หน้าแรก
สมาชิก
วาทิน ศานติ์ สันติ
สมุด
อารยธรรม ประวัติศ...
การปฏิวัติรัสเซีย...
วาทิน ศานติ์ สันติ
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การปฏิวัติรัสเซีย ภาคสรุป
การปฏิวัติรัสเซีย
รัสเซียในตอนต้นของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 กำลังเข้าสู่ยุคของการขยายตัวของอุตสาหกรรม ประชาชนเปลี่ยนอาชีพจากเกษตรกรรมมาเป็นกรรมกร กรรมกรเหล่านี้เริ่มมีแนวคิดโน้มเอียงเข้าหาแนวทางสังคมนิยม ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ
ในปี ค.ศ.1898 ได้มีการก่อตั้งพรรคสังคมประชาธิปไตย
(Russin Social Democatic Party)
โดยมีนโยบายล้มล้างการปกครองในระบบเก่า
(Ancient Regime)
กรรมกรนัดหยุดงาน เกิดความวุ่นวายทั่วประเทศ รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้ จึงก่อให้เกิดการปฏิวัติรัสเซียขึ้นในปี
ค.ศ.1917
สาเหตุของการปฏิวัติ ก.พ.(มี.ค.) ค.ศ.1917
1.
ความไม่พอใจในระบบการปกครองที่ไร้ประสิทธิภาพของราชวงศ์โรมานอฟ ของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
-
ผลสืบเนื่องมาจากสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ในปี ค.ศ.1904-1905 ทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียตกต่ำ ประกอบกับรัสเซียแพ้สงคราม มีผลตามมาคือ พระชื่อ กาปอน ได้นำฝูงชนเข้ามาเรียกร้องในพระราชวังเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก
เรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง เรียกร้องรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายลดชั่วโมงการทำงาน และแก้ไขความทุกข์ยากของราษฎร แต่ทหารรักษาพระราชวังได้ยิงปืนเข้าใส่ฝูงชน เกิดการล้มตายเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ในวันนั้นรู้จักกันนาม
Bloody Sunday
-
ประชาชนเรียกร้อง
ให้มี
การจัดตั้งรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญขึ้นปกครองประเทศ รัฐบาลยังต้องเผชิญปัญหาจากความไม่พอใจของกลุ่มชาวนาและกรรมกรที่ต้องแบกภาระภาษีของประเทศไว้
K
. นิโคลัสที่ 2 ได้ประทานรัฐธรรมนูญให้ประชาชน และจัดตั้งสภาดูมา
(DUMA)
ขึ้นมาเพื่อเป็นปากเสียงของประชาชน แต่พระองค์เป็นกษัตริย์กึ่งรัฐธรรมนูญ ทำให้ประชาชนไม่พอใจใน
K.
นิโคลัสที่ 2
2.
เป็นผลสืบเนื่องมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างไม่ดี ทำให้เกิดแนวคิดสังคมนิยมและลัทธิคอมมูนิสต์
3.
K.
นิโคลัสที่ 2 เกิดความขัดแย้งกับสภาดูมา จึงยุบสภาและแต่งตั้งตนเองเข้าไปแทน
4.
เกิดปัญหาภายในราชสำนัก
K.
ซาร์นิโคลัสที่ 2 ไร้ความสามารถในการปกครอง เมื่อทรงไปบัญชาการบในส่วนแนวหน้า อำนาจการปกครองส่วนใหญ่จึงตกอยู่กับซารีนาอเล็กซาดรา ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลการครอบงำของรัชปูติน ทำให้เกิดการวิภาควิจารณ์จนราชสำนักเสียหายมาก
5.
การที่รัสเซียเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ทั้งที่ไม่มีความพร้อม รบไม่เป็น ขาดแคลนอาวุธ กล่าวคือทหารรัสเซียมีจำนวนมากแต่ก็เสียชีวิตมาก และผลจากสงครามทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียตกต่ำ
สาเหตุปัจจุบัน
ในวันที่ 23 ก.พ. ค.ศ.1917(ปฏิทินเก่ารัสเซีย) ประชาชนยืนรอเข้าแถวซื้ออาหารในกรุงเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก ซึ่งไปตรงกับกลุ่มสตรีที่ได้นัดหยุดงานเดินขบวนประท้วงบนท้องถนน
ขบวนประท้วงได้เกิดการปะทะกับกลุ่มคนที่รอซื้ออาหาร
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้ลุกลามกลายเป็นจลาจลระบาดไปทั่วกรุงเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก จนกลายเป็นการปฏิวัติในที่สุด เหตุการณ์ประทะกันโดยบังเอิญนั้นได้กลายเป็นวันสตรีสากล(
International Wonen’s Day)
ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มีนาคม ตามปฏิทินตะวันตก
ผลของการปฏิวัติ
การล้มล้างราชวงศ์โรมานอฟ ซึ่งปกครองรัสเซียมานานกว่า 300 ปีต้องจบลง มีรัฐบาลชั่วคราวขึ้นมาปกครองแทนโดยเจ้าชายลวอฟภายใต้การนำของสภาดูมา ต่อมาภายหลังเจ้าชายลวอฟลาออกจากการเป็นหัวหน้ารัฐบาล เคอเรนสกี้เข้ามาเป็นหัวหน้ารัฐบาลชั่วคราวแทน แต่รัฐบาลภายของเคอเรนสกี้ก็ยังไม่ถอนรัสเซียออกจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะได้รับการสนับสนุนจากอังกฤษและฝรั่งเศส อีกทั้งสหรัฐอเมริกายังขู่ว่าจะไม่ให้กู้เงิน
สาเหตุการปฏิวัติรัสเซีย ต.ค.(พ.ย.) ค.ศ.1917
1.
ชนกลุ่มน้อยต้องการสิทธิในการการเมืองการปกครอง
2.
รัสเซียยังคงเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนเบื่อหน่ายสงคราม
3.
เกิดความขัดแย้งของรัฐบาลชั่วคราวกับทหาร ทำให้รัฐบาลชั่วคราวอ่อนแอ เป็นเหตุให้พวกบอลเชวิคทำการทำการปฏิวัติในเดือน ต.ค.(พ.ย.) ค.ศ.1917
โดยมีเลนินที่เดินทางมาจากฟินแลนด์เข้ามาเพื่อเป็นผู้นำการปฏิวัติ โดยมอบหน้าทางการทหารให้กับทรอสกี้ ซึ่งผลก็คือฝ่ายบอลเชวิคเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ
การปฏิวัติ
ในระหว่างคืนวันที่ 6 พ.ย. ค.ศ.1917 (ตามปฏิทินแบบสากล) พรรคบอลเชวิคได้ทำการยึดอำนาจในกรุงเปรโตกราดโดยการยึดสถานที่สำคัญของประเทศ
ให้เรือรบระดมยิงใส่พระราชวังฤดูหนาว จนรัฐบาลเคเรนสกี้ไม่สามารถหยุดยั้งได้ ต่อมาตอนสายของวันที่ 7 พ.ย. ค.ศ.1917 เลนินจึงจัดการประชุมสภาโซเวียของประชาชนชาวรัสเซียทั้งมวลว่ารัฐบาลชั่วคราวได้ล้มสลายแล้วและเปลี่ยนชื่อเป็นสภาผู้ตรวจการของประชาชนให้มีอำนาจในการปริหารประเทศ นิโคลาย เลนินดำรงตำแหน่งประทานสภาผู้ตรวจการของประชาชน
ผลของการปฏิวัติ
1.
พรรคบอลเชวิคเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคคอมมูนิสต์
รัสเซียเป็นประเทศแรกที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์
2.
เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐบาลคอมมูนิสต์กับพวกรัสเซียขาว
(White Russians)
ประกอบด้วยพวกนิยมกษัตริย์ พวกนิยมเสรี
ที่ต้องการให้รัสเซียมีการปกครองในระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่พวกรัสเซียขาวไม่สามารถรวมตัวกันได้ จึงทำให้รัฐบาลคอมมูนิสต์ยังคงอำนาจไว้
3.
กรรมกรได้รับอนุญาตให้เข้าควบคุมโรงงาน
4.
ทรัพย์สินของวัดและของพวกต่อต้านรัฐบาลถูกยึดเข้ารัฐบาล
5.
ทำสนธิสัญญาสงบศึกกับเยรมนี เบรสท์-ลิทอป
(Ttreaty Of
Brest-Litovsk)
-
ฟินแลนด์ แอสโทเนีย ลัทเวีย ลิธัวเนีย โปแลนด์
และยูเครนเป็นเอกราช
-
ฮาร์ดาฮาน บาทัม คาร์ส
ดินแดน 3 แห่งบริเวณคอเคซัสต้องยกให้ตุรกี
-
เมื่อเสียอาณานิคมมาก รัสเซียจึงเสียประชาการ 1 ใน 4 เสียดินแดนในยุโรป 1ใน 4 เสียเหมืองแร่เหล็กและถ่ายหินที่พัฒนาแล้ว 3 ใน 4
-
พรรคคอมมูนิสต์มีความเห็นว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นการต่อสู่ระหว่างนายทุนด้วยกันเอง แต่ก็ได้ส่งผลให้ชาวรัสเซียทนทุกข์ทรมานจากการบาดเจ็บล้มตายเป็นเวลานานถึง 4 ปี ชาวรัสเซียต้องการสันติภาพ
-
ต่อมา 25 ปี รัสเซียได้ดินแดนที่เสียไปคืนมาทั้งหมด ยกเว้นฟินแลนด์
6.
ระบบคอมมิวนิสต์ได้แพร่กระจายออกไปทั่วโลก จนทำให้เกิดลัทธิต่อต้านคือ ฟาสซิสต์ และนาซี
วาทิน ศานติ์ สันติ เรียบเรียง
เขียนใน
GotoKnow
โดย
วาทิน ศานติ์ สันติ
ใน
อารยธรรม ประวัติศาสตร์และโบราณคดี
คำสำคัญ (Tags):
#international wonen’s day
#กรุงเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก
#พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
#ราชวงศ์โรมานอฟ
#สภาดูมา
หมายเลขบันทึก: 247780
เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2009 19:27 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน 2013 07:47 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
วาทิน ศานติ์ สันติ
สมุด
อารยธรรม ประวัติศ...
การปฏิวัติรัสเซีย...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท