เวียดนามกลางพายุฝน ตอน ๘ : ของฟรีที่ไม่มีใครอยากได้


เด็กๆ กับการฉีดวัคซีน ของฟรีที่ไม่มีใครอยากได้

     

 

                นอกจากตายฟรีแล้ว ยังมีของฟรีอะไรอีกที่ไม่มีใครอยากได้

                เช้าวันหนึ่ง ที่โรงพยาบาลในโฮจิมินห์ ฉันคิดคำถามนี้ขึ้นมาเอง

                บางคนอาจจะบอกว่า โลงศพ  เพราะเคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ฝรั่ง ที่มีคนโชคดีได้รับรางวัลเป็นโลงศพ แต่ไม่ยอมไปรับ  แต่ฉันว่าโลงศพถ้าถึงเวลาต้องใช้จริง ๆ  ได้ฟรีก็ไม่เลวหรอก ราคาโลงศพดี ๆ ไม่ใช่ถูก ๆ  เลย

                ถ้ามีใครเขาให้ก็รับ ๆ  มาก่อน ถือคติมีไว้ ดีกว่าถึงเวลาจะใช้แล้วไม่มี

                ส่วนจะเอามาเก็บไว้ที่ไหน ค่อยคิดกันอีกที แต่ไม่ต้องคิดเอามาฝากไว้ที่บ้านฉันหรอกนะ หนังสือเต็ม

                ชีวิตมีเรื่องแปลก ๆ ผ่านเข้ามาเสมอ หรือนี่คือสีสันที่แต่งแต้มชีวิตไม่ให้ราบเรียบ จืดชืดเกินไป

                ทุกวันที่ 25 ของทุกเดือนในเวียดนาม เป็นวันที่น่าตื่นเต้นของเด็ก ๆ  เพราะเป็นวันฉีดวัคซีนฟรี !  กึ๋ย ...

                พ่อแม่ ผู้ปกครอง จะอุ้มลูก จูงหลานมารับบริการ ทุกโรงพยาบาล ทุกสถานีอนามัย จะต้องมีบริการนี้ให้กับเด็ก ๆ  ด้วยมาตรฐานเดียวกัน อุปถัมภ์โดยรัฐบาลกลาง ที่ทุ่มงบประมาณเพื่อคุณภาพของอนาคตของชาติ

            

                ส่วนใครจะมาฉีดวัคซีนอะไรก็เป็นไปตามตารางในสมุดสุขภาพของแต่ละคน

                บ้านเรา ค่าใช้จ่ายแสนแพงเหล่านี้ตกเป็นภาระของพ่อแม่ ใครเกิดมาเป็นลูกคนจนก็แย่หน่อย ไม่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างที่ควรจะเป็น แต่ที่ประเทศเวียดนาม ไม่ว่าจะเกิดเป็นลูกใคร

                เด็ก ๆ ได้รับทุกบริการฟรีจากโรงพยาบาลทุกแห่ง  เจ็บไข้ไม่สบาย รักษาฟรีทุกโรค  ตลอดอายุการเป็นเด็ก

                เด็กเวียดนามน่าจะภาคภูมิใจ และยินดีรับบริการอย่างเบิกบานใจ แต่ความเป็นจริง ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

                ภาพที่เห็นตรงหน้า ฉันอดขำไม่ได้ แทนการยินดี ปรีดา และขอบคุณในการเอาใจใส่ของรัฐบาล

                เด็ก ๆ กลับร้องไห้กันกระจองอแง

                บางคนที่เดินมาอย่างองอาจกล้าหาญ เข้าใจว่าพ่อแม่คงคุยเตรียมตัวมาดีจากบ้าน ครั้นมาเจอเพื่อน ๆ ร้องไห้ ก็เลยผสมโรงร้องไปด้วย ดูวุ่นวายดี  ที่โตหน่อยก็นั่งหน้าซีด ๆ รอหมอเรียกตัว ที่ร้องไห้ดิ้นพลาด ๆ ก็มี  เดือดร้อนหมอ พยาบาล ต้องปลอบใจ หลอกล่อ ประมาณว่า ไม่มีที่ไหนให้ของดี ๆ  ฟรี ๆ  แบบนี้แล้วนะ ดูอย่างเมืองไทยเป็นตัวอย่าง ขอร้องเถอะ ช่วยรับไปหน่อยเถอะ พ่อคุณ แม่คุณ

                ฉันคิดไปเรื่อยเปื่อยเอง ไม่รู้ว่าหมอปลอบเด็กว่าอย่างไร ก็ฟังไม่รู้เรื่องสักคำ  แต่ก็เห็นเด็ก ๆ เงียบเสียง ปาดน้ำตาเดินตามพ่อแม่เข้าไปในห้องฉีดยาแต่โดยดี

 

                คิดถึงสมัยเป็นเด็ก เวลาจะไปฉีดวัคซีนแต่ละครั้ง ก็ร้องไห้เหมือนกัน บางคราวมัวแต่ร้องไห้ ไม่รู้ว่าหมอฉีดยาเสร็จไปตั้งแต่เมื่อไร เจ็บหรือเปล่ายังไม่รู้ตัวเลย รู้แต่ว่าต้องร้องไห้ไว้ก่อน  เพราะใคร ๆ เข้าก็ร้องกัน

                ที่ตลกคือ เด็กบางคน ฉีดยาเสร็จแล้ว ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด ร้องจนออกไปจากโรงพยาบาล ดูน่าสงสาร และน่าขันในเวลาเดียวกัน

 

                ฉีดวัคซีนฟรีนี่ไง  คำตอบของคำถามในต้อนต้น ของฟรีที่ไม่มีใครอยากได้

 

หมายเลขบันทึก: 324721เขียนเมื่อ 3 มกราคม 2010 10:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ

  • อ่านเรื่องเล่าของน้องทำให้คิดได้ค่ะ
  • เมื่อ ๑๐ กว่าปี  เป็นครูสอนอยู่บ้านนอก บนเขา อากาศสบาย เงียบสงบ
  • พาเพื่อนชาวอังกฤษไปเยี่ยมโรงเรียน  เธอถามพี่คิมว่า "ทำไมยูไม่พักอยู่ที่โรงเรียนหรือมีบ้านอยู่แถวนี้ ไม่น่าไปอยู่ในเมืองเลย"
  • พี่คิมตอบเขาว่า..เราต้องการสวัสดิภาพค่ะ  เพราะประเทสไทยไม่เหมือนประเทศของคุณ
  • ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะปีใหม่ค่ะคุณ วันรวี รุ่งแสง

หลังจากอ่านข้อคำถามจบ ก็คิดทันทีค่ะว่า ฉีดวัคซีนค่ะ ของฟรีที่ไม่มีใครอยากได้..อิ อิ

อ่านจบแล้วก็น่ารักดีค่ะ บรรยากาศที่คุ้นเคยสำหรับภาพเด็กระจองอแงเวลามารับวัคซีน

บ้านเรา ค่าใช้จ่ายแสนแพงเหล่านี้ตกเป็นภาระของพ่อแม่ ใครเกิดมาเป็นลูกคนจนก็แย่หน่อย ไม่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างที่ควรจะเป็น แต่ที่ประเทศเวียดนาม ไม่ว่าจะเกิดเป็นลูกใคร

 เด็ก ๆ ได้รับทุกบริการฟรีจากโรงพยาบาลทุกแห่ง  เจ็บไข้ไม่สบาย รักษาฟรีทุกโรค  ตลอดอายุการเป็นเด็ก

ขอแลกเปลี่ยน และทำความเข้าใจกับตรงนี้นิดนึงนะคะว่า บ้านเรา (ประเทศไทย) รัฐบาลก็ให้การดูแลในเรื่องสุขภาพของเด็ก ๆ ฟรีทุกคนค่ะ รวมถึงเด็กต่างชาติที่เกิดในประเทศไทยด้วย เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคในเด็กแรกเกิดถึง 5 ปี ที่อยู่ในโปรแกรมสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค  (EPI)  ฟรีทุกรายการค่ะ นอกจากเด็กที่พ่อแม่ มีเงินมากหน่อยพาลูกไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเอกชน ก็คงต้องเสียตังค์เองค่ะ ส่วนการรักษาพยาบาล เด็กแรกเกิดถึง 12 ปี ได้รับการรักษาฟรีค่ะ

ขอบคุณค่ะที่ทำให้เห็นภาพการดูแลสุขภาพเด็กของประเทศเวียตนาม

ขอให้มีความสุขมากมาย สุขภาพกาย ใจ แข็งแรงตลอดปี และตลอดไปค่ะ...^_^

ขอบคุณค่ะครูคิม

ขอบคุณค่ะคุณสีตะวันสำหรับข้อมูลที่แลกเปลี่ยน

อาจเป็นว่าที่เวียดนามไม่มีโรงพยาบาลเอกชนดีๆ การบริการด้านสุขภาพเป็นของรัฐที่เป็นแบบเดียวกันทั้งประเทศ ก็เขาเป็นคอมมิวนิสต์นี่คะ รัฐจัดทุกอย่างให้อยู่แล้ว ไม่มีต่างมาตรฐานว่าบัตรสามสิบบาทได้ยาอย่างหนึ่ง บัตรประกันสังคมได้ยาอีกแบบ บ้านเราการรักษาพยาบาลต่างมาตรฐานกันเยอะมากค่ะ ที่โน่นมีมาตรฐานเดียว เว้นแต่ว่าจะเจอหมอยิ้มยาก หรือหมอช่างคุยเท่านั้น

แต่ค่าคลอดลูกของเขาถูกมากจริงๆ เพื่อนทำอุลตราซาวน์ไป ๔ ครั้ง เสียเงินไม่ถึงพันบาท ตอนคลอดก็ผ่าคลอด อยู่ห้องพิเศษอย่างดี จ่ายไปไม่ถึงหมื่น นอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ เพราะเจอโรคแทรกซ้อนที่เจ้าตัวไม่เคยรู้มาก่อน

ความที่เราเป็นคนไทย ผ่าท้องคลอดก็ต้องมี ๓-๔ หมื่น(กรุงเทพฯ) และไม่เคยใช้โรงพยาบาลรัฐ พอเพื่อนบอกต้องผ่าคลอด เลยหอบเงินไปตั้งเยอะ กะไปให้เพื่อน ปรากฏว่าแทบไม่ต้องจ่ายอะไร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท