หากเพื่อนต้องการให้เรื่องของเพื่อนเป็นความลับ ... เราก็มีความต้องการเหมือนเพื่อนนั่นแหละ


การที่ใครจะเลือกเพื่อนสักคน สักกลุ่ม ก็มักจะเลือกจากแนวทาง พฤติกรรม หรือ วิธีคิดของเพื่อนคนนั้นว่า ตรงกับเรา หรือคล้ายเราหรือไม่ ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์โดยปกติอยู่แล้ว ... ชอบอะไรที่คล้าย ๆ กัน ไม่ชอบอะไรที่คล้าย ๆ กัน การเดินทางไประหว่างเรากับเพื่อนมักจะกอดคอกันด้วยหัวใจเสมอ

ไม่ว่าจะทุกข์จะสุข เพื่อนแท้มักจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ แต่เพื่อนไม่แท้ เมื่อเจอทุกข์ก็มักจะเลือกหลบหลีก หนีหาย เพื่อให้ไม่ให้ปัญหาเข้ามาเกี่ยวข้องกับตนเอง แต่พอมีสุขก็มักจะเลือกเข้ามาตีสนิท

 

ผมมีเพื่อนสนิทน้อย เพราะเลือกมาก เลือกเพื่อนจากอุปนิสัยที่คล้ายกับตัวเอง คือ เถรตรง เป็นคนดี มีน้ำใจ ไม่ประจบประแจง มีอุดมการณ์ มีความตัวของตัวเองสูง (ในทางที่ถูกที่ควร)

ทำงานในมหาวิทยาลัย เป็นครูบาอาจารย์ที่กินอุดมการณ์แทนข้าว มักจะต้องเลือกเพื่อนให้หนัก ก็ได้มาอยู่ 2 - 3 คน มากันแบบฟ้าประทาน ต่างกรรมต่างวาระกันไป ... พี่ 1 คน เพื่อนอีก 2 คน ทุกคนมีน้ำใจ ห่วงใยกันเสมอ ทั้งยามทุกข์และสุข เพราะหลายเหตุการณ์ได้พิสูจน์ใจกันแล้วว่า สามารถอยู่เคียงข้างกันได้ ไม่ใช่ อยู่เฉพาะตอนสุขเท่านั้น

แต่ไม่มีใครสมบูรณ์ที่สุด แม้กระทั่งคนชื่อ "สมบูรณ์"

 

ทุกคนมีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกันไปตามภูมิหลังและประสบการณ์เดิมที่ผ่านมาในชีวิต ... ผมเลือกที่จะมองไม่เห็นข้อด้อยของเพื่อนมากไปกว่าข้อดีที่เขามีให้ผมและเพื่อนคนอื่น ๆ แต่หลายครั้ง ข้อด้อยของเพื่อนที่คล้าย ๆ กันเหล่านั้น คือ "ความลับไม่มีในโลก"

การที่มีเพื่อนหลายคน เวลาที่จะเลือกปรึกษาปัญหาหรือความทุกข์ส่วนตัว ก็ต้องเลือกเพื่อนที่สามารถให้คำปรึกษากับเราได้จริงและวิเคราะห์หาทางแก้ไขด้วยความเข้าใจในปัญหาของเรามากที่สุด เพื่อเป็นข้อมูลให้เราไตร่ตรองและตัดสินใจที่จะเลือกเส้นทางการแก้ไขปัญหา

 

ผมมักจะเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนที่มีความทุกข์ได้เสมอ และถือเรื่อง "ความลับของเพื่อน" เป็นอย่างมากว่า เพื่อนเลือกที่จะปรึกษาเรา เขาก็คงไม่อยากให้ใครรู้ นอกจากเรา มิฉะนั้น เขาคงไม่เลือกเราเป็นที่ปรึกษาหลัก

ดังนั้น ความลับ คือ ความลับ

ถือเป็นการให้เกียรติเพื่อนที่เรารักด้วย

หากเขาอยากนำความลับของตัวเองไปปรึกษาใครอีก นั่นก็เป็นสิทธิ์ที่เขามี ไม่มีปัญหาอะไร

แต่ ...

สิ่งที่ผมจะได้รับเหมือนกันในหลาย ๆ เหตุการณ์คือ สำหรับความลับของผม มักจะถูกแอบเอาไปบอกเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ คนอื่นในกลุ่มเสมอ

และมักจะได้รับเหตุผลว่า "รักและเป็นห่วง" "หลายหัวดีกว่าหัวเดียว"

ผมบอกตรง ๆ ว่า ผมไม่อยากได้

สำหรับผม ความลับ ก็คือ ความลับ

ความลับ คือ สิ่งที่ตัวเราไม่อยากให้ใครมารับรู้ หรือ เราเลือกที่บอกความส่วนตัวให้กับเพื่อนที่เราไว้ใจ

ครั้นเราเอง ยังให้เกียรติ แต่ผมมักจะไม่ได้รับเกียรตินั่นเสมอ ไม่รู้เป็นอะไร

 

ไม่ว่าจะเป็นความรักความห่วงใยอย่างไรก็ตาม หรือ

เป็นความสนุกปากของเพื่อนที่หยุดไม่อยู่ หรือ

ไม่เคยคิดว่า หากพูดไป ปัญหาจะตามมาหนักยิ่งกว่าที่กำลังประสบอยู่

หากมีคนไม่หวังดีกับเรา นำไปต่อยอด ทำให้เสื่อมเสียเกียรติมากกว่านี้ ใครจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

เพื่อนจะรับผิดชอบผมทั้งชีวิตได้หรือเปล่า คำตอบยังคงกำกวม

 

น่าแปลกใจว่า เพื่อนผม เป็นคนดี แต่มีนิสัยไม่ดีที่คล้ายกัน คือ เรื่องที่ผมบอกว่าเป็นความลับ มักจะไม่เคยลับสักครั้ง

ผมพยายามมองในความหวังดีของเขา แต่ก็อดมองเห็นสิ่งนี้ไม่ได้จริง ๆ

ผมคงตัดสินใจพูดให้น้อยลง เลือกสารเฉพาะที่ไม่มีผลกระทบกับบุรุษที่สามมากนัก

ผมชักเริ่มขยาด เพราะการพูดของเขา ที่เขากำลังสนุกปาก ไม่เป็นผลที่ต่อตัวผมเลย

ผมกลัวเรื่องมันจะบานปลาย หากเขามีระบบความคิดอยู่บ้าง เขาควรจะคิดได้ และหักห้ามใจที่ไม่พูดเรื่องของผมให้มากไปกว่านี้

 

อดีตไม่ทราบรายละเอียด ปัจจุบันกำลังดำเนินอยู่ แล้วเขาจะมารู้อนาคตได้อย่างไรกัน

 

ผมมีเพื่อนดีครับ แต่เสียที่ "ปาก" นี่แหละ ... ตอนนี้เลยรู้สึกลำบากใจสักหน่อย เพียงลำพังเรื่องทุกข์ใจก็มีมากอยู่แล้ว ยังต้องมาระวังเพื่อนตัวเองอีก เหนื่อยหน่อยครับ

 

แต่ก็มองให้เป็นสัจธรรมครับ

"ความลับไม่มีในโลก"

แต่ผมก็อยากให้ความลับมันค่อย ๆ เดินทางไปอย่างช้า ๆ จนเมื่อผมสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้แล้ว ผมจะไม่ต้องห่วงความลับนั้นอีก

 

บันทึกนี้ไม่มีหลักการอะไรทั้งสิ้น เขียนก็เขียนตามอารมณ์และความรู้สึกในระยะนี้เท่านั้นครับ

เผื่อเพื่อนผมเข้ามาอ่าน เขาจะได้ทราบความรู้สึกของผมบ้างว่า

 

การพูดโดยไม่ยั้งคิด คือ การทำลายเกียรติของตัวเพื่อนเอง

หรือ

ขนาดความลับของเพื่อน เพื่อนยังไม่อยากให้ใครรู้ แต่ทำไมครั้นความลับของผม เพื่อนถึงอยากให้ใครรู้ หากเพื่อนเอาใจเขาใจเราบ้าง เพื่อนจะเข้าใจความรู้สึกของผมที่เขียนในบันทึกนี้

 

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)

 

 

หมายเลขบันทึก: 385761เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2010 00:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 23:34 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (32)

สัวดีค่ะอาจารย์กำลังจะไปนอนก็มีบันทึกใหม่มาให้อ่าน 

"ความลับไม่มีในโลก"

แต่ผมก็อยากให้ความลับมันค่อย ๆ เดินทางไปอย่างช้า ๆ จนเมื่อผมสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้แล้ว ผมจะไม่ต้องห่วงความลับนั้นอีกเลย 

ใช่ๆๆค่ะเพราะมันควรล่วงเลยเวลานั้นมาแล้วค่อยเปิดเผยจึงจะสบายใจเนาะ ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณมากครับ คุณครู rinda ;)...

การรักษาความลับของเพื่อน คือ ความสัตย์ที่เพื่อนมีให้เพื่อน ครับ

เพิ่งทราบว่าอ.เสือมีความลับด้วย อิ อิ ก็ท่าน อคลม ลึกลับขนาดนั้น เค้าคงหวังดี กระมัง๕ ๕ ลองเขียนความลับไว้ในไดอารี่สีดำส่วนตั๊วส่วนตัวสิคะ อย่าลืมใส่กุญแจด้วยนะค;)

สวัสดีค่ะ พี่อาจารย์ Wasawat Deemarn

อย่าเสียใจ ใจเสีย เพราะการกระทำของคนอื่น..   ใช้ชีวิตง่ายๆ อยู่กับความเป็นจริง มองทุกๆ อย่างให้ทันเหตุการณ์ไว้  อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด..   เป็นกำลังใจให้พี่อาจารย์นะคะ..  มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรง..  ระลึกถึงเสมอค่ะ..    Gracekellywithkids

มีเพื่อน มีความสุขครับ เย้ๆๆ อาจารย์สบายดีนะครับ

ความลับ....ถ้าหลุดออกจากปากไปแล้ว  ก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป

ความลับต้องอยู่ในใจเราคนเดียวเท่านั้น..ทำได้ไหม??

บางคนทำได้ก็ถือว่า...เยี่ยมยอด

บางคนทำไม่ได้ก็....ไม่เป็นความลับ

ความลับมากมายเลยครับ คุณ poo ... ;)

ต้องเก็บไว้ให้มั่น คั้นแล้วไม่ให้ตาย อิ อิ

ขอบคุณครับ

สั้นตามเคยนะครับ ท่านอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ;)

ขอบคุณนะครับ

เก็บไว้ให้ตายไปกับตัวเอง คือ ความลับ ใช่ไหมครับ คุณ krugui Chutima ;)

งั้นไม่เป็นความลับแหละ 555

ขอบคุณครับ ;)

...ความลับไม่ในโลกจริงๆ..

มองในมุมกลับบ้างไหมคะ

เพราะรักหรอก จึงบอกต่อ

ถ้าไม่รักเขาคงไม่สนใจ

ขอบคุณค่ะ

มองมุมนั้นไปแล้วครับ และเข้าใจเป็นอย่างดี ;)...

แต่ก็ต้องมีการคิดก่อนพูด ผลน่าจะดีกว่านี้ครับ

ขอบคุณครับ คุณ KRUDALA ;)

ยิ่งพูดว่า"ความลับ"

เหมือนยิ่งเพิ่ม..ความอยากบอกต่อ

คือ นิยาม ความลับ..ของคนสมัยนี้

ที่ดีก็คือ..เก็บไว้เอง..ไม่ก็เขียนไว้บนกระดาษดำ

ถูกต้องเลยครับ คุณ ครู ป.1 ;)...

ยิ่งบอกว่า เหบียบไว้เลยที่ตรงนี้ นั่นก็หมายความว่า เผยแพร่ไปเรียบร้อย 555

ขอบคุณครับ ;)

เสาวนีย์ ขุนประดิษฐ์

ความลับของเราสำหรับเราอาจเป็นเรื่องสำคัญแต่สำหรับเพื่อนที่เราเผยความลับเขาอาจไม่มองว่ามันสำคัญเลยพลั้งปากพูกไป

อย่าคิดมากไปเลยค่ะ :-D

ขอบคุณสำหรับความเข้าใจจริง ๆ ของน้อง เสาวนีย์ ขุนประดิษฐ์ ครับ ;)

ขอบคุณมากครับ

เคยอ่านเจอ เค้าบอกว่า

"ถ้าอยากให้ความลับยังเป็นความลับก็อย่าพูด เพราะตราบใดที่ความลับยังอยู่ในใจเรา เราจะยังคงเป็นนายมัน แต่หากพูดไปเมื่อใด ความลับหรือคำพูดนั้นจะกลายเป็นนายเรา"

ถ้าความลับมันหนักอก แล้วไม่รู้จะบ่นกับใคร เจ้าตูบ เจ้าเหมียว และสายลมแถวบ้านพี่ชายน่าจะพอช่วยได้ อย่างน้อยได้ระบายออกไปบ้างก็น่าจะดีกว่าความลับคับอก จนอกแตกตายเด้อค่ะ ^__^

น้องสี่ซี่ ก็มาด้วย...

ผมถึง กทม.เเล้วครับ ก็ต้องขอบคุณเพื่อนอาจารย์ทั้งสองที่ดูเเลในช่วงที่อยู่เชียงใหม่

มีโอกาสดีๆ คงได้เจอกันเเละเสวนากันอีกครับ

ขอบคุณครับ

จาก ...คนปากดี ;)

สวัสดีค่ะอาจารย์

สงสัยว่าอาจารย์น่าจะเป็นคนที่น่าสนใจในสายตาคนอื่นกระมังคะ

เขาจึงเอาเรื่องไปพูดให้คนอื่นฟัง แล้วเรื่องนั้นก็กลับเข้ามาถึงหูอาจารย์

อีก พอเวลาผ่านไปสักพักเขาก็คงลืมค่ะ (อาจมีเรื่องอื่นเข้ามาแทนที่ :) :) )

ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นนะคะ

จากคนใต้ค่ะ

"ไอ้จิ้ม" แมวที่บ้านนั่งฟังพี่ทุกวัน น้อง สี่ซี่ ;)..

หูถึงกับตูบขึ้นมาทันที 555

แหม อาจารย์ รัช ครับ ... อาจารย์มองโลกในแง่ดีมาก ๆ เลยครับ

มิน่าอาจารย์ถึงได้ดูหน้าเด็กมากกว่าปกติ ;)

ขอบคุณมากครับ

จาก คนอาศัยในเวียงเชียงใหม่ครับ

รู้แล้ว ทำไมไอ้จิ้ม จึงปฏิบัติการแย่งผ้าห่ม อิอิ

การไล่เตะแมวจิ้มจึงเป็นกิจวัตรประจำวันครับ น้อง สี่ซี่ ;)...

ผ้าซักใหม่ไม่ได้ เสร็จมันหมด ;)

สวัสดีค่ะ หนึ่งในกลุ่มสาวพันปี... มาเยี่ยม

ความลับ คือ สิ่งที่เจ้าของไม่อยากให้ใครรู้ แต่มันต้องถูกรู้จนได้

พี่ว่ามนุษย์ทุกคนมีบางสิ่งในชีวิตที่เราไม่ได้อยากให้โลกรู้ แต่เมื่อเราได้เล่าให้ใครสักคนฟังด้วยความลับนั้นอาจเป็นความทุกข์ ความคับข้องใจที่เราอยากระบาย ก็ต้องทำใจไปพร้อมๆกันได้เลยว่าสักวันเรื่องนี้ต้องเป็นที่รับรู้ต่อๆกันไปอีก ดังนั้นสิ่งที่เราสามารถทำได้ทุกวัน วันละเล็กละน้อยคือการทำใจตนเองให้เรื่องที่มากระทบไม่เป็นความทุกข์ ความคับข้องใจที่ต้องเป็นความลับ แต่เป็นสิ่งที่เราพูดถึงได้กับเพื่อน ใครอยากมารู้ก็ได้ ถือว่าได้เป็นบทเรียนให้คนอื่นได้เรียนรู้ อิ อิ เรื่องนี้ต้องคุยกันยาว ทำใจให้สบายนะคะ เสียดายไม่ได้พบกันที่เชียงใหม่ครั้งที่ผ่านมา มีคนบอกว่าอาจารย์เลือกปรากฏตัว เป็นความลับอีกแล้ว^___^

สวัสดีครับ พี่อาจารย์นุช คุณนายดอกเตอร์ ... สาวสองพันปี (เพิ่มอีกพันปี)

เห็นการวิเคราะห์ของพี่นั้นถูกต้องแล้วครับ ... บางทีความทุกข์ก็เหมือนน้ำเสียที่ต้องระบายออกมาจากใจบ้างเพื่อให้เกิดความสมดุล

สิ่งที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนที่ตัวเองต้องระวังมากขึ้น บางทีความสนุกปากของเพื่อนอาจจะต้องทำให้เราเดือดร้อนอย่างคาดไม่ถึง

คำพูดจึงเป็นนายเราในทันที

เพิ่งทราบเหมือนกันครับ พี่อาจารย์นุชมาเยือนเชียงใหม่ อยากพบนะครับ

แต่ผมแอบผ่านอย่างเดียว จึงยังคงรักษาความลับได้ต่อไป อิ อิ

ขอบคุณครับ ... บุญพาวาสนาส่งแอนด์พรหมลิขิต อาจจะได้พบกันครับ ;)

มาเยี่ยมอาจารย์อย่างเงียบๆค่ะ

ประสบการณ์ตัวเอง เวลาบอกว่าเป็นความลับ บางที่เราเป็นคนพูดเองก็มีค่ะ

เวลาคุยกันนานๆไม่รู้จะคุยอะไร สุดท้ายก็คุยเรื่องคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆจนเผลอเอาเรื่องคนอื่นมาเล่าค่ะ

ต้อนรับคุณหมอ พ.ญ. อัจฉรา เชาวะวณิช อย่างดัง ๆ ครับ เย้ !

เป็นเหมือนกันครับ พูดจนหลุดมาจนได้ 555

ขอบคุณครับ ;)

"ความลับไม่มีในโลก"

"แต่ผมก็ตอ้งการให้ความลับมันคอ่ยๆ

เดินทางไปอย่างช้าๆ

จนเมือผมสามารถแก้ปัญหานั้นได้แล้ว

ผมจะไม่ตอ้งห่วงความลับนั้นอีก"

ขอบคุณกับอีกหนึ่งบันทึกค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท