ประเภทของฟอนต์ (Type of Font)


ฟอนต์ กลายมาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้กับงานออกแบบในปัจจุบันเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแค่พิมพ์รายงาน ทำ presentation กราฟิกโฆษณา หรือหนังสือนิตยสารต่าง ๆ ล้วนแต่ต้องการฟอนต์ในรูปแบบต่าง ๆ กันออกไป

ก่อนอื่นเราจะมีทำความรู้จักกับประเภทของฟอนต์กับคร่าว ๆ ก่อน......... ฟอนต์ในปัจจุบัน แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

 

Postscript (PS1)

Postscript หรือ PS1 format เป็นเทคโนโลยีที่คิดค้นโดยบริษัท Adobe ก่อนจะมีฟอนต์แบบ TrueType ในเวลาหลายปีต่อมา  PS1 เป็นฟอนต์ที่คมชัด และให้รายละเอียดมาก ถูกใช้มากสำหรับงานที่ต้องการคุณภาพสูง เช่น หนังสือ หรือนิตยสารรายปักษ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ มักเป็น professional designer มากกว่า home user ในระยะแรก วิธีการ install font แบบ postscript นี้ค่อนข้างยุ่งยาก และจะต้อง install ผ่านโปรแกรมที่ชื่อว่า ATM (Adobe Type Manager) แต่ในภายหลัง Microsoft ได้ปรับปรุงวิธีการ install นี้ใน Windows OS ทั้งหมด ตั้งแต่เวอร์ชั่น windows 2000 เป็นต้นมา ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

 

TrueType (TT) <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"> </p><p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt;">TrueType เป็นมาตรฐานของฟอนต์ ที่ถูกวางรากฐานมาจาก Apple และ Microsoft ในช่วงยุคปลายปี 80 support การทำงาน บนระบบปฏิบัติการทั้ง Macintosh และ Windows ทำให้ TrueType font เป็นมาตรฐานที่ได้รับความแพร่หลายมากที่สุดในยุคนั้น TT เป็นรูปแบบที่นำเอาข้อมูลของฟอนต์ ที่ใช้ในการวาด (Draw) บน screen กับข้อมูลที่ใช้ในการพิมพ์ผ่าน printer มารวมกันอยู่ใน package เดียวกัน เป็นฟอนต์ที่สามารถ scale และเปลี่ยน size ได้ทุกขนาด โดยที่จะยังคงความคมชัดอยู่เสมอสำหรับทุก point ที่เปลี่ยนไป ฟอนต์ที่เป็นลักณะ TrueType นี้ยังสามารถ print ได้ด้วย printer ทุกแบบที่ support ด้วย Windows </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">OpenType</p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt;">OpenType เป็นผลจากความร่วมมือกันของ Adobe และ Microsoft มีลักษณะคล้ายกับ TrueType ต่างกันตรงที่ OpenType มี character set ที่กว้างกว่า ทำให้สามารถบรรจุจำนวนตัวอักขระได้มากถึง 65,000 ตัวอักษร ด้วยจำนวนที่มากกว่า TrueType นี้ ทำให้ OpenType สามารถเก็บตัวอักษรแปลก ๆ อักขระพิเศษ ตัวอักษรของภาษาอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น จีน กลุ่มประเทศอาหรับ สัญลักษณ์ต่าง ๆ เอาไว้ได้มากมายในฟอนต์เดียว และความสามารถพิเศษอันนี้นี่เอง ทำให้ OpenType สามารถทำงานได้กับทุก platform  โดยไม่มีเงื่อนไข  เพราะบรรจุเอา character code ไว้แล้วทุก platform นั่นเอง </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center;" align="center"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center;">  </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt;">นอกจาก 3 ประเภทที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ปัจจุบัน ก้อมีแตกแยกย่อยออกไปอีกหลายรูปแบบนะครับ มีทั้ง Vector Type, Raster Type, Clear Type และอีกหลายต่อหลายแบบ จุดที่น่าสนใจจุดหนึ่งคือ แบบ Raster Type……ฟอนต์โดยปกติทั่วไปแล้ว ถ้าเป็น TrueType จะมีคุณสมบัติในการ resizable อยู่…..นั่นคือ ไม่ว่าเราจะเพิ่ม size ของฟอนต์เข้าไปกี่ point ก็ตาม ตัวอักษรที่ได้ จะมีการ draw ใหม่เสมอ ทำให้ขอบตัวอักษรคมชัด คล้าย ๆ กับภาพแบบ Vector จึงเรียกคุณสมบัติแบบนี้อีกอย่างหนึ่งว่า Vector Type  แต่ในกรณีของ  RasterType  นั้น จะมีความคมชัดของตัวอักษรที่  point  size หนึ่ง ๆ เท่านั้น เช่น 12pts, 18pts, 24pts หรือ 60 pts เมื่อเราทำการขยายฟอนต์นั้นให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จะพบว่า ที่ขอบของตัวอักษรจะเกิดการแตกเป็นเหลี่ยม ๆ คล้าย ๆ กับเวลา zoom ภาพ แบบ raster เข้าไปเรื่อย ๆ นั่นเอง </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt;">เมื่อลองเปิด Folder Fonts ใน windows ดู เราจะพบว่า Icon รูปร่างต่าง ๆ นั้นจะสื่อถึงประเภทของฟอนต์แต่ละแบบครับ</p> <p class="MsoNormal" style="padding-left: 240px; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: left;"> TT คือ TrueType </p> <p class="MsoNormal" style="padding-left: 240px; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: left;"> O คือ OpenType</p> <p class="MsoNormal" style="padding-left: 240px; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: left;"> A คือ RasterType / PS1 </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">  </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center;" align="center"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center;"> </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt;">ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือฟอนต์ Microsoft Sans Serif” กับฟอนต์MS Sans Serif” หลาย ๆ คนคงเคยใช้ฟอนต์สองตัวนี้มาแล้วแน่ ๆ  แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าฟอนต์สองตัวนี้ต่างกันอย่างไร เพราะถ้าพิมพ์ในขนาดเล็กแล้ว จะไม่สามารถแยกได้ถึงความแตกต่างเลย  …..เฉลยก็คือ “Microsoft Sans Serif” เป็นฟอนต์แบบ VectorType ส่วน “MS Sans Serif” เป็น RasterType ครับ ลองดูตัวอย่างในรูปนะครับ ในรูปนี้ ด้านบนคือฟอนต์ “Microsoft Sans Serif” ครับ ด้านล่างคือฟอนต์ “MS Sans Serif” ที่ขนาด 28 pts เท่ากัน ลองเปรียบเทียบความคมชัด </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"> </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center;" align="center"> </p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: center;" align="center"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"> อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คิดว่าน่าจะได้ไอเดียในการเลือกฟอนต์มาใช้งานไม่มากก็น้อย</p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;"></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">เก็บมาจาก >>>></p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">http://www.technoprintingcenter.com/content.php?subid=7&mid=3</p> <p class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">เมื่อ….8-11-2551  16.27 น.</p>

คำสำคัญ (Tags): #ฟอนต์
หมายเลขบันทึก: 228185เขียนเมื่อ 8 ธันวาคม 2008 16:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท