คำว่า "บ้า"หากเอ่ยออกมาก็คงว่าเป็นอะไรที่ไม่ดี

แต่จริงแล้วเราทุกคนนั้นมีความบ้าในตัวกันแทบทุกคน

 

ส่วนในการนี้นั้นอยากให้เข้าใจว่าคนเรานั้นบ้าแบบได้ดีก็มีถมเถไปหากกลัวแต่ ,ทำไปแล้วมันจะไม่ดี ,ทำไปมันจะไม่งาม ,ไม่เคยเห็นใครทำกัน หากมัวติดแต่กับคำพวกนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี คนที่ประสบความสำเร็จหลายคนก็อาศัยลูกบ้าจนได้ดี แต่บ้าอย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งการที่จะเล่าให้เห็นภาพมันต้องมีตัวละครประกอบซึ่งเรื่องบ้าแล้วได้นั้นนะเวลานี้มีคนที่เราดูแล้วว่าใช่เลย "คนจริงมันต้องอย่างนี้ " ===> คนแรกเป็นตัวละครในนวนิยายสามก๊ก คือโจโฉนั่นเอง อีกคนเป็นคนในปัจจุบัน ได้แก่ The special one จอมอหังการ โจเซ่ มูรินโญ่ หากเป็นแฟนบอลคงรู้จักกันดี นิยามส่วนแรก"บ้า"อย่างมีดีกรี หมายบ้าต้องให้มันได้สุดๆไม่ใช่กล้าๆกลัว คนจำพวกนี้หากเปรียบเป็นสุรา ถ้าคอสุราขาวมันต้อง 40 ดีกรี สุราจีนต้องเหมาไถ สุรานอกต้อง วอดก้า ซึ่งสองคนที่กล่าวมามีอย่างถึงพริกถึงขิงครบเครื่อง

 

.....กล่าวคือ โจโฉเป็นลูกนอกสมรส เด็กบ้านนอก ไต่เต้าจนได้เป็นมหาเสนาบดี ยกตัวอย่างในความบ้าที่น่าสนใจคือตอนที่ตั๋งโต๊ะ ยึดเมืองหลวง มีการตั้งคณะปฏิวัติที่ไม่ยินยอมต่อตั๋งโต๊ะ ในการประชุมโจโฉเสนอตัวลอบสังหารแต่กระทำไม่สำเร็จจนตัวเองต้องหนี คิดง่ายๆหากเป็นคนทั่วไปที่ไม่มีความบ้าพออาจไม่กล้าลงมือแถมจะเปิดโปงคณะปฏิวัติอีกต่างหาก ในขณะการหนีไปยังมีวลีเด็ดที่ว่า "ข้าพเจ้าหักหลังคนได้ทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้ใครหักหลังข้าพเจ้า" แน่นอนคำกล่าวนี้คิดให้ดีกล้ามากกล้าที่จะบอกถึงความทะเยอทะยานของตนเอง ส่วน มูรินโญ่ จุดเริ่มจากครูพละ เป็นล่ามให้โค้ช และเป็นโค้ชเอง ไม่ต้องบรรยายมากน่าจะพอรู้กันอยู่บ้าง วันแรกรับงานคุมทีมเชลซีกล่าวว่า " I'm special one" คงไม่ต้องแปลคงพอเข้าใจกัน และวันแรกที่คุม อินเตอร์มิลาน กล่าวว่า "ผมจะคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปียนลีก" นึกได้อย่างเดียวสุดยอด แน่จริงๆ สองคนนี้หากผลสำเร็จไม่มีให้เห็นคงคิดว่าโม้ไปงั้นแหละ

 

มาต่อกับนิยามที่เหลือว่า ให้สมศักดิ์ศรีของคำว่า"บ้า" คือพูดแล้วทำได้อย่างมีศักดิ์ศรีในตนเองไม่ก้มหัวไปหลบเลียแข้งเลียขาใครแล้วได้ดีได้ดีเพราะสมองและความสามารถคือ โจโฉก็น่าสงสารนะเป็นคนรับดูแลพระเจ้าเหี้ยนเต้ในยามหมดสภาพจริงๆเขาไม่จำเป็นต้องดูแลหรอกทหารทั้งหมดก็เป็นคนในการดูแลของเขามาแต่แรกมิใช่อำนาจของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ปลดออกก็ทำได้แต่ก็ยังเลี้ยงไว้ทั้งที่ทำอะไรก็ไม่เป็นบริหารบ้านเมืองก็ไม่ได้ความ โจโฉสามารถรวบรวมแผ่นดินจีนที่แตกแยกออกไปมารวมไว้ได้ถึงครึ่งประเทศเป็นก๊กใหญ่ที่สุดในสามก๊ก บริหารให้ประชาชนกินดีอยู่ดีไม่มีภัยสงครามแต่กลับกลายเป็นทรราช (ความคิดส่วนตัวได้แนวคิดเสริมจาก หนังสือผ่าสมองโจโฉของท่าน เล่า ชวน หัว ) กล้าใช้คนที่มีความสามารถทั้งแผ่นดินไม่คำนึงว่าเป็นอะไรมาก่อน คือก็ผมจะสร้างประเทศนะ ผมเองก็ทะเยอทะยานแล้วจะกลัวใครทำไม เวลาแพ้ก็ว่าแพ้ เวลาคิดผิดก็ว่าผิด รับฟังบริวารทุกคนและหากใครคิดดีทำได้ก็ส่งเสริม มีความสง่ามาก ใครจะว่าเป็นอะไรก็ช่างตัดสินใจแล้ว

 

ส่วนมูรินโญ่ ไม่ว่ากันมาก ตอนคุมเชลซีเป็นแชมป์มากมายแต่ผิดใจกับเจ้าของสโมสรในการจัดนักเตะ ประมาณว่าหน้าที่ผมอย่ามายุ่ง ถ้าไม่พอใจผมจะไป ก็ไปจริงๆ พอไปอินเตอร์มิลาน ทีนี้ทั้งปัญหาทั้งกับนักข่าว และประธานสโมสร ประมาณพูดตรงทำจริงไม่เกรงใคร "ฉันเก่ง" สุดท้ายก็ได้ย้ายไปคุม เรอัล มาดริดในปัจุบัน สรุปคำกล่าวนี้คือว่าเล่ามาซะยาวเชียว จะทำอะไรหาเกรงแต่จะผิดนั่นผิดนี่ก็คงไม่ต้องทำกันพอดีแต่จะทำก็ต้องกล้าทำ ทำอย่างมุ่งมั่น และกล้ารับผิดชอบจากสิ่งที่ตนเองได้กระทำไม่ว่าดีหรือเลว ไม่ใช่ประเภทจะทำฉันไม่กล้าอย่าทำเลยขวางอีกต่างหากได้ดีฉันเอาด้วยนี่ฉันว่าแล้วมันจะดีส่วนมากมันชอบเป็นกันอย่างนี้ไม่มีศักดิ์ศรีกันซะเลยไม่เห็นด้วยพอเขาได้ดีก็อยู่เฉยๆหากเห็นด้วยแล้วว่ามันดีก็ยื่นมือไปช่วยเขาไม่ใช่จะไปเอาแต่หน้า

 

 "โอ้บ้าจริงๆหนอแมวซ่าส์"                                                                                

 

                                                                    

แมวซ่าส์!!!

 

ภาพแมว...searchได้จาก google แต่จำชื่อ web ไม่ได้