เด็กมันยั่ว...จึงหลวมตัวให้เกิด "อารมณ์"


เมื่อมีคนตีกลองเสียงดังระรั่ว...ใยเล่าผู้มีสติปัญญาทั้งหลาย...จึงต้องกระโดดโลดเต้นไปตามจังหวะเสียงดังระรัวแห่งกลองนั้น

ดิฉันเชื่อว่าทุกท่านคงเคยถูกใครสักคนหรือหลาย ๆ คน ใครคนนั้นอาจเป็นพี่ น้อง เพื่อน หรือคนที่คุณรู้จัก ทั้งที่สนิทสนมมากไปจนกระทั่งเพิ่งรู้จักคบหากัน เข้ามายั่วยุทางอารมณ์จนทำให้คุณรู้สึกรู้สึกหงุดหงิด ฉุนเฉียว ไม่พอใจ บางคนแทบจะระงับความโกรธของตนไว้ไม่ไหว นึกอยากจะเข้าไปบีบคอหรือกระโดดถีบฝ่ายตรงข้ามให้สาสมกับความโกรธแค้น บางคนเลือกใช้วิธีการตอบโต้กลับด้วยการพูดให้อีกฝ่ายเจ็บ ๆ คัน แต่สำหรับบางคนระดับโกรธแค้นมีมาก ถึงขนาดต้องใช้อาวุธประหัดประหารให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

   

การยั่วยุทางอารมณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก และอาจพัฒนาระดับความรุนแรงมาจนถึงวัยผู้ใหญ่ เอสเตอร์ (Astor, 1994) พบว่าเด็กในช่วงวัยเรียน มักแสดงความก้าวร้าวจากการยั่วยุทางอารมณ์ของอีกฝ่าย และความก้าวร้าวนั้นอาจพัฒนารูปแบบความรุนแรงขึ้นในวัยผู้ใหญ่ หากเพียงเราตกอยู่ใต้อำนาจหรือปล่อยให้อารมณ์เหล่านั้นมีอิทธิพลเหนือกว่า เมื่อนั้นมันจะเข้าโจมตีบ่อนทำลายความสมดุลของสภาวะทางร่างกาย และทางจิตใจให้เกิดความแปรปรวนไปชั่วขณะ สำหรับระยะเวลาในการโจมตีของเจ้าอารมณ์โกรธ เกลียด โมโห จะนานหรือสั้นนั้น ขึ้นอยูกับกลยุทธ์ในการรับมือหรือกลวิธีในการควบคุมอารมณ์แห่งตนของแต่ละบุคคล แต่ละคนใช้วิธีการที่แตกต่างกัน บางคนหนีไปจากสถานการณ์นั้น...

ทุกครั้งที่เราถูกยั่วยุทางอารมณ์...วิธีการหนึ่งที่อาจช่วยให้เราทุเลาหรือลดความรู้สึกโกรธ โมโห หรือไม่พอใจ...เพียงแต่ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าการเจริญเติบโตของคนแต่ละคนนั้น อยู่ภายใต้อิทธิพลของปัจจัยด้านพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม (การอบรมเลี้ยงดู) อันเป็นเหตุให้แต่ละคนมีลักษณะนิสัย หรือความวิกลวิกาลบางอย่างแตกต่างกัน...เมื่อเรารู้ธรรมชาติของมนุษย์แล้ว...ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่เราจะไปเต้นตามจังหวะเสียงแห่งการยั่วยุทางอารมณ์ของอีกฝ่าย...เพราะอารมณ์โกรธ เกลียด และโมโห เป็นเพียงการต่อรู้กันระหว่างความรู้สึกภายในกับความมีสติแห่งตน หากเพียงเราปล่อยให้อารมณ์เหล่านั้นมีอิทธิพลเหนือกว่าสติแห่งตนเมื่อไหร...คนที่พลาดพรั้งเจ็บตัวเจ็บใจก็คือเรา...แล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่า...ที่จะปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอารมณ์จากการยั่วยุเหล่านั้น เมื่อมีคนตีกลองเสียงดังระรัว...ใยเล่าผู้มีสติปัญญาทั้งหลาย...จึงต้องกระโดดโลดเต้นไปตามจังหวะเสียงดังระรัวแห่งกลองนั้น

ชีวิตแห่งความสุขของคนเรานั้นสั้นนัก...เราจึงควรยิ้มรับสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งหลาย...โดยไม่ปล่อยให้อารมณ์มัวหมองบั่นทอนชีวิตที่เหลือเพียงน้อยนิด...ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขในทุกขณะจิต เท่านี้ความสุขก็เป็นของเรา...เพราะเรารู้เท่าทันธรรมชาติของสรรพสิ่งว่า...มันเป็นเช่นนี้เอง

หมายเลขบันทึก: 293016เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2009 15:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (37)

สมกับที่เรียน Psychology มาเลยนะคะ

การตั้งหัวข้อให้เกิดการสนใจอยากรู้อยากเห็น

อย่างแนบเนียนทางอารมณ์ ยกนิ้วให้นะคะ :))

  • ไม่กล้าหวิบเลยนี่
  • เจอท่าฉัดต้นมะพร้าวไป
  • ฮาโตย ...

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิดดีๆที่ทุกคนควรใส่ใจ..คุณพ่อให้ตำหรับยา "หมอเฉย..หมอยิ้ม" เพื่อสยบโรคถูกยั่วยุค่ะ...ทุกวันนี้ใช้อยู่ทุกวันค่ะ...

สวัสดีค่ะ...ขอบคุณ...คุณ "สาวิตรี" มากค่ะ...

สวัสดี ครับ คุณ P

ถูกใจ หัวเรื่อง และบทสรุปมากครับ
เมื่อมีคนตีกลองเสียงดังระรั่ว...ใยเล่าผู้มีสติปัญญาทั้งหลาย...จึงต้องกระโดดโลดเต้นไปตามจังหวะเสียงดังระรัวแห่งกลองนั้น
ขอบคุณ ครับ

ฮาโตย...โดยเข้าไปตรงไหนค่ะ...คุณ "ขจิต"

ฉัดไม่แรงนิ...ฉัดหนอย ๆ จุกหน้าเขียวเลย...หรือเขียวเพราะสีผิว อิๆๆ

ขอบคุณมากค่ะ...อย่าทำให้หวิบนะ...เดียวโดนฉัด!!

  • เยื่ออารมณ์ อันตรายมาก
  • ต้องใช้วิธีนั่งแบบสบายๆ

Img_4991

  • อาจารย์ครับ
  • พี่ paew มาแจ้งไว้
  • ไปเมื่อไรแจ้งด้วยครับ
  • ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
  • P
    36. paew
    เมื่อ ส. 29 ส.ค. 2552 @ 18:55
    1515258 [ลบ] [แจ้งลบ]

    สวัสดีค่ะ

    เฉลยแล้วนะคะ ........ว่า

    "เครื่องไล่ยุงแบบพกพา" ...ค่ะ แต่ไม่ทราบว่าใช้หลักการอะไรในการไล่ค่ะ แต่แน่ๆมีใช้แบตเตอรี่ เพราะมีแสงแดงวาบๆ ด้วยค่ะ ถ้าเดากึ่งวิเคราะห์ น่าจะเป็นใช้ระบบคลื่นเสียงความถี่ที่ไล่แมลง แต่มนุษย์ไม่ได้ยิน เพราะถ้าใช้กลิ่น ก็ไม่ได้กลิ่น และอาจทำให้ผู้ใช้มีปัญหาก็ได้หากเป็นกลิ่นที่ไม่ชอบ

    ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีขาย ในบ้านเราด้วยเน๊าะ เพราะน่าจะปลอดภัยกว่ายากันยุงแบบที่เป็นควันไล่ยุงเพราะเหม็นมาก 

    คนที่ทายถูก มีหลายท่านค่ะ แต่ที่ถูกคนแรก คือ อ.ขจิต ฉะนั้น รางวัล ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผาเป็นของ อ.ขจิต ค่ะ แต่ต้องมาทานที่ขอนแก่น และต้องมี อาจารย์Vij  มาด้วยนะคะ..... :)

แค่เห็นชื่อบันทึกก็อยากเข้ามาอ่านแล้วค่ะ

ไม่ผิดหวังเลย สาระน่ารู้ดีค่ะ

ขอบคุณ...คุณ "ศุภรักษ์ ศุภเอม" มากค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

ดีจังเลยค่ะ...คุณพี่นงนาท "หมอเฉย กับหมอยิ้ม" สามารถสยบโรคนี้ได้จริง ๆ ค่ะ เคยลองมาแล้วค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ

ฝนตกไปไหนไม่ได้อยู่แต่ในเพิงพักเพราะโดยสายฝนยั่วยุทางอารมณ์

เลยเข้ามาเจอ..เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวให้เกิดอารมณ์..

การถูกยั่วยทางอารามณ์เป็นบทเรียนแห่งวิชาชีวิตแขนงหนึ่งบางครั้งถ้าไม่ยั้งคิดปล่อยจิตไปตามอารมณ์มีหวังตายกันไปข้างหนึ่ง(หรือทั้งสองข้างก็ไม่แน่)

ดังนั้นเราต้องนำเอาแบบอย่างจากธรรมชาติมาใช้อากาศร้อนอบอ้าวมากบางวันแต่มันคงทนได้ไม่นานต้องปรับหาสมดุลแปรเปลี่ยนมาเป็นฝน

เฉกเช่นกับคนเราถ้ารู้จักแปรเปลี่ยนสิ่งที่มากระทบว่าจะให้เป็นแบบไหน..ถ้าแปรเปลี่ยนถูกวิธีสิ่งดีๆก็ตามมา

แต่โดยมากจะแปรเปลี่ยนมันไปในด้านลบเสียมากกว่า..

สาธุกับบันทึกที่ดีๆขอรับอาจารย์..

เด็กยั่วให้ดุมั่ง..ให้หัวเราะมั่ง..วันๆหลายอารมร์น่ะ..เป็นครูนิ...55555สมน้ำหน้านิอยากเป็นครู..ไม่โดนเด็กยั่วใครจะยั่วนิ...

ขอบคุณมากค่ะ...คุณ "แสงแห่งความดี" ทักทายแลกเปลี่ยนนะคะ

เด็กมันยั่ว ช่างเถอะ ! อย่าเผลอไปยั่วเด็กล่ะ...อิอิ..ล้อเล่นนะ

                  ภาพเคลื่อนไหว

สวัสดีค่ะท่าน "ผอ.ประจักษ์" เยื่ออารมณ์ร้ายมากค่ะท่าน...ต้องปิดหู ปิดตา ปิดปาก แล้วก็จะได้นั่งอย่างสบาย ขอบพระคุณมากค่ะ...ดูแลสุขภาพนะคะ

คุณ "ขจิต" ขาาาาา...หากไปเมื่อไหรจะรีบรายงานให้ทราบเลยเจ้าค่ะ

เพราะความฉลาดแกมโกงแท้ ๆ ถึงได้ิกิน ทั้งส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา แถมด้วยสเต็กกบ แซบนัวเจ้าค่ะ...

ขอบคุณค่ะที่แจ้งให้ทราบ...ชอบคุ่ะ "อร่อยจัง...ตังค์อยู่ครบ" แถมยังอิ่มท้อง...ตอนนี้ก็เที่ยวตระเวณตอบคำถามตามบล็อก...ล่ารางวัลค่ะ...กะว่าเดือนหน้าทั้งเดือนจะตระเวณกินอย่างเดียว...ประหยัดค่าใช้จ่ายครัวเรือนเจ้าค่ะ

----------------

ขอบคุณมากค้าาาา

นมัสการค่ะ...หลวงพี่

ส่วนมากมนุษย์จะตกอยู่ในหลุมอารมณ์ค่ะ...เพราะความขาดสติชั่วขณะเจ้าค่ะ พออารมณ์เย็นลงกลับพบว่า "ไม่น่าทำเลยเรา" ทั้งเสียใจ เสียเพื่อน เสียสมดุลของชีวิต...ฮ้าย!! แย่จัง

ขอบพระคุณเจ้าค่ะ

อิๆๆๆ เด็กมันยั่วนิ..."อ้อยเล็ก" คนสวยเลยมีรม...ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง ดุบ้าง ดีนะที่ยังไม่เตะเด็ก...แล้วคุณผู้ชายที่นอนเต็มเตียงนั่นล่ะ...เคยยั่วบ้างหรือเปล่าจ๊ะ (อิๆๆๆ)

  • จะยั่วหรือทำอะไรหก มหา ก็ไม่หวาดเสียวหรอก
  • มาด้วยมีสมาธิ

อิๆๆๆ ขำๆ พี่ครู ป.1 ค่ะ... "เด็กมันยั่ว ช่างเถอะ ! อย่าเผลอไปยั่วเด็กล่ะ"

ไม่ชอบยั่วเด็กหรอกค่ะ...แต่ถ้ายั่วผู้ใหญ่นะไม่แน่ อิๆๆๆ (ชอบ สว. ค่ะพี่)

ขอบคุณมากค่ะ...ดูแลสุขภาพนะคะ

ฮ้าๆๆๆๆ ขอหัวเราะท่านมหาเสียงดัง ๆ นะคะ (จะว่าเสียมารยาทก็ยอม)...วันนี้ท่านมหาไม่หลงกล Vij แล้ว

"จะยั่วหรือจะทำอะไรหก มหาก็ไม่หวาดเสียวหรอก...เพราะวันนี้มาด้วยสมาธิ"

สงสัยบันทึกหน้า ต้องใช้ยุทธวิธีใหม่ในการตั้งชื่อ...บันทึกหน้าท่านมหาจะได้เจอของดี ๆ แน่ค่ะ...มาแบบเต็ม ๆ ไม่มีเซนเซอร์เจ้าค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ...ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

เรามีสติ

รู้เท่าทันธรรมชาติ

รู้จักปล่อยวาง

แค่นี้ก็มีความสุขได้แล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ...คุณ "์NU 11" มีสติ รู้เท่าทัน รู้จักปล่อยวาง...สุขแล้วค่ะ...ไห้ๆๆๆ ก็มีความสุขค่ะ...ไห้ โดยไม่หวังผลตอบแทน อิๆๆๆ (รูปการ์ตูนน่ารักค่ะ ไฮ่ๆๆๆ)

อ่านเรื่องนี้แล้วอดไม่ได้ ต้องเล่านิทานให้ฟัง .....

เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงคนหนึ่งมีบ้านอยู่ริมคลองเป็นเจ้าอารมณ์ โมโหง่าย  จนเมื่อได้เข้าวัดฟังเทศน์ ฟังธรรม จึงตั้งสัตย์ ปฎิญาณ ต่อสารธณชนว่า ต่อไปนี้ จะไม่โมโห   

 ว่าแล้วแกก็เขียนป้าย"คำว่าไม่โมโห" เอาไปปักที่หน้าบ้านริมคลอง   มีเด็กวัยรุ่น พายเรือผ่านมาเห็นลุงกำลังปักป้าย ก็ถามว่า

เด็กวันรุ่น....    ทำอะไรลุง    

 

คุณลุง ..... ปักป้ายให้คนรู้ว่าต่อไปนี้ลุงจะไม่โมโห

 สักพักเด็กคนเดิมพายเรือกลับมา ถามคำถามเดิม  คุณลุงก็ตอบคำถามเดิม

  แล้วเด็กคนเดิมก็พายเรือกลับมาทางเดิมอีกครั้ง ถามคำถามเดิม  แต่คำตอบไม่เหมือน

 ว่าดังนี้ อุว๊ะ กูบอกว่าไม่โมโหๆ มึงอ่านหนังสือไม่ออกหรือไงว๊ะ ...... นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  ให้ปักป้ายที่ใจ

Pคำคมแห่งปีค่ะผู้เฒ่า..ปักป้ายไว้ที่ใจ...เยี่ยมงิๆๆๆๆ

 

Pแล้วคุณผู้ชายที่นอนเต็มเตียงนั่นล่ะ...เคยยั่วบ้างหรือเปล่าจ๊ะ (อิๆๆๆ)..

ห้าๆๆๆหกๆๆๆคนดังกล่าวไม่ต้องยั่ว..แค่ปรายตาก็หลงแล้ว...งิๆๆๆๆหลงไปบ้านอื่นห้าๆๆๆ

ไปนอนแล้วนะตะเอง..ฝันดีจ้า..


ขอบคุณบังค่ะ...อ่านแล้วชอบใจลุงคนนี้จังค่ะ..."อุว๊ะ กูบอกว่าไม่โมโหๆ มึงอ่านหนังสือไม่ออกหรือไงว๊ะ" นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ให้ปักป้ายที่ใจ"

ฮิๆๆๆๆ...เสน่ห์ร้ายน่าดูนะคุณแม่ "อ้อยเล็ก" แค่ปรายตา...จิกตานิด ๆ พองามด้วย คุณผู้ชายคนนั้นก็หลงซะ...ไม่อยากจะเซด...พยานรักมันฟ้องให้ต้องเชื่อเจ้าค่ะ

ราตรีสวัสค่ะ

สวัสดีครับ

      หลงทางเสียเวลา หลงVij _เข้าหาธรรมะ (รีบเข้ามานึกว่าอีหนูมันยั่ว เหมือนเพลงยอดรัก)

สวัสดีค่ะ..คุณพี่หมอน้อย

ฮ่าๆๆๆๆ นี่ก็อีกราย...พวก สว. ชอบให้อีหนูมันยั่ว...เลยหลวมตัวไปหน่อย

จะไปแจ้งความกับใครละทีนี้...ท่าน ด.ต.ต.ช.ด

ขอบคุณนะคะที่หลงเข้ามา...เกือบไปแล้วค่ะท่าน...

สวัสดี ยามบ่าย เจ้า

วันนี้ยังไม่ไป โอ๋หลานเลยนะคะ (แบบว่าคุ้นเคย ต้องวันทุกวัน ไง คิดถึงว่างั้นเถอะค่ะ)

สวัสดีค่ะ

ถูกต้องเลยเด็กชอบยั่ว แต่คนที่ถูกยั่วก็ต้องรู้จักควบคุมตัวเองบ้าง

หรือว่างัยคะ

สวัสดีค่ะ พี่ครูใหม่ที่คิดถึง...ไปปลอบหลานรักมาแล้วเจ้าค่ะ...แต่ไม่แน่ใจว่านักจิตฯ คนนี้ปลอบแล้วจะร้องหนักกว่าเดิมหรือเปล่า...ถ้ายังร้องไม่ยอมหยุด สงสัย...ไม่ต้องทำมาหารับประทานกันแล้ว...สำหรับอาชีพนี้

คิดถึงนะคะ...จุ๊ปปปปปปปค่ะ

สวัสดีค่ะคุณน้องจ๊ะจ๋า...แม่นแล้วค่ะน้อง...ควบคุมอารมณ์ตนไว้ดีที่สุดค่ะ...ปิดปาก ปิดหู ปิดตา ยิ้มอย่างสบายใจค่ะ...ขอบคุณมากค่ะ

อ่านแล้วชักเกิดอารมณ์ เหมือนกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท