ความรู้สึกของผู้หญิงอายุ 29 ย่าง 30 ปี


บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมหนูต้องเขียนเรื่องนี้ และต้องรีบเขียน เพราะหนูว่า หนูคงอายุ 29 ย่าง 30 ปี ได้ไม่นาน สิ่งที่เขียนก็เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตนเองและเรียนรู้จากการสังเกต ซึ่งมันก็เปลี่ยนแปลงตลอด ก่อนที่จะพ้นวัยนี้จึงขอเขียนถอดบทเรียนในตนเองซะหน่อยค่ะ

 

 

          ขณะที่หนูไปวิ่งออกกำลังกายเช้านี้ ความคิดก็ปรากฏขึ้นมาว่า

ทำไมช่วงนี้ใจหนูมีความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเรื่องความใคร่นะ 

หนูใช้คำถูกไหมนะ  (ขอติดไว้ก่อนค่ะ ใช้คำนี้ไปก่อน)

มีความรู้สึกว่ามันเป็นแรงบีบมาจากข้างใน

หนูถามตนเองว่ามันคืออะไร

 

ไม่ใช่ความเหงา เพราะรู้สึกได้ว่าการใช้ชีวิตคนเดียวทำอะไรคล่องตัว จะกิน จะเดิน จะนั่งจะนอน ไม่ต้องห่วงอะไร ไม่ต้องห่วงใคร

 

หรือว่าต้องการใครสักคน แต่ความรู้สึกไม่ปรารถนาที่จะจองจำใจ ไว้ที่ใคร แต่รู้สึกมีความสุขที่เห็นคนอื่นมีความสุข

 

อืมจริงเหรอ

บางทีก็มีความรู้สึกอิจฉาอยู่นะ

แสดงว่า ยังยินดีกับความสุขของคนอื่นไม่เป็นหน่ะซิ ถึงสุขไม่จริงสักที

 

อืมเหมือนหนูไม่ได้ต้องการใครสักคน เพราะมีความรู้สึกว่า ความต้องการนี้ไม่มีตัวตน หรือ ตัวคนมารองรับ  แต่เป็นความอยากที่ออกมาจากภายใน

 

พิจารณาปัจจัยในช่วงนี้ หนูเองอายุยี่สิบเก้าปี จะว่าไปก็ใกล้ ๆ จะสามสิบปี ดูเหมือนว่าผู้หญิงอายุช่วงนี้จะมีความหวั่นไหว ตอนแรกหนูสังเกตว่าเป็นช่วงของฮอร์โมนตามรอบประจำเดือนหรือไม่ คำตอบก็ดูเหมือนว่า มีบ้างแต่ไม่ทั้งหมด เพราะมีความรู้สึกว่า แรงดึงรั้งแบบนี้ครอบงำอยู่ตลอดเวลาอยู่ที่ว่าจะหนักหรือจะเบา

 

ปัจจัยอีกอย่างในช่วงนี้ บางทีหนูก็นั่งดูละครหลังข่าวย้อนหลัง ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หนูเกิดความคิดมากมายเกี่ยวกับเพศตรงข้าม อืม อันนี้ไหมนะ สื่อนี่รึเปล่านะ ที่ส่งผลในมีค่านิยม ชิงสุกก่อนห่าม เพราะดูเหมือนกี่เรื่อง ๆ ก็ ไม่ค่อยจะเว้นเรื่องแบบนี้กันสักเท่าไหร่

 

อืม........หนูเป็นหนึ่งในเหยื่อของสื่อหรือนี่ หรือว่า สื่อเป็นเหงื่อของหนูกันแน่นะ

กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ หนูพยายามพิจารณาหา สาเหตุ หาอะไรมาอธิบาย

 

แต่ยิ่งพิจารณายิ่งเห็นใจตนเองชัดว่า เพ่งโทษ หาเหยื่อ หาคนรับผิด โดยไม่ได้มองย้อนเข้ามาที่ใจตนเองเลยว่า ขาดการเจริญสติ อารมณ์จึงเข้ามาครอบงำจิตได้

 

ความรู้สึกที่ปะทุเข้ามาในใจ บีบคั้นให้ทำสิ่งต่าง ๆ แต่ก็ไม่เห็น ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำจนเลยเถิด อย่างนี้หรือค่ะครูที่ครูเตือนหนูเสมอว่า

 

“ถ้าไม่ภาวนาหน่ะ มันจะทุกข์หนักมาก”

 

โดยสรุปสำหรับตนเองในเช้านี้เกี่ยวกับความรู้สึกที่ปรากฏสาเหตุคือ
  1. ไม่มีสติ อ่อนภาวนา ปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ
  2. ระดับของฮอร์โมนเปลี่ยน สังเกตจากทางกาย มีอะไรแสดงถึงความเป็นเพศหญิงชัดขึ้นตามช่วงวัย เช่น ช่องอกขยายขนาด หน้าท้องเริ่มปรากฏชัด สะโพกเปลี่ยนรูป หรือทางอารมณ์ คือ ขึ้น ๆ ลง ๆ วูบวาบ น้อยใจง่าย
  3. การดูละครทำให้หลงและมีความคิดปรุงแต่งเรื่องเพศและความรัก
  4. อายุ 29 ย่าง 30 ปี เป็นช่วงวัยของผู้หญิงที่หวั่นไหว หรือเป็นการกระตุ้นของธรรมชาติมนุษย์ในการดำรงเผ่าพันธุ์นะ

 

 ตอนแรกว่าจะไปหางานวิจัยมายืนยัน แต่ขอเก็บไว้ก่อน ขอสังเกตไปก่อน เพราะงานวิจัยไหน ๆ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการเจริญสติแล้วสังเกตตนเอง เพราะหนูเชื่ออย่างยิ่งว่า มันอยู่ไม่นาน  ถ้าเป็นก่อนหน้าที่รู้จักครู หนูคงรับไม่ได้และผลักไสความรู้สึกนี้อย่างทุกข์ทรมาร ประกาศไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่เป็นอย่างใครว่า แล้วมาแอบนอนร้องไห้คนเดียว แต่ตอนนี้ยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาของการเกิดเป็นมนุษย์ตามช่วงวัย เป็นสิ่งที่หนูต้องเรียนรู้

หมายเลขบันทึก: 329086เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2010 07:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ทุกอย่างจะเรียนรู้ และผ่อนคลายด้วยตัวของเราเอง

หายใจเข้าลึก ๆ และค่อย ๆ ผ่อนออกอย่างช้า ๆ

ค่ะ..อย่างนั้นแหละ...อิ อิ

แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงค่ะ...^_^

ขอบพระคุณค่ะ สีตะวัน P
ที่เมตตาแลกเปลี่ยน หนูจะน้อมใจน้อมกายลงเพื่อเรียนรู้ หายใจสบาย อย่างที่ครูเมตตาอบรมมาเจ้าค่ะ

(^_^)

สวัสดีค่ะ เข้ามาเรียนรู้ก่อนอายุ 29 ค่ะ อิอิ

ดาวว่า ความรู้สึกเช่นนี้ก็คงจะเกิดกับผู้หญิงทุกคนนะคะ เพียงแต่เราจะจัดการกับมันได้ดีแค่ไหน

ตอนสมัยเรียนดาวเห็นเพื่อนเค้ามีแฟน ก็เคยอยากมีบ้าง อยากหาคนมาเป็นเพื่อน มาเติมเต็มชีวิต คอยให้กำลังใจ

แต่คิดไปคิดมาขนาดเรารู้ใจตัวเราเองดีที่สุดยังไม่สามารถเติมเต็มให้ตัวเองได้ จะหวังให้คนอื่นมาคอยเติมเต็มได้อย่างไรกัน เลยฝึกเรียนรู้ที่จะเติมให้ตัวเองก่อน แล้วแบ่งปันให้คนอื่นดีกว่า จะได้ไม่ทุกข์เพราะคอยไปคาดหวัง

ตอนนี้ดาวเลยปล่อยไปตามวิถีทางค่ะ...กำลังรอดูอยู่ว่าจะมีใครหรืออะไรมาให้เราได้เรียนรู้เพื่อที่จะก้าวข้ามอีก

กำลังฝึกดูใจตนเองทั้งความทุกข์และความสุขที่เข้ามา... มันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจริงๆ (จนบางทีเราก็ตามไม่ทัน) 555

ค่ะหมอดาว ติ๋วเองก็พยายามเรียนรู้

แต่เชื่ออย่างยิ่งว่า ไม่มีอะไรหนีพ้นกฏของไตรลักษณ์ไปได้ค่ะ

ขอบพระคุณนะคะ ที่แลกเปลี่ยน

เพ่งอารมณ์มากไป .......... เพ่งเวลาที่ควารเพ่ง...เรียกว่าสมาธิ.....เพ่งเวลาที่ไม่ควารเพ่ง...เรียกว่าฟุ้งซ่าน..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท