หลายวันมานี้ผมต่อสู้กับความรู้สึกตนเองอย่างมากกับเรื่องที่ขัดแย้งในความรู้สึกของผม จรดมือลงบนคีย์บอร์ดหลายต่อหลายครั้ง สุดท้ายก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเขียนข้อมูลและความรู้สึกของตนเอง
อย่างไรก็ตามวันนี้ขอเขียนซะหน่อยครับ
ความรู้สึกแรกคืออยากเขียนความรู้สึกสะท้อนใจกับข้อมูลการบริหารจัดการงบประมาณขององค์การบริหารการปกครองท้องถิ่นแห่งหนึ่งที่มีการใช้จ่ายงบประมาณภาษีของชาวบ้านแบบที่คนอย่างเรา ๆ รับฟังแล้วต้องบอกว่าเกิดความรู้สึก "อกหัก" สะอึกกับการใช้งบประมาณแผ่นดิน
เริ่มจากเรื่องที่ 1 เค้าทำโครงการจ้างวงดนตรีลูกทุ่งวงหนึ่ง(200,000 บาท)มาแสดงแล้วเก็บค่าขายของ ขายเหล้า เบียร์ตลอดจนอบายมุขที่มอมเมาเยาวชน เงินที่เก็บได้ไม่แน่ใจได้ว่าเอาไปทำอะไร แต่ไม่ได้เอาเข้าคลังแน่นอนครับ
เรื่องที่ 2 คือการจ้างวงดนตรีแจ๊ส...(500,000 บาท)มาเล่นในบริเวณตลาดสดแล้วขายเหล้า ขายเบียร์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและวัยรุ่นทุกวันพฤหัส(อาทิตย์เว้นอาทิตย์)ในความคิดผมวงแจ๊สเนี่ย..หูแบบเรา ๆชาวบ้านนอกเนี่ยมันเข้าไม่ถึงจริง ๆชาวบ้านก็บ่น...ว่าเอามาทำไมเนี่ย??
เรื่องที่ 3 กลางเดือนนี้กลุ่มพนักงานและนักการเมืองท้องถิ่น 24 คน จะเดินทางไปศึกษาดูงาน(เที่ยวน่ะแหละ)ที่มณฑลเสิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน งบประมาณที่ใช้ต้องหลักล้านครับผม (ผมทำงานมา 20 ปี ยังไม่มีโอกาสหรือมีกรมกองใดให้งบประมาณเดินทางไปต่างประเทศเลยเนี่ย....ทั้ง ๆที่งานรับผิดชอบทั้งอำเภอ...)
อีกความรู้สึกหนึ่งของผมคืออีกไม่กี่วันผมเองต้องบากหน้าไปขอความช่วยเหลือทางด้านงบประมาณจากองค์การแห่งนี้เพื่อมาพัฒนางานที่ทำอยู่ หากเราเขียนหรือใส่ความรู้สึกตรงนี้ไป รู้สึกไม่ดีเลย ... มันขัดแย้งในใจผมตลอดเวลาเลยนะ...ถึงแม้บางครั้งพยายามติดตามอารมณ์ ความรู้สึกตนเองว่าเราคิดเอง เราไปยุ่งเรื่องคนอื่น ปล่อยวาง ทำใจ แต่พอได้ยินเสียงเพลงแจ๊สข้างที่ทำงานลอยมาทีไรนึกถึงเรื่องนี้ทุกที....เฮ้อเรา.....
สุดท้ายก็แพ้ความรู้สึกที่อยากแบ่งปัน อยากให้คนอื่นทราบว่า "วิถีการบริหารจัดการเงินของชุมชนด้วยชุมชน" เนี่ย..ผลที่ออกมามันไม่เหมือนที่วาด ที่ฝันเอาไว้ของผู้บริหารประเทศเลยครับผม !!!!
สวัสดีครับ
เป็นกำลังใจ
การแสดงออกเป็นเรื่องราวที่สามารถกระทำได้ครับ
เพราะนั่นคือตัวเรา สภาวะเราณ ตอนนั้น
เมื่อกาล ผ่านเรา เราจะสัมผัสได้เองถึงความจริงที่เกิดขึ้นครับ
เรื่องนี้บอกว่าเป็นกรรมของหมู่คนครับ กรรมของชุมชน
แต่เรื่องดีๆคงกำลังเกิดขึ้นนะครับ
สู้ต่อไปครับ
ครับเป็นกรรมของระบบด้วย กรรมของผู้กระทำ เผื่อไปยังสังคม เรียกว่า "ทุกขภาวะ"
สังคมติดเชื้อ ที่จำเป็นต้องใช้ "ปัญญา" ในการบำบัด กล่อมเกลาแต่ว่ากระบวนการสร้างปัญญานั้นมันยากยิ่งนะครับ ต้องใช้ทั้งเวลาและการออกแบบสังคมผ่านการศึกษา
กรณีนี้ กระบวนการแก้ไขฉุกเฉินก็คือ สร้างความเข้มแข็งของชุมชนโดยการระดมพลังทางสังคมระดับชุมชน เพื่อเปิดพื้นที่สำหรับคนดี มีความสามารถมากขึ้น
--------------------------------------
ให้กำลังใจนะครับพี่รอน ให้ทำงานอย่างมีความสุขและมีความหวัง
ท่านสุพัฒน์
เป็นห่วงอยู่นะ
เช็ครถดี ๆก่อนออกเดินทางนะครับ
....................................
ครับเรื่องที่ผมเขียน..เป็นกรรมจริง ๆครับ
จะทำอย่างไรดี....ในเมื่อกลุ่มชนส่วนใหย่เขาว่าดี??..เขาเลือกเอง
เราได้แต่มาสะท้อนเท่านั้นครับผม...
เอก
เราหาเวลามาหารือกันสักวันดีไหม
เอาคนแบบกลาง ๆมาคุยกัน...จะได้ไม่ถูกว่าอคติ
แล้วหาทางเปิดเวทีสักวันนะ!
สวัสดีครับ
ผมอึดอัดใจมากครับ เหตุการนี้ไม่ใช่มีที่นี่ที่เดียวนะครับ มันเป็นไปเกือบทั่วประเทศ
การบริหารจัดการ ตอบสนองอะไรเท่านั้นที่เราจะต้องคุยกัน
เราควรจะช่วยกันประกาศให้ความรู้กับชุมชน ให้การศึกษาให้มาก
วิ่งสวนทางขึ้นไปครับ
ขออนุญาตนำไปรวมใน รวมตะกอน นะครับ ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับคุณสิทธิรักษ์
ความอึดอัดที่บางครั้งเราทำอะไรไม่ได้...จับต้องไม่ได้
ก็คงต้องพยายามทำอย่างที่ท่านแนะนำครับ....การศึกษา???
บางครั้งในความคิดของผม...การมีการศึกษา(สูง)ก็ใช่ว่าจะเป็นที่คิดดี ทำดีเสมอไปครับ
การศึกษาต้องคู่คุณธรรมและสามัญสำนึกครับ