คลองสวยน้ำใส ตอน 1


นักเรียนส่วนใหญ่ลงคะแนนให้ที่นี่สูงสุด หมายถึง นักเรียนทุกคนตกลงปลงใจร่วมกันว่า จะแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อมชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้

การสอนชีววิทยา ภาคเรียนสุดท้ายของชั้น ม.6/1 ปีนี้ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาสิ่งแวดล้อม ผมตั้งใจจะไม่ใช้หนังสือเรียนของ สสวท.เป็นหลัก เหมือนการสอนชั้นอื่นๆ เพราะอยากลอง อยากทดสอบการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบร้อยเปอร์เซนต์เต็ม 

เพราะลึกๆแล้วเชื่อเหมือนคนอื่นว่า การเรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ใช้ประสบการณ์ตรง ด้วยเหตุการณ์จริง ใช้ปัญหาจริงเป็นตัวตั้ง จะทำให้นักเรียนมีความสนใจ เอาใจใส่ต่อการเรียนรู้มากกว่าการเรียนจากตำรา หรือจากทฤษฎีที่มีอยู่ในหนังสือ

แล้วทำไมไม่ใช้วิธีนี้กับการสอนชั้นอื่นๆทั้งหมดเสียเลย พูดกันตามตรง จากประสบการณ์ที่มีอยู่ ผมเชื่อว่าการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแทบทุกวิธี ต้องใช้เวลาสอนมากกว่า ฉะนั้นในเวลาเท่ากัน การสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญทำให้นักเรียนรู้เนื้อหาน้อย ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักสูตรปัจจุบันที่บังคับให้นักเรียนต้องรู้เนื้อหาสาระอย่างมากมายตามมาตรฐานหรือผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง รวมทั้งอาจไม่เพียงพอกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่นักเรียนต้องรู้เนื้อหาอย่างลึกซึ้ง

แต่การสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จะทำให้นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆด้วยตัวของนักเรียนเองได้ แถมทักษะกระบวนการที่เกิดนั้น จะติดตัวไปตลอด จึงช่วยให้นักเรียน สามารถเรียนรู้อะไรก็ได้ ที่อยากจะรู้...ชั่วชีวิตนี้ นับเป็นความยั่งยืน เป็นความล้ำค่าของการเรียนรู้อย่างแท้จริง

ตามที่กล่าวมา เป็นเหตุผลหนึ่งในอีกหลายสาเหตุที่ไม่สามารถใช้การสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบร้อยเปอร์เซนต์เต็มกับชั้นอื่นๆได้ เพราะห่วงเรื่องเนื้อหาที่นักเรียนต้องนำไปใช้สอบเรียนต่อ แต่สำหรับชั้น ม.6/1 ภาคเรียนสุดท้าย ของโรงเรียนผมนั้น เหตุการณ์และเวลาค่อนข้างจะเหมาะสม เอื้อให้ทำได้ ทั้งนี้เพราะเป้าหมายการสอบเรียนต่อของนักเรียนโรงเรียนผม ส่วนใหญ่มิใช่การสอบแอดมิสชั่นส์ ซึ่งกระทำกันในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน หลังจากจบชั้น ม.6 แล้ว

แต่เป้าหมายการเรียนต่อ มักเป็นการสอบโควต้า ทั้งจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ราชภัฏ และราชมงคล ซึ่งจะคัดเลือกนักเรียนเสร็จสิ้นภายในภาคเรียนสุดท้ายของชั้น ม.6 นี้เอง โดยเฉพาะการสอบโควต้าของมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งน่าจะเป็นเป้าหมายหลักของนักเรียนด้วยแล้ว จะสอบเสร็จล่วงหน้า ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดังนั้น นักเรียนชั้น ม.6 ภาคเรียนสุดท้ายของโรงเรียนผม จึงไม่กังวลเรื่องสอบเรียนต่อ เพราะแทบทุกคนจะรู้ผลล่วงหน้าแล้วว่าจะได้เรียนที่ไหน ผมจึงจะถือโอกาสนี้ทดลองสอนนักเรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญแบบเต็มร้อย ไม่ยึดเนื้อหาตามทฤษฎีจากตำราต่างๆ รวมทั้งหนังสือของ สสวท.เหมือนอย่างเคยๆ

ผมเริ่มต้นด้วยการวางแผนว่า จะให้นักเรียนทำกิจกรรมย่อยๆสัก 4-5 เรื่อง และกิจกรรมหลักสัก 2 เรื่องใหญ่ๆ เรื่องหนึ่ง คือ ศึกษาปัญหาสภาพแวดล้อมภายในบริเวณโรงเรียน พร้อมร่วมแก้ไขปัญหาด้วยศักยภาพที่มีของนักเรียนเอง

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เปิดเทอม และมีความคืบหน้าแล้วพอสมควร เรื่องนั้นคือ ศึกษาปัญหาสภาพแวดล้อมภายในชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยู่ หมายถึงภายในตำบลบ้านกร่าง  รวมทั้งร่วมแก้ไขปัญหาด้วยศักยภาพที่มีของนักเรียนเองเช่นกัน 

เรื่องนี้เริ่มจากนักเรียนแต่ละกลุ่ม ต้องไปสำรวจ ศึกษา ปัญหาสภาพแวดล้อมบริเวณใกล้บ้านตนเอง แล้วนำเสนอให้เพื่อนกลุ่มอื่นๆรับรู้ในชั้นเรียน จากนั้นนักเรียนทั้งชั้นจะร่วมอภิปรายซักถามรายละเอียดตามที่มีข้อสงสัย ผมแบ่งนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน จึงได้ปัญหาสภาพแวดล้อมทั้งหมด 5 เรื่อง หรือ 5 แหล่ง

สัปดาห์ต่อมานักเรียนแต่ละกลุ่มซึ่งนำเสนอสภาพปัญหา จะพาเพื่อนทุกคนในชั้น รวมทั้งครูผู้สอน(ผม) ไปศึกษา สำรวจ สภาพปัญหาจริง จากสถานที่จริงต่างๆ เพื่อเรียนรู้ร่วมกันทั้งนักเรียนและครู ถึงตอนนี้ทุกคนต้องสังเกต บันทึกสภาพปัญหาอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยตนเองอีกครั้ง พร้อมระบุความรุนแรงของสภาพปัญหา ซึ่งอาจหมายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งความสามารถในการแก้ไขตามศักยภาพที่นักเรียนมี

ผมเน้นให้นักเรียนแก้ด้วยตัวของนักเรียนเอง อย่างที่สามารถจะทำได้เอง เพื่อให้นักเรียนตระหนักว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะสำเร็จได้ เพราะเรา มิใช่ผู้อื่น ต้องพึ่งตนเองก่อน ต้องเริ่มจากเราอย่างเต็มความสามารถก่อนเท่านั้น

 

วันนั้นนักเรียนทั้งหมดและผมเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซด์ของนักเรียน ซ้อนกันไปคันละ 2 คน

 

แหล่งแรก ที่กลุ่มแรกพาไป เป็นเล้าหมูตั้งอยู่ริมทาง สภาพปัญหาคือ ไม่มีระบบขจัดขี้หมูที่ดี ความเหม็นของขี้หมูจึงส่งกลิ่นรบกวนผู้คนซึ่งสัญจรไปมา รวมทั้งรบกวนเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น

 

แหล่งที่สอง สภาพปัญหาจากการนำเสนอในชั้นเรียนก่อนหน้านั้น คือ การทิ้งขยะลงในคลองสาธารณะภายในหมู่บ้าน ทำให้สกปรก ตลอดจนอาจทำให้น้ำเน่าเสียได้ในที่สุด แต่พอไปเห็นจริง กลับพบว่า ขยะได้ถูกเก็บทำความสะอาดไปเกือบหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ มีเฉพาะวัชพืชค่อนข้างหนาตาเท่านั้น

 

แหล่งที่สาม เป็นเล้าหมูตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านเลย บ้านเรือนละแวกนั้น อยู่กันอย่างหนาแน่นเสียด้วย สภาพปัญหาของเล้าหมูนี้ก็เช่นกัน คือไม่มีระบบขจัดขี้หมูที่ดี ความเหม็นจึงส่งกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้านบริเวณนั้นไปทั่ว

 

แหล่งที่สี่ สภาพปัญหา คือ การทิ้งขยะลงในคลองสาธารณะภายในหมู่บ้าน(อีกแล้ว) แต่สภาพจริงที่เห็น ไม่ค่อยมีขยะมากนัก กลุ่มที่รับผิดชอบบอกว่า สมาชิกในกลุ่มช่วยกันเก็บขยะทิ้งไปบางส่วนแล้ว ที่เหลือก็มีเพียงซากโฟม ใบตอง หลังประเพณีลอยกระทง และวัชพืช

 

แหล่งสุดท้าย เป็นคลองสาธารณะข้างวัด หลังที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล สภาพเป็นการทิ้งขยะลงในคลองเช่นกัน ปริมาณขยะค่อนข้างมากและน่าจะทิ้งกันมานานแล้ว เพราะเห็นมีทั้งซากขยะเก่าบริเวณข้างคลอง ขยะใหม่ที่ยังคงลอยอยู่ในคลอง  นักเรียนตั้งสมมติฐานว่าน่าจะมาจากตลาดนัดซึ่งขายประจำภายในบริเวณวัด รวมทั้งน้ำทิ้งจากกิจกรรมต่างๆของวัด ขณะวัดมีงานบุญงานกุศล ถ้าเปรียบเทียบกับแหล่งน้ำที่กล่าวมาข้างต้น ที่นี่อาการหนักกว่าที่อื่น เพราะน้ำเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นแล้ว วัชพืชก็ค่อนข้างจะหนาตาเอามากๆ

 

ผมให้นักเรียนคนหนึ่งเป็นตัวแทนรวบรวมความคิดเห็นของเพื่อนๆทุกคนในชั้น เกี่ยวกับความรุนแรง(ผลกระทบ)และความสามารถในการแก้ไข พบว่า นักเรียนส่วนใหญ่ลงคะแนนให้ที่นี่สูงสุด หมายถึง นักเรียนทุกคนตกลงปลงใจร่วมกันว่า จะแก้ไขปัญหาสภาพแวดล้อมชุมชนที่ตนเองอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้

และแล้วในที่สุดผลผลิตที่สำคัญ ก็หลุดมาจากความคิดของนักเรียนล้วนๆจนได้ เกิดเป็น"โครงการคลองสวย น้ำใส ฟื้นฟูสภาพแวดล้อม"ครับ 

ตั้งใจว่าจะนำการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง ในสถานที่จริง ด้วยสภาพปัญหาจริงของนักเรียนผม มาเล่าให้ฟังอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะจบสิ้นโครงการ ไม่ว่าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร... 

หมายถึง ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม 

(คลองสวยน้ำใส ตอน 2)



ความเห็น (20)

สวัสดีค่ะอาจารย์

ครูอ้อยมาอ่านและเป็นกำลังใจให้อาจารย์ด้วยนะคะ

ความตั้งใจ จริง เท่ากับ พบกับความสำเร็จแล้วครึ่งหนึ่งค่ะอาจารย์

การทำงานของอาจารย์ ที่มาจากเหตุ และมีผลที่ถูกต้องเหมาะสม ตามประสบการณ์ และผลที่เกิดขึ้บกับผู้เรียน

ครูอ้อยคิดว่า อาจารย์ต้องพบกับความสำเร็จแน่นอนค่ะ

สวัสดีครูธนิตย์ กิจกรรมดีมาก เป็นครูที่สร้างสรรค์มาก

สวัสดีค่ะ

  • กิจกรรมเยี่ยมมาก ๆค่ะ
  • ขอชมด้วยใจจริง
  • เป็นแบบอย่างแก่คนในชุมชน
  • และสร้างจิตสำนึกให้เขาได้อีก
  • ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

P

 

  • พยายาม..ตามหน้าที่ครู
  • อะไรทำให้ นร.เรียนรู้ได้ดีขึ้น ก็ลองอย่างจริงจังเสมอ
  • ที่สำคัญเราก็ได้เรียนรู้ไปด้วย
  • ขอบคุณครูอ้อยครับ

P

 

ขอบคุณเบดูอินครับ..ที่เข้ามาเยี่ยมชมและร่วมแสดงความคิดเห็น

P

 

ขอบคุณครูคิมครับ..ที่เข้ามาเยี่ยมชมและแสดงความคิดเห็นอย่างสม่ำเสมอ

  •  สวัสดีค่ะ 
  • การเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง ในสถานที่จริง ด้วยสภาพปัญหาจริงของนักเรียน  ขอสนับสนุนและเป็นกำลังใจค่ะ ประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ

P

 

  • แค่พยายามทำหน้าที่สอนของเราให้ดีที่สุด..ผลลัพธ์อาจเป็นอะไรก็ได้ครับ
  • ขอบคุณ อ.mena ที่มาเยี่ยมชมและร่วมแสดงความคิดเห็น

สวัสดีคะ คุณครู ธนิตย์ สุวรรณเจริญ

  • แวะมาสวัสดีปีใหม่ คุณครู ธนิตย์ สุวรรณเจริญ คะ หวังว่าไม่สายไปนะคะ ไม่ค่อยได้เข้าบ้านอ่ะคะ ^^
  • ขอบพระคุณที่แวะมาอวยพรปีใหม่ด้วยนะคะ ^^
  • ขอยกมือสนับสนุนกิจกรรมของคุณครูคะ ดีมากๆ คะ ชอบจัง อยากกลับไปเป็นเด็ก ม.6 โดยเฉพาะ 6/1 ห้องเรียนของคุณครูจังคะ ^^

แวะมาชมกิจกรรมดีดีของครูคนขยัน...มีความสุขมากมากนะคะ

P

 

  • ไม่สายครับ สวัสดีปีใหม่เช่นกับครับคุณnattapach
  • ขอบคุณมากๆที่เข้ามาเยี่ยมชมและร่วมแสดงความคิดเห็น

P

 

  • ขอบคุณ ศน.add ครับ
  • มีความสุขมากๆเช่นกันนะครับ

เรียนรู้เก็บข้อมูลละเอียด นำไปสู่การวิจัยนะคะ นี่ ..เยี่ยมค่ะ

P

 

  • คลองสวยน้ำใส เป็นโครงการของเด็กๆ และกำลังเดินหน้าไปเรื่อยๆครับ
  • กลางกุมภา จะเสร็จสิ้นโครงการ
  • ขอบคุณ krutoi ครับ

แวะมาเยี่ยมชมกิจกรมดีดี ของเด็ก และเป็นกำลังใจให้นะคะ

ในฐานะครูสอนชีววิทยาเหมือนกัน แต่สอน ม.5

  • ดีใจครับ ที่ได้พบกับครูชีววิทยาด้วยกัน
  • ขอบคุณครูJaครับ

สวัสดีครับอาจารย์ ธนิตย์ ขอให้กำลังใจเด็กครับกิจกรรมดีๆมีประโยชน์ต่อชุมชน

  • วอญ่าดีกว่าครับ เท่ห์ดี..
  • ขอบคุณบังหีม เอ้ย!วอญ่าครับ

สวัสดีค่ะ แวะเข้ามาทักทายค่ะ สบายดีมั๊ยค่ะ เป็นการสอนที่น่าสนใจคะ คิดถึงคุณครูทุกคนเลยค่ะ ศิษย์เก่าจ้า

ขอชื่นชมกับการสอนของครูธนิตย์อีกหนึ่งคนค่ะ ดิฉันก็ไปคุมสอบระดับประเทศมาค่ะ เ็ด็กนักเรียนทำข้อสอบไวมาก และเท่าที่สอบถามก็เป็นกันทุกโรง ความรับผิดชอบของเด็กก็น้อยลง บางทีก็ไม่อยากจะโทษเด็กฝ่ายเดียว ใครมีข้อแนะนำดี ๆ ขอมั่งค่ะ บางครั้งก็ท้อใจกับเด็กที่ไม่รับผิดชอบ แถมมันยังพูดให้เจ็บใจอีกว่า "ยังก็จบโรงเรียนไม่ให้ตกอยู่แล้ว"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท