เมื่อเช้ามืดของวันนี้ (๖ ธันวาคม ๒๕๕๒) ต้องขี่รถเครื่อง ฝ่าความหนาวประมาณ ๑๐ องศาเซลเซียส ไปส่งน้องขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ เพื่อเดินทางไปอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน รอยต่อลำปาง - ลำพูน - เชียงใหม่ โดยรถไฟฟรี โดยรวมตัวกับเพื่อน ๆ ของน้องที่สถานีรถไฟเชียงใหม่
น้องบอกว่า รถไฟออก ๖.๓๐ น. แต่ออกจากบ้าน ๖.๐๐ น. ... โอ้โฮ ระยะทางระหว่างบ้าน ถึง สถานีรถไฟ ควรจะใช้เวลาเกินครึ่งชั่วโมง ทำให้ต้องเร่งฝ่าหนาวอย่างหนาวเหน็บ มีเท่าไหร่ บิดเท่านั้น
ง่วง ๆ ก็ง่วง หนาวก็หนาว แต่พอไปถึงสถานีรถไฟ รู้สึกเหมือนได้กลับมาเยือนสถานที่คุ้นเคยอีกครั้ง หลังจากไม่ได้มีกิจกรรมใด ๆ เกี่ยวข้องกับที่นี่มาหลายปีแล้ว เพราะไม่ค่อยได้ใช้บริการเหมือนตอนที่กำลังเรียนอยู่ที่ต้องเดินทางกลับบ้านด้วยรถไฟเป็นพาหนะหลัก
ภาพในอดีตหลายภาพปรากฎขึ้นมาในความคิดคำนึงอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อโอกาสได้มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว อยากจะขอบันทึกภาพปัจจุบันเก็บไว้ เพราะในอดีตไม่เคยมีโอกาส ด้วยเหตุปัจจัยหลาย ๆ อย่าง
ความเหงาเหมือนจับมาที่หัวใจอีกครา ...
"... ไม่เคยร้างผู้คน ..."
"... จุดขาย ..."
"... มากับช่วงช่วง ..."
"... สะอาดกว่าที่เคย ..."
"... เป็นแบบนี้มา ๑๐๐ ปี ..."
"... ใบโฆษณาไม่เคยเหือดแห้ง ..."
"... จุดหมายของฉัน คือ ปลายทางนั้น ..."
"... ซ้ำซ้อน และ ซอกลึก ..."
"... แย้มพราย ..."
"... เป็นภาพสะท้อนใจ ..."
"... ที่นั่งและปลายทาง ..."
"... แสง เงา เหงา และเดียวดาย ..."
"... ยังมีคนคอยอยู่ข้างหลังฉันเสมอ ขอจงศรัทธา ..."
ภาพที่เกิดขึ้นในใจ..เป็นภาพที่เป็นไปในอดีต
การเดินทางจากต้นทาง ไปยัง ปลายทาง ... สำหรับผม มันคือ "ความพลัดพราก"
ผมรู้สึกเช่นนี้ทุกครั้งที่ได้มาเหยียบสถานที่แห่งนี้
ผมไม่ชอบเลยจริง ๆ พับผ่าสิ ... ความเจ็บปวดแล่นมาถึงหัวใจจนรู้สึกแปล๊บ ๆ ทันที
แต่หากรถไฟเดินทางกลับมา "ความพลัดพราก" จะหายไป กลายเป็น "การรอคอย" มาแทนที่
หัวใจไม่เคยมีความพอดี อารมณ์ใดล้วนแต่คือ "ทุกข์" ทั้งสิ้น
เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ต้องทำให้ได้ คือ "ปล่อยวาง"
บุญรักษาทุกท่าน ครับ ;)
หายเหงา แล้วค่ะ มีคนมาเหงาแทน อิอิ
ยินดี "เหงา" แทนคุณ ♥paula ♥ที่ปรึกษาตัวน้อย✿ ;)
ขอบคุณครับ ;)
เอ แล้วผมจะไม่เชื่อได้ไงครับเนี่ย คุณครู วรางค์ภรณ์ เนื่องจากอวน ;) 555
ขอบคุณมากครับ ;)
บันทึกมีมากมายความรู้สึกปนๆอยู่นะครับ แต่ที่รู้สึกได้คือ ความเหงา ที่ปานออกมาเยอะในภาพ :)
สวัสดีครับ
ไม่ได้นั่งรถไฟไปเชียงใหม่นานแล้ว
ตอนหลังนั่งรถผ่านสถานีรถไฟก็แค่ชำเลืองดู
เห็นบันทึกนี้แล้ว อยากนั่งรถไฟอีกสักครั้ง
ขอบคุณครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ;)...
อารมณ์มนุษย์ก็แบบนี้แหละครับ หลากหลาย มากมาย ปะปนกันอยู่
ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์ ธ.วั ช ชั ย ;)... แบบนี้ต้องลองนั่งรถไฟดูอีกสักครั้งนะครับ ;)
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์..ยังสวยงามอยู่นะคะสถานีรถไฟเชียงใหม่..ไม่ลืมครั้งหนึ่งมางานจัดหาแรงงานภาคเหนือที่ มช. รุ่นพี่ที่มาเรียนไปรับคณะน้องๆมาจากแพร่ให้แบกกระเป๋าเดินข้ามสะพานนวรัตน์ไปขึ้นรถสี่ล้อแดงที่ถนนท่าแพ..เข็ดจะตายแล้ว..
ขอบคุณมากครับ คุณพยาบาล kumfun สำหรับการไม่พลัดพรากจากกัน ;)
ขอบคุณเรื่องเล่าอันเก่าแก่ของคุณครู rinda ครับ ;)
ขอบคุณมากครับ ท่าน เบดูอิน ;)
หนูว่า ..............นอกจากอาจารย์เหงา แล้วยังเย็นยะเยือก ต้องการความอบอุ่นใช่ป่ะ 55555
แต่หนูแปลกใจอยู่อย่างนึงค่ะ อยากถามว่าลุงเสื้อลายตาราง กางเกงขาสั้น เขาไม่หนาวหรอคะ ตั้ง10องศาเซลเซส สุดยอดฮับลุงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
สวัสดีค่ะอาจารย์..มาบอกว่าเรื่องเก่าแก่..การขึ้นรถไฟจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ไม่เคยได้นั่งอีก...เพราะชีวิตผ่านไปแล้ว..คงเหลือสิ่งที่ให้ระลึกถึงนะคะ...และอยากมาชวนอาจารย์ไปอ่านบันทึก..ใหม่..เขียนถึงพ่อค่ะ
ขอบใจมาก เด็กหญิง ขยัน Someday ที่ได้เข้ามาเยี่ยมบันทึกของครูเสียบ้าง ;) ... หน๊อย หายไปนาน ไม่คิดถึงกันเลย
สำหรับคุณลุงเสื้อลาย ครูคิดว่า ลุงกำลังรอผู้โดยสารที่จะมาจากขาขึ้นน่ะครับ ซึ่งหากลุงได้ผู้โดยสาร จะหมายถึง รายได้ประจำวัน ค่ากินข้าว สารพัดครับ
;)
รับทราบและขอบคุณมากครับ คุณครู rinda ;)
สวัสดีคะคุณครู
ตามมาชมภาพในแบบเหงาๆของคนกำลังเหงาค่ะ ^_^
ไม่ได้มาทักทายเสียนาน คุณครูพี่เสือสบายดีนะคะ
ด้วยความระลึกถึงค่ะ ^_^
ตามน้องครูเทียนน้อยมาด้อมๆ มองๆ อ.เสาเหงือ ๕ ๕
แมว แมวกัน ท่านเสือใหญ่ มองรถไฟแล้วเหงา ได้ไงนิ
อันตัวข้าเจ้าเห็นชานชาลา รถไฟแล้วระรื่น ชื่นมื่นกับวันวาน
ดั่งเพลง คำสัญญาหน้าโบกี้ ... อิ อิ ว่าแต่ท่านเสาเรือ
ชีพจรลงเท้าไปคลายเหงาที่ไหนหนอ ... ท่านเสือเข้าป่าคอนกรีตฤา
สวัสดีครับ น้องคุณครู เทียนน้อย ;)
ยังสบายดีอยู่ครับ ... แล้วน้องล่ะ ???
ขอบคุณที่ยังระลึกถึงกันอยู่เสมอนะครับ ;)
สวัสดีครับ คุณ poo แฟนพันธุ์แทะ ;)
แวะมาแทะ ๆๆ ฉับ ๆๆ อีกแล้วนะครับ อิ อิ
คำสัญญาที่หาดใหญ่หรือเปล่า เพลงที่มีเสียงรถไฟฉึ่ก ฉั่ก
วันหยุดนี้ พ่อกะแม่มาเที่ยวเชียงใหม่ครับ พาไปวัด สะเมิง สันกำแพง ประมาณนี้ ครับ
ขอบคุณครับ ;)
ยอมรับเสียดีๆ ว่า "เหงา" อิอิ
อูยยยย คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ไม่เหงาหรอกครับ
เพียงแต่ว่า ... บรรยากาศของสถานีรถไฟ และ ความรู้สึกภายในเมื่อสัมผัส
มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ ;)
ผมรังเกียจ "ความพลัดพราก" อย่างแรง
สวัสดีครับคุณครู
ด้วยความบังเอิญครับ ท่าน เหรียญชัย เหรียญชัย มาวงษ์ ;)
คลิกแล้วไปพบพอดีเลยครับ
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ครบรอบ 1 ปีแล้ว ;)
เขียนบันทึกเตือนความจำหน่อยไหมครับ อิ อิ
ชีวิตการเรียนคล้ายกันค่ะแสวงหา แต่ขี้เกืยจ ชอบเที่ยว เพื่อนดี แต่ต่างกันตรงคุณขึ้นดอย เราเข้าเมือง เคยนั่งรถไฟชั้น 3 ครั้งแรกไปเที่ยวเกาะ ที่ตรัง ก็มีเสน่ห์เหมือนเมืองเชียงใหม่ อาจจะคนละอารมณ์ คิดถึงอดีตก็เหงา ๆ นึกถึงการเดินทางและเพื่อนสมัยเรียน เศร้าจัง
ขอบคุณครับ คุณ kera ;)... ผมชอบนอกเมืองกว่าในเมืองเท่านั้นเองครับ
แผนของชีวิตที่ผ่านมา คือ การเดินออกมาจากเมืองใหญ่ วิ่งมาหาความสงบเท่าที่จะทำได้ครับ .. ไม่ต้องรวย ไม่ต้องมีงานดี ๆ ชีวิตจะมีจุดดี ๆ อยู่เสมอ อย่างที่หนังสือ เข็มทิศชีวิต 3 ได้โปรยเอาไว้
แค่ศรัทธาในการทำความดี ;)