4 ปีที่ผ่านมา...ไม่เคยมีครูคนใดได้รับโทษทางวินัยร้ายแรงจาก "การจ้างวานทำผลงานวิทยฐานะ" เลย ?


หนังสือพิมพ์มติชน ประจำวันที่ 2 มกราคม 2552 ลงข่าวการศึกษาเกี่ยวกับ "ผู้รับจ้างและจ้างวานทำผลงานวิชาการทำวิทยฐานะ" ดังนี้

 

ครูขู่ฟ้องดีเอสไอฟันมือปืนรับจ้าง : เขียนผลงานวิทยฐานะ-ก.ค.ศ.ชี้ทำได้

 

นายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายจำเริญ พรหมมาศ นายกสมาคมศึกษานิเทศก์แห่งประเทศไทย ระบุถึงปัญหาครูไม่ได้ทำผลงานทางวิชาการเพื่อเลื่อนวิทยฐานะด้วยตัวเองแต่ว่าจ้างมือปืนด้วยราคาตั้งแต่ 50,000 - 120,000 บาท ว่าเป็นปัญหาที่สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอด แต่เมื่อลงไปตรวจสอบทางลึก ก็ไม่พบหลักฐานที่จะมาเอาผิดทางวินัยได้ และแม้จะส่งต่อให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด ตรวจสอบ ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า ไม่มีมูลเพียงพอที่จะเอาผิดตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ได้ เรื่องจึงยุติทุกครั้ง ซึ่งจนถึงตอนนี้แม้จะใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้มา 4 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยลงโทษทางวินัยร้ายแรงเรื่องนี้กับข้าราชการครูคนใดสักราย ซึ่งโทษสำหรับการคัดลอกดัดแปลง รวมทั้งการจ้างวานทั้งผู้ที่จ้างวานและผู้ที่รับจ้างวาน ถ้าเป็นข้าราชการจะมีโทษทางวินัยร้ายแรง ส่วนหากผู้รับจ้างวาน เป็นคนนอกวงการครู ก็ต้องว่ากันไปตามความผิดของกฏหมายที่เกี่ยวข้อง

เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายจำเริญระบุว่า มีผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ค.ศ.รับเชิญไปเป็นวิทยากร โดยระบุคุณสมบัติชัดเจนในแผ่นพับโฆษณาว่า เคยอ่านผลงานทางวิชาการนั้น อยากให้ผู้ร้องเรียนระบุให้ชัดว่าเป็นใคร เพราะถ้ามาเหมารวม ก็จะไม่เป็นธรรมกับผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ค.ศ. เพราะส่วนใหญ่ล้วนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิกันทั้งนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ค.ศ.ท่านใดดำเนินการตามที่ถูกร้องเรียนแน่นอน อยากให้นำแผ่นพับดังกล่าวมาร้องเรียนเพื่อจะได้ตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องช่วยกันสอดส่องดูแลด้วยกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ ต้องช่วยกันตรวจสอบให้ชัดถ้ามีเบาะแส ส่วนการจะไปร้องเรียนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเรื่องนี้นั้นก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลสามารถดำเนินการได้

ด้านนายจำเริญกล่าวว่า เคยมอบหลักฐานแผ่นพับดังกล่าวให้กับรองเลขาธิการ ก.ค.ศ.ท่านหนึ่งแต่เรื่องก็เงียบหาย ดังนั้น ตนจะส่งมอบให้กับเลขาธิการ ก.ค.ศ.ต่อไป โดยจะมีทั้งหนังสือเชิญชวนการเข้าอบรมประชุมสัมมนาและประวัติวิทยากรผู้ให้การอบรมคนดังกล่าวประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม หากการร้องเรียนไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ.แล้วไม่มีความคืบหน้า ตนก็มีแนวคิดที่จะไปร้องเรียนต่อดีเอสไอให้ช่วยตรวจสอบต่อไป และจะขอให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้ามาดูแลและดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 

......................................................................................................................................

อ่านข่าวจบ ก็เพิ่งทราบว่า ...

  • การคัดลอกผลงานวิชาการ ถือเป็นโทษวินัยร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 หมายถึง ถ้าพบความผิดจริง ต้องไล่ออกสถานเดียว
  • นับตั้งแต่มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 มาแล้ว 4 ปี ไม่เคยมีครูคนใดที่ได้รับโทษวินัยร้ายแรง แม้แต่คนเดียว
  • มีการร้องเรียนเรื่องของการคัดลอกผลงานวิชาการเพื่อขอวิทยฐานะ แต่กลับไม่มีหลักฐานเพียงพอ เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ระบบอุปถัมภ์ยังคงใช้งานได้อยู่ในเมืองไทยหรือเปล่า หรือทุกคนเป็นคนดีเท่าเทียมกัน ข่าวที่ออกมาตลอด 4 ปี เป็นข่าวลวง เชื่อถือไม่ได้หรือ

 

กรณีนี้ผมเคยพบแล้วที่บันทึก "ครู" ว่าจ้างคนอื่นทำผลงานวิชาการ เพื่อเลื่อนวิทยฐานะของตัวเอง ... ถูกต้องใช่ไหม ?

 

เกิดอะไรขึ้นหรือครับ ?

เชื่อเถอะว่า การจ้างวาน หรือ รับจ้างวาน มีอยู่จริง การสืบทางลึกและทางลับ ย่อมพบพยานและหลักฐานแน่นอน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น

  • ผู้กระทำผิด สามารถซ่อนเร้นพยานและหลักฐานได้อย่างแนบเนียน จนไม่สามารถจับได้
  • ระบบตรวจสอบผลงานวิชาการสำหรับครูที่ขอวิทยฐานะยังทำได้ไม่ดี หรือไม่มีเลย ทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่า ผู้ทำผลงานวิชาการได้คัดลอกผลงานคนอื่นมาหรือไม่ หากมีโปรแกรมตรวจสอบ หรือฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกันกับงานวิจัยและทำผลงานทั่วประเทศ เรื่องการคัดลอกน่าจะตรวจสอบได้ในระดับหนึ่ง
  • มีการใช้ระบบอุปถัมภ์ช่วยเหลือกันของคนในวงการ เช่น เพื่อนกัน ญาติกัน คนเสน่หากัน ฯลฯ เพื่อปกปิดการกระทำผิด บางครั้งการเรียกรับเงิน คอรัปชั่น ย่อมเกิดตามมา
  • หากตรวจสอบได้ว่า คนในบังคับบัญชากระทำผิด ผู้บังคับบัญชาก็กลัวว่า ตัวเองบริหารงานบกพร่อง จึงทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ สนใจน้อย ๆ เพื่อป้องกันขาเก้าอี้ตัวเองไว้ก่อน
  • ความหย่อนยานของผู้คุมกฎระเบียบการตรวจสอบผลงานวิชาการ ทำให้ไม่มีมาตรฐาน
  • ความไม่จริงจังของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ที่ปล่อยปละละเลย
  • ฯลฯ (ช่วยคิดด้วยครับ คิดไม่ออกแล้ว)

 

ผลที่เกิดขึ้น ?

  • การคัดลอกผลงานวิชาการ เป็นเรื่องปกติ ใคร ๆ เขาก็ทำกัน
  • ต่างคนต่างไม่สนใจในวิธีการซึ่งกันและกัน ใช้วิธีการใด ก็ได้วิทยฐานะเหมือนกัน
  • คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณของคนเป็นครูเสื่อมถอย สังคมเสื่อมทรามเร็วขึ้น
  • มีแต่คนขี้โกงเท่านั้นที่ทำให้ชีวิตการงานของตัวเองเจริญก้าวหน้าขึ้น คนดีก็หนีไปอยู่รู หรือไม่ท้อถอยจนหนีลาออกหมด
  • ขาดมาตรฐานการตรวจสอบผลงานวิชาการที่เที่ยงตรงและเที่ยงธรรม จะมีมาตรฐานใด ก็ควรมีเหมือนกันทั้งประเทศ
  • การคอรัปชันของคนขี้โกงเหล่านี้ จะเหมือนมอดปลวกที่คอยแทะเอาเงินหลวงไปใช้อย่างหน้าตาเฉย ระบบสอนเขาเอง
  • ฯลฯ (ช่วยคิดอีกนะครับ)

 

ทั้งหมดนี้เป็นความคิดส่วนตัวครับ ... อยากลองตั้งโจทย์และหาคำตอบด้วยสามัญสำนึกที่มีของตัวเองเท่านั้น ท่านไม่จำเป็นต้องมาเห็นด้วยกับผมทั้งหมด เพราะผมจริงใจพอที่อยากคิดอะไรก็เขียนอย่างนั้น ไม่โกหกตัวเอง และไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีคนดี ๆ แน่นอน ครับ

บุญรักษา คนดีทุกท่านครับ :)

 

 

.......................................................................................................................................

 

แหล่งอ้างอิง

มติชน.  "ครูขู่ฟ้องดีเอสไอฟันมือปืนรับจ้าง : เขียนผลงานวิทยฐานะ-ก.ค.ศ.ชี้ทำได้", มติชน, 31, 11255 (วันศุกร์ที่ 2 มกราคม 2552) : หน้า 23.

พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547.  http://www.moe.go.th/webld/pdf/A_9.pdf (2 มกราคม 2552).

 



ความเห็น (15)

เพราะที่นี่  คือ  ประเทศไทย  ฮ่า!

ใครจะเอาชีวิตไปเสี่ยง  ใครคุ้มครองได้

ตรวจเจอเหมือนกันทุกหน้า ทุกตัวอักษร  น่าจะเขียนว่า

"คัดลอก" แต่..เขาเขียนกันแค่ "ผลงานคล้ายคลึงกันกับนาย/

นาง..." เพราะครอบครัวยังอยากอยู่กันพร้อมหน้า

ผู้ทรงคุณวุฒินั่นแหละตัวสำคัญ  อย่าไปคาดหวังอะไรนัก

ว้าว ... สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ อนงค์ศิริ :)

ไหงแวะมาเยี่ยมบันทึกกันครับ ... สามัญสำนึกผมแรงไปหน่อยนะครับ ... อาจจะทำให้หลาย ๆ ท่านเจ็บช้ำน้ำใจได้

"ผลงานคล้ายคลึงกันกับนาย/นาง ................... "

ถือเป็นความรู้ใหม่ที่ผมได้รับครับ ... เหมือนผมตรวจงานนักศึกษาเลยครับ ผมเขียนไว้ แต่ไม่ให้สักคะแนน ... ไม่เหมือนผู้ใหญ่ ๆ เหล่านี้แน่ ๆ

"ผู้ทรง..." คล้าย ๆ "ร่างทรง..." หรือเปล่าครับ :)

ขอบคุณครับที่อาจารย์ให้ประสบการณ์ตรงและข้อเท็จจริง ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนไม่กล้าที่จะเขียนถึงเรื่องราวเหล่านี้ครับ

ขอให้การศึกษาไทยจงเจริญกว่าที่เป็นอยู่นะครับ

บุญรักษา ครับอาจารย์ :)

ร้อนแรงตั้งแต่ต้นปีงัวงัว..เลยนะคะอาจารย์

เรื่องนี้พูดกันยาวก็ไม่มีวันจบค่ะ

โดยส่วนตัวแล้วตอนนี้ยังไม่คิดเลื่อน วฐ.ให้สูงขึ้น

ขอมีความสุขอยู่กับงานสอนที่ทำให้เด็กเล็กๆของครู มีคุณธรรมที่ปฏิบัติได้ตามวุฒิภาวะอ่านออก เขียนได้ รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่เบียดบังเวลาราชการแค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ

อยู่แบบพอเพียง มีน้อยใช้น้อย ไม่ใช่หาให้มากแล้วก็ใช้มาก

มีความสุขอยู่กับการทำงานจริงๆ ไม่เครียด ไม่หงุดหงิด ไม่ต้องคอยเป็นกังวลต้องทำงานให้เสร็จทันส่งตรวจ ..โอ๊ย..อีกหลายๆอย่าง

ไม่ใช่มีผลงานไว้แค่รอให้ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจ เสร็จแล้วก็เลิกทำ

แต่ครูที่ทำด้วยตน มีความรู้ความสามารถจริงๆมีมากนะคะก็ขอชมเชยผลงานเค้าจริงๆ

สวัสดีครับ คุณครูจุฑารัตน์ NU 11 :)

แค่ลองตั้งคำถามจากข่าว แล้วคิดต่อยอดดูนะครับ :)

เรื่องนี้มีหลายมิติให้คิดครับ ... มีหลายอย่างให้เห็นจุดอ่อนจุดด้อย เพียงแต่ความต่อเนื่องในการดำเนินการตามกฎไม่มีอะไรเป็นเชิงประจักษ์มากนัก อาจจะเพราะการขยับนโยบายเป็นไปตามน้ำ

ท่าน รมต.คนใหม่ว่าอย่างไร ก็เดินตามไป ... เปลี่ยน รมต.ไปเรื่อย ๆ นโยบายก็เปลี่ยนตาม

ความสุขของครูผู้สอนอยู่ที่ความสำเร็จของลูกศิษย์

ครูสามารถสร้างลูกศิษย์ได้ความสำเร็จเป็นคนดีของสังคม ครูควรได้รับผลตอบแทน สูงกว่า ครูที่ขาดคุณธรรม จริยธรรม หิริโอตัปปะ ในการก้าวสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม

ความยุติธรรม อยู่ที่การตรวจสอบและประเมินที่ชัดเจน เรียกว่า มาตรฐานการตรวจสอบที่เท่าเทียมกัน ทุกผู้ทุกนาม

บันทึกนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับการบั่นทอนกำลังใจของ "ครูดี" ครับ

แต่เป็นบันทึกการแสดงความคิดเห็นการหาจุดดีจุดด้อย ณ ปัจจุบันกาล

ทุก ๆ คนเคยได้ยินการทุจริต คัดลอกผลงานวิชาการ แต่กลับจับไม่ได้ ไม่มีพยานหลักฐาน ดูจะขัดแย้งกับความเป็นจริงของสังคม

อยากให้กำลังใจครูดีอย่างคุณครูจุฑารัตน์ NU 11 ครับ :)

ร้อนแรง แต่ตรงเป้า ... น่ะครับ

ขอบคุณนะครับ :)

  • เอ้อ...
  • ก็รู้ๆกันอยู่
  • มีตัวเป็นๆให้เห็น
  • มีหลักฐานชัดแจ๋ว
  • อุ๊บ...ที่มันเงียบเพราะมีใครรองาบหัวคิวหรือเปล่าคะ
  • ก็เห็นอยู่ตำตาแต่ทำอะไรไม่ได้...กลัวเป็นไข้โป้งค่ะอาจารย์...
  • ไม่อยากพูดกับใครเรื่องนี้เพราะเคยถูกตอกกลับว่าใครๆเขาก็ทำกัน...
  • อ้าวกลายเป็นว่าเราคนเดียวที่ผิดปรกติ เศร้าค่ะ

"ระบบอุปถัมภ์และระบบการเอาตัวรอดเป็นยอดคน" ของผู้อยู่ตามเส้นทางนั้นครับ ... ทำลายวงการการศึกษาของชาติได้ฉกาจฉกรรจ์นัก ... พูดไป ผมก็ผิดปกติเหมือนกันครับ ... เศร้าด้วยคน :)

ขอบคุณครับ อาจารย์ naree suwan :)

ณ บัดนี้ ได้รับทราบว่าที่เคยกังขานะ มันมีมูล เออ อยู่ดีๆงานไม่ทำวิ่งไปหาผู้ทรง...ที่ปรึกษากันบ่อยๆ แป๊บเดียวมีงานเล่มโตมาถึอไปมา สร้างฉาก   ถ่ายๆๆๆ  แล้วก็ส่งมือโปรทำเดี๋ยวเดียว ส่งปุ๋ป อนุมัติแต่งตั้งปั๊บ รวดเร็วเหมือนจรวด  อย่างช้าก็ได้แก้ไข  เออ ความเสมอภาค ความถูกต้อง ความจริง ถูกพญาครุฑบินมาบดบังจนมืด มองไม่เห็น เหมือนจันทรุปราคาคืนนี้นะคะ  หลงน้อยใจแทนเพื่อนครูว่าถูกกล่าวหา โถ...เรื่องจริงก็ไม่บอก

คุณ krutoi เขียนเรื่องราวได้น่ารักมากครับ ... มีตลก ๆ ด้วย ... เรื่องจริงที่คนไม่ดีมีทุกวงการ คนเอาตัวรอดมีทุกวงการ ... ช่างเป็นตลกร้ายจริง ๆ นะครับ

ขอบคุณมากครับ :)

แวะมายัน วันนี้เกือบสองชั่วโมงที่อยู๋กับคำว่าเสือ ถึง 2 นักเขียน

เม้นท์นี้ไม่ร้องเฮ้ยแล้ว เพราะโดนลูกยอ เห็นไม๊อ. เสือ

เห็นๆกันอยู๋หลัดๆนะ เมื่อครูต้อยเม้นท์ไว้คราวก่อน และกลับมาเยี่ยม อ.เสือด้วยความเป็นห่วงไฟในตัวของอ.มันจะร้อนเกินจนอ.เสือเองจะรับได้ อิอิ

เจออีกกรณ๊หนึ่งเรื่องขำ อีกคนหนึ่งฝึกหัดให้ครูเก่งเรื่องเกี่ยวกับคอม จนครูสามารถทำไอ้หนังสืออีเล็ตโทนิคส์(เขียนถูกหรือเปล่าไม่รู ขี้เยจเปิดพจนานุกรมดู เอ๊ะ.. เปิดเน็ตดูก็ได้นี่ แต่ขี้เกียจ เดี๋ยวอารมณ์เม้นท์ไม่ต่อเนื่อง 55+)

แล้วก็มาทำเป็นคู๋มือเป็นเล่มๆ หนะ ครูต้อยยังได้มา 1 เล่มเลย ไปขอคนที่เขาไปอบรมมา เอามาถ่ายเอกสาร ก็ถ่ายเก็บไว้ก่อน ว่างปิดเทอมเมื่อไหร่ จะเปิดเรียน   ผลปรากฎว่าส่งผลงานไอ้ที่บากบั่นทำมาเช้าค่ำ นี่แหละ ไอ้ที่ลงไปสอน ไปเปิดอบรมครูให้เก่งคอม และวก็จักกิจกรรมแข่งขันความสามารถทางคอมฯ (น่าจะให้ครูที่อบรมแข่งกันบ้าง)เอ้า เขียนผลไปแล้ว ยังไม่ปรากฏผลอีกหรือนี่

นี่แหละหนาคนแก่..หลงเก่ง เป็นที่หนึ่งเลย  สรุปดีกว่า สรุปว่าไม่ผ่าน...แงๆๆ...................ในขณะที่อีกรายหนึ่งงานที่เดียวกัน แต่รับผิดชอบคนละเรื่องรายนี้ มีกล้องถ่ายภาพ ตระเวณเก็บงานตามโรงเรียน เขียนไปเขียนมา ทำคู่มือให้ครูใช้เฉยเลย ผลปรากฏว่า ผ่าน

มันน่าขันก็ไอ้ตรงที่ครูที่ลงมือทำจริงน๊ะ ก็ทำส่ง แต่ไม่ผ่าน กริ้วววววว

นี่แหละเค้าเรียนว่า วาสนา คือคนมันเคยต่างกัน ใช่อะปล่าวว กริ๊ก ๆๆ

ขอบคุณค่ะ

เอ๊ยยย..ครูต้อยพิมพ์ผิดบานเลย...อย่างนี้ส่งผลงานมีหวังไม่ผ่านแน่ๆเลย อ.เสือก็แกล้งๆอ่านแบบว่าเขียนถูกไปก็แล้วกันนะคะ  อิอิ

ผมแกล้งอ่านว่า ถูกต้องครับ :) คุณ krutoi

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-book ... กับ ... อัลบั้มภาพ

แล้วตกลงนี่อะไรคือ หลักเกณฑ์ในการประเมินผลเหรอครับ

ผมควรเบื่อวิธีการนี้ของประเทศไทยหรือยังครับเนี่ย :(

เป็นกำลังใจให้ครู และอาจารย์ ที่ดีๆ ที่มีจรรยาบรรณนะครับ ^^

ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์ตี๋ ครูgisชนบท ;)...

ส่งวิทยฐานะที่ทำเอง ทุกกระบวนการ ใช้เวลาเป็นปี สองปี นำไปใช้กับนักเรียนจริง และ 4 เดือนสุดท้าย ใช้เวลาแต่ละวัน มากกว่า 5  ชั่วโมง ในการนั่งทำ ปรับปรุงนวัตกรรรมให้ดีขึ้น  และทำรายงานการใช้นวัตกรรม  กิจกรรมในแผน ทำเอง  สร้างเอง คิดเอง แต่งเพลงเอง  ถามว่า เมื่อส่งจริงๆ มันสมบูรณ์ไหม ก็ไม่ได้สมบูรณ์มาก หมายความว่า อาจจะมีคำถูก คำผิดบ้าง แต่คงน้อยมาก เพราะตรวจสอบแล้ว ตรวจสอบอีก และตรงนี้ กรรมการคงไม่นำมาเป็นสาระเท่าไร  รอเขต ประกาศ 9 เดือน ผลปรากฏว่า ได้ ปรับปรุง ในเขตเดียวกัน มีอยู่ 6 คนที่ได้ปรับปรุง  นอกนั้น ผ่าน คนที่เราเคยเห็นผลงานของเขา หลายๆ คน ไม่ดีเลย ก็ผ่าน  เพราะอะไรคะ  เพราะพวกเราไม่ได้เสียเงิน หกหมื่น ให้ผู้มีอำนวจ ในเขต สพม. หนึ่งในเขตอีสานใต้ นั้ นทุกคนที่ส่งต้องเสียเงิน มาตรฐานอยู่ที่ หกหมื่น มารู้ทีหลังว่า "คนที่ผ่าน ไม่มีใครที่ไม่เสียเงิน" แต่ถ้างานน่าเกลียดมาก ก็เสียมากกว่านั้น  ดิฉันโทรคุยกัน ระหว่างคนที่ได้ปรับปรุงด้วยกัน  ทราบว่า เพื่อนๆที่ส่งพร้อมกัน เขาชวนกันเอาเงินไปจ่ายผู้มีอำนาจ แต่ละคนที่ได้ปรับปรุงนั้น ไม่ไป เพราะมั่นใจงานของตัวเอง ซึ่ง 5 ใน 6  คน ที่ได้ปรับปรุงนั้น ล้วนแล้วแต่เป็น Master  teacher  จึงมีความมั่นใจ แต่เมื่อผลออกมา Master teacher  ทั้งหลาย ต่างยอมรับว่า ในยุคปัจจุบัน เป็นยุคที่เงินต้องมาก่อน  และก็ใช้สมองที่มีอยู่พิจารณาต่อไปว่า "อ๋อ...วิทยฐานะ เขาให้เกิดมีขึ้นเพื่อช่วยครู กับ คนที่มีอำนวจเท่านั้นเอง" ไม่ได้ให้มีขึ้นเพื่อพัฒนานักเรียนอย่างแท้จริง  แต่เมื่อมองอนาคตประเทศไทย อนาคตลูกหลานแล้ว ก็น่าเป็นห่วง เพราะประเทศไทยจะเสียงบประมาณตรงนี้มากมาย มาจ่ายให้คนที่ส่งวิทยฐานะ เพราะคนที่ส่งเขายอมจ่ายกรรมการอยู่แล้ว  ถึงจ่ายเป็นแสนเขาก็คุ้ม เพราะไม่ต้องทำอะไรเลย ก็มีเงินเดือนเพิ่มเข้ามา แต่ถามว่า ใครเสีย  อยากให้ครูคิดใหม่จัง จะให้สิ้นชาติก่อนหรืออย่างไร จึงจะคิดได้  อยากให้ สพฐ. ตั้งหน่วยงานขึ้นมาหน่วยหนึ่งคอยตรวจสอบ ผลงานวิทยฐานะของครูที่ส่งผลงาน  ผลงานที่เขตให้ตก ต้องส่งไปให้หน่วยงานนี้ตรวจสอบ รวมทั้งสุ่มผลงานของคนที่ผ่าน ให้หน่วยงานนี้ตรวจสอบ  หน่วยงานนี้เป็นที่รวมของผลงาน คนที่สงสัยว่าผลงานตนเองถูกคัดลอกไหม ก็สามารถตรวจสอบได้ในหน่วยงานนี้  รัฐก็ได้ไม่ต้องจ่ายเงินไปมากกับวิทยฐานะที่จะต้องจ่ายครู และสังคมคงจะยุติธรรมมมากขึ้น  กรรมการ หรือ อ.ก.ค.ศ.  จะได้หลุดออกจากขุมนรกใหญ่ที่กำลังรออยู่

ขอให้กำลังคุณ ครูภาษาไทย  ครับ

คนทำเลว ย่อมได้เลว เสมอ

เป็นสัจธรรม ... อย่าไปมองว่า ดีเนื่องจากได้เงินเพิ่มขึ้น

นั่นไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์ครับ

ทำดีครับ ไม่ต้องสนใจใคร

แต่ทำชั่ว ใจเราจะสกปรกตาม ;)...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท