รู้........ทั้งที่นวลกก....................ซุกซ่อน..เขานา
ไหม...แม่นุชนาถเค้า.................ว่าซึ้งคิดถึงชาย..

ตัด.....รักจากแม่นั้น...................ยากยิ่ง
ใจ......พี่หยั่งรากกิ่ง...................เกี่ยวแล้ว
ไม่.....อาจรั่งถอดสิ่ง..................ใจพี่...ได้แม่
ไหว...แต่ตัวใจแป้ว...................ร่อนร้าวทรวงใน..

คิด    ถึงคราก่อนครั้ง            เคียงกัน

ถึง     ค่ำดึกชมจันทร์            ยั่วเย้า

รู้       ใจต่างผูกพัน               พูนเพิ่ม    รักแล

ไหม   ถักพันผมเจ้า              จับต้องยังหอม

ตัด     บัวใยติดข้อง               คงเห็น           

ใจ      ตัดแสนยากเย็น          ยิ่งแล้

ยาก    จนสุดลำเค็ญ             เคียงคู่   มาแม่

แสน   แสบเพียงเพราะแพ้    พ่ายผู้เศรษฐี

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)
๑ ขอ.....มีเธอแค่นั้น.................ข้างกาย
กอด......บ่มิบ่คลาย..................จากน้อง
ได้........เคียงคู่แม้ตาย..............ลับล่วง..ไกลนา
ไหม......แม่นุชพี่ร้อง.................พร่ำเพ้ออยู่ใย..ฯ

๑ ก่อน...นี้มิอยู่พร้อม................ร่วมเคียง
คืน........นี่ขอแค่เพียง...............อุ่นนั้น
สุด.......โศกร่ำร้องเสียง.............แผ่วว่า..นุชเอ่ย
ท้าย......ชื่นชีวากั้น...................แค่น้องมิคราไกล..ฯ

๑ ที่......โอบกอดอุ่นคุ้น.............เคยมี
ฉัน.......บ่ลืมคนดี.....................มั่นแท้
เหลือ....น้องพี่-นวลศรี...............อยู่ห่าง..มั่นฤา
อยู่.......ที่ใจนวลแม้.(แม่)...........บ่ร้างเมื่อห่างใจ..ฯ

๑ อีก....กี่วันผ่านพ้น..................พบเจอ
สัก.......หมื่นคำที่เพ้อ................ร่ำร้อง
ครั้ง......หลับคอยละเมอ.............เผลอตื่น..ทุกครา
หนึ่ง.....แม่เพียงนวลน้อง............ว่าซึ้งคนึงครวญ..ฯ

๑ ใน.....หทัยบ่ได้.....................อยากจาก
อ้อม.....อุ่นมิอยากพราก.............เหว่ว้า
กอด.....พระพี่-ทีหาก.................รักมั่น..ในพี่
นาง......อย่าเมิน-ห่างหน้า...........สู่ห้องเป็นสองใจ..ฯ

โคลงกระทู้ :       พบใครขอกอด พ่อยอดเจ้าชู้


๏พบ     นวลนางยั่วเย้า           หยอกเอิน

 ใคร    ผ่านชายชวนเชิญ        ชิดชู้

 ขอ     เคียงคู่ดำเนิน              สนิทแนบ    เคียงแล

กอด   เกี่ยวแขนสาวรู้             เร่ร้างหลบหนี ๚ะ๛


๏พ่อ     พบพานหว่านล้วน       ลมลวง

  ยอด    รักหวังตักตวง             ตื่นเต้น   

  เจ้า     ของย่อมหึงหวง           หฤโหด    นะพ่อ

  ชู้        โฉดตามคิดเค้น          ฆ่าให้เสียขวัญ ๚ะ๛

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

๑ ทะเลคลั่งดั่งบ้า.................คลื่นโหม
ซัดใส่ใจหมายโจม...............มุ่งร้าย
นางหนอมิ่งนางโลม.............ควงคู่..เย้ยนา
คลื่นนิ่งกลับโหดด้าย(ได้).....บ่เว้นแม้นาง..ฯ

สวัสดีครับ "อาจารย์" สบายดีป่าวครับ

ทะเลทีไร้คลื่นเข้ามาแวะทักทายครับ..........*/-

ทะเลฯหายห่างหน้า         นานนม
จิตตระหนกอกขม           ขื่นไข้
สบายดีรึซานซม             ซับโศก   ล่ะพ่อ
เราห่างเรือนแดนใต้        แตะโพ้นเมืองกาญจน์

 

สวัสดีค่ะ  พี่ (ป้า)  ไปเข้าค่ายกล้าวรรณกรรม กับนักเรียน ซึ่งจัดโดย  7-eleven  พบนักเขียนระดับประเทศ มากมาย  ที่ริเวอร์แคว  วิลเลจ  ไทรโยค   สุดยอดเลยค่ะ

 

   

 

ชื่นชอบในการแต่งโคลงกลอนของอาจารย์มาก หนูขอเป็นกำลังใจให้ในการสร้างสรรค์ผลงานดีๆแบบนี้นะคะ

ทะเลที่ไร้คลื่น (เสียงเปียโนเหงาใต้เงาเทียน)

๑ เพียงพานพบเพื่อพ้น.......พักตร์เพื่อน
หลีกลี้หลบรักเลื่อน.............ปวดร้าว
ทุกข์ตรมอยู่แปดเปื้อน........วันนี้..นี่ฤๅ
วันพรุ่งดุ่มเดินก้าว..............ต่อสู้กับมัน..ฯ

๑ หากเหงาเศร้าโศกไร้.......สติ
ลุ่มหลงไม่ตรองตริ..............ใคร่รู้
วันไหนเล่าเจ้าสิ..................ยัดยืน..ได้นา
โหยหาใครละผู้...................ซอกซ้ำดวงแด..ฯ

๑ ก้มหน้าอยู่ใยเจ้า.............ขวัญพี่
ลืมเรื่องเศร้าเก่ามี................ผ่านแล้ว
น้ำตาหลั่งไหลพี่.................ขอซับ..ให้นา
ไหล่ชายยังรอแก้ว...............แม่เนื้อนวลละออ...ฯ

๑ ริเริ่มใหม่กันได้................บ่สาย
โยงเชื่อมสัมพันธ์ชาย..........แน่นแท้
ยังอยู่ยังมิคลาย..................จากแม่..เลยนา
ครวญคร่ำคอยชะแง้...........ค่ำเช้าใจอาวรณ์...ฯ

๑ รัญจวนเจียนแจ่เจ้า..........ใจเจ็บ
ฟัง-พี่แทบคลอนเคล็ด..........เมื่อรู้
ปวดยิ่งย้ำให้เหน็บ................ใจพี่..ชายนา
อยากไล่ทิ่มแทงผู้................ทำน้องเสียใจ...ฯ

สวัสดีคร้าบ "อาจารย์ "  สบายดีป่าวคร้าบ

ทะเลที่ไร้คลื่น แวะมาเยี่ยม นะคร้าบ

หายไปเสียนาน คิคิ

๏   ทะเลลาเลิกร้าง               แรมรา
หายห่างเหินหกมา               เมื่อนี้
ครูภาทิพพกยา                    หยูกเยอะ เชียวนอ
ผอมผ่ายพบหมอชี้                ช่องให้รักษา

๏   แขนขัดยอกยกยื้อ           ยากแสน
หลังไหล่แข็งดุจแกน            เกาะเนื้อ
มือเสียวสั่นขวัญแขวน          ผวาตื่น  ตระหนกนอ
สัมผัสผิดพาลเรื้อ                 เลิกร้างลาคอม ๚๛

ขอความกรุณาต่อโคลงสี่สุภาพบทนี้หน่อยเถอะ จำไม่ได้จริงๆ จำได้แต่ตอนต้นกับตอนจบ

ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน

และตอนจบว่า

ต่างแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแก้ ฤาไหว

ตอนกลางๆจำไม่ได้เลย ขอบคุณค่ะ

ฝูงชนกำเนิดคล้าย          คลึงกัน.

ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ     แผกบ้าง.

ความรู้อาจเรียนทัน        กันหมด.

เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง         ห่อนแก้ฤๅไหว.

โหๆคุยกานเปนกลอนเลยนุ5555

๏ ทะเลลาเลิกร้าง แรมรา

หายห่างเหินหกมา เมื่อนี้

ครูภาทิพพกยา หยูกเยอะ เชียวนอ

ผอมผ่ายพบหมอชี้ ช่องให้รักษา

๏ แขนขัดยอกยกยื้อ ยากแสน

หลังไหล่แข็งดุจแกน เกาะเนื้อ

มือเสียวสั่นขวัญแขวน ผวาตื่น ตระหนกนอ

สัมผัสผิดพาลเรื้อ เลิกร้างลาคอม ๚๛

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท