วันที่ "ชีวิต" ควรเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง


คุณค่าและความดีที่อยู่ในตัวผมจะมี หรือไม่มี ก็ขึ้นอยู่ "วิธีคิด" และ "มุมมอง" ของการเลือกมองคน ๆ หนึ่งเท่านั้น

เริ่มต้นเขียนบันทึกเวลา ๐๑.๐๐ น. ของวันพุธที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๔

เมื่อวานที่ผ่านมา คือ วันอังคารที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๔ ถือเป็นวันแม่ให้กำเนิดออกมาดูโลก อายุขัยก็เปลี่ยนไป คือ มากขึ้น แต่ไม่เคยลดลง

วันแม่ให้กำเนิด หรือ วันเกิดของทุกปี เป็นวันที่ผมไม่เคยให้ความสำคัญมากไปกว่าคิดถึงพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิด เนื่องจากอยู่ไกลจากบ้าน ๗๐๐ กิโลเมตร จำเป็นต้องใช้เครื่องมือสื่อสารโทรศัพท์ไปขอพรจากพ่อและแม่ ถือเป็นสิ่งที่กระทำทุกปี หากมิได้กลับบ้านไปหา

ไม่เคยมีปีไหนที่ต้องมาเลี้ยงฉลองความทุกข์ของแม่ที่เกิดตัวเองมา ไม่เคยไปยุ่งกับเหล้ายาปลาปิ้ง อันเป็นการประจานตนเองให้โลกรู้ว่า วันเกิด คือ วันคล้ายวันเกือบตายของแม่ตัวเอง

นอกจากการโทรศัพท์ไปขอพรจากพ่อและแม่แล้ว หากปีไหนตื่นไม่สายก็จะไปตักบาตรทำบุญ อันเหมือนกับการต่ออายุให้ตนเองได้มีโอกาสทำดีต่อไปในโลกนี้

ดังนั้น ไม่เคยบอกเพื่อน บอกพี่ บอกน้องที่ร่วมงาน หรือใคร ๆ เลยว่า วันนี้วันเกิดฉัน วันเกิดที่ต้องมานั่งอวยพร หาของขวัญมาให้ หรือให้ความสำคัญอะไรมากมาย ใครจำได้ก็รู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจที่ได้ให้ความใส่ใจและสำคัญกับเพื่อนคนนี้ แต่ใครจำไม่ได้ เดินผ่านไปผ่านมา ก็ไม่เป็นไร ถือว่าความสำคัญของวันนี้อยู่ที่ "การระลึกถึงพ่อกับแม่ของเรา" ไปแล้ว จำไม่ได้ก็ไม่ใช่ความผิดอะไร

ผมจะต้องถามตัวเองทุกปีว่า "เราได้ทำดีกับพ่อและแม่ดีพอหรือยัง" และไม่เคยมีปีไหนเลยที่คิดว่า "ดีพอ" ผมยังทำดีไม่พอและจะต้องปรับปรุงตัวเองต่อไป คิดว่า ตัวเองยังเป็นลูกที่ไม่ดีของพ่อแม่เลย

 

คงต้องเล่าไว้ให้จดจำสำหรับปีนี้หน่อย ...

* มีน้องที่ทำงานทำคลิปให้กำลังใจมาให้ ๑ คน

* เพื่อน ๆ และทีมงานโรงเรียนแห่งความสุขอวยพรสิ่งดี ๆ ให้

* แกงค์น้องสาวตัวแสบก็กำลังยุ่งขอติดไว้ก่อน (ไม่เป็นไร)

* น้องคนไหนที่ผ่านมาผ่านไปก็อวยพรให้

* น้องชายโทรมาอวยพรจากกรุงเทพฯ

* คุณเอก กัลยาณมิตรที่ดีเสมอก็โทรมาอวยพรให้

* คุณ poo แฟนพันธุ์แทะของผม อวยพรให้ในบันทึกตั้งแต่เช้าเลย

 

สุดท้ายที่ทราบ ณ ตอนนี้ คือ

* เพื่อนสนิท มอบพระพุทธชินราชเป็นมงคลให้ ๑ องค์จากพิษณุโลก แถมไม่พอ ตอนเย็นยังขอเลี้ยงข้าวสักมื้ออีก ฯลฯ

 

* ได้รับ SMS อวยพรวันเกิดจากคนสำคัญที่รอคอย ครับ

 

ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ ครับ ด้วยใจจริง ขอพรอันประเสริฐกลับคืนไปสู่ทุกท่านเลย

 

 

ขอเล่าเรื่องเพื่อนสนิทหน่อยนะครับ (ขออนุญาต ณ บันทึกนี้เลยนะ)

เพื่อนเพิ่งกลับจากดูงานที่ U.S.A. ไม่ได้เจอกันมาเป็นเดือน เพราะเวลาว่างไม่ตรงกัน วันนี้เลยถือโอกาสเลี้ยงข้าวและพูดคุยกันในหลาย ๆ เรื่อง

เราแลกเปลี่ยนกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

เพื่อนผมคนนี้มีความพร้อมทุกอย่างหมด ไม่ว่าจะเป็นรูปทรัพย์ มิตร บริวาร ขาดเพียงอย่างเดียวที่เธอมักจะล้มก่อน คือ "ความรัก"

จนผมชอบล้อว่า "เจ้าสาวที่กลัวฝน" หรือเปล่า

เธอค้นหาความรักมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมื่อเจอแล้วมักจะรักษาเอาไว้ไม่ได้ ก็ไม่เรื่องอคติเรื่องใดก็เรื่องหนึ่งเสมอ ชีวิตความรักจึงไปไม่ค่อยรอด เธอจะเป็นคนบอกเลิกก่อนเสมอ ด้วยความมั่นใจในตัวเองสูง

แถมการเลือกสรร หรือ สเป็คว่าที่แฟนของเธอมักจะเลือกจาก "หน้าตา" มาอันดับหนึ่ง นิสัยดีหรือถูกใจแค่ไหนก็ไม่เลือก เพราะไม่หล่อ ไม่ใช่สเป๊ค

ดังนั้น การที่เลือกคนที่จะมาใช้ชีวิตคู่ด้วยในอนาคต เลือกจาก "เปลือกภายนอก" ก่อน "สิ่งที่อยู่ภายใน" ทำให้ชีวิตความรักล้มเหลวมาตลอดชีวิตถึง ณ เวลานี้ คบได้ 2 - 3 ปี เลิกมาตลอด

ผมก็บอกเธอตรง ๆ ว่า นี่คือจุดบกพร่องของตัวเองนะ ทำไมถึงไม่ลองเริ่มดูคนจาก "ภายในหัวใจ" ของเขาบ้างล่ะ แล้วเธอจะรู้ว่า "ความดี" มันคืออะไร ไม่ใช่ "ความหล่อ" หรือ "ไม่หล่อ" เป็นตัวนำ ไม่งั้นก็คงต้องรับกรรมแบบนี้ไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ เพราะ "หล่อ" ด้วย "ดี" ด้วย ไม่น่าจะอยู่รอดถึงวัย ๓๐ อัพ

เธอได้แต่บอกว่า จะพยายาม (แต่ก็ยังไม่เห็นพยายามจริงอ่ะ เห็นคนหล่อ คอแทบหัก 555)

ที่บอกไปอย่างนั้น ก็เพราะตัวเองเป็นแบบนั้น ไม่มีความหล่อ หรือเปลือกนอกใด ๆ ที่ตื่นตาตื่นใจเลย กว่าจะรู้จักว่า ตัวตนของผมเป็นคนเช่นไร ก็ต้องใช้เวลาทำความรู้จักตัวเป็น ๆ หลายปี คุณค่าและความดีที่อยู่ในตัวผมจะมี หรือไม่มี ก็ขึ้นอยู่ "วิธีคิด" และ "มุมมอง" ของการเลือกมองคน ๆ หนึ่งเท่านั้น

ผมจะไปบอกว่า ตัวเองเป็นคนแบบนั้น แบบนี้คงไม่ได้ มันต้องเวลาสัมผัสครับ

 

 

อีกเรื่องในบันทึกนี้ที่ทำให้ผมต้องคิด ...

ระหว่างการทานข้าว อดีตของเพื่อนโทรมา เธอก็รับโทรศัพท์แบบคุยดี ไม่ได้เย็นชาอะไร เพียงแต่ว่าเมื่อนานเข้า นานเข้า เธอก็ทำหน้าเหย่เก เหมือนรู้สึกรำคาญผู้พูดอีกฝ่ายมาก แต่อารมณ์ทางเสียงยังคงดีอยู่ เมื่อคุยกันจบ เธอก็บอกผมว่า "ฉันเป็นผู้ฟังที่ดี ปล่อยให้เขาพูดอย่างเดียวพอ"

ผมก็เลยถามว่า "แล้วเธอไม่รำคาญเขาบ้างเหรอ ไปคุยดีกับเขามากเดี๋ยวถ่านไฟเก่ามันก็จะคุ ต้องมานั่งปวดหัวกันอีกรอบหรอก"

เธอก็ตอบว่า "ไม่มีอะไรหรอก คุยกันเฉย ๆ ฟังอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ตอบอะไร"

ว่าไป หากผมเป็นผู้ชายคนนั้นนะ ผมคงจะเสียใจน่าดูเหมือนกัน หากเราให้ความจริงใจกับใครไปแล้ว แต่ผลตอบรับมันคือ การตั้งข้อรังเกียจ รำคาญ หรือเบื่อหน่าย ผมคงจะไม่โทรหากลับไปเพื่อวิ่งหาความเจ็บปวดอีกเลย

หากเราให้ใจใครไปแล้ว แต่เขาไม่ให้ใจกลับมา ก็ป่วยการที่จะคุยกันต่อไป มันเจ็บปวดและทุกข์ใจ เหมือนคนไม่เห็นคุณค่าความเป็นคนของเรา เราอาจจะมีคุณค่าต่อคนอื่น แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่มีเลยก็ได้

 

วันนี้ก็เลยคุยกับเพื่อนไปหลายเรื่อง เรื่องอดีต ปัจจุบัน แต่อนาคตไม่ได้คุย เพราะไม่รู้อนาคต

ขอบคุณเพื่อนในหลายเรื่องที่ทำให้เราได้คิด

ขอบคุณในความหวังดีของนายมาก ๆ

 

ชีวิตผมอาจจะพบกับ "มรสุมของชีวิต" มากมายในช่วงนี้ ซึ่งเป็นปกติของมนุษย์โลกที่ต้องเผชิญอุปสรรคที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ

โชคดีใน "มรสุม" ครั้งนี้ ผมมีกัลยาณมิตรที่ห่วงใยผมมากมาย มากกว่าที่เคยมีมา

ผมจะพยายามผ่านมันไปให้ได้ และจะกลับมาเป็นอาจารย์เสือ หรือคุณครูเสือจอมโหดของกัลยาณมิตรที่รักของผมหลาย ๆ คนต่อไป

ตัวตน คนเดิม ควรจะกลับมาสักที

 

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...

 

ป.ล. วันนี้ คือ วันที่ "ชีวิต" ควรเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง ;)...

 

หมายเลขบันทึก: 435993เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2011 01:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

สวัสดีค่ะอาจารย์

สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

แวะมาเป็นกำลังใจให้ค่ะ สุขสันต์วันเกิดเช่นกันน่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ

ขอให้มีความสุขค่ะ  สุขมาก ๆ นะคะ  จากใจจริงค่ะ

บันทึกนี้อ่านสบายนะคะ

ขอบคุณมากครับ คุณ ถาวร ;)...

สบายดีนะครับ

สวัสดีค่ะ

  • สุขสันต์วันเกิดค่ะ
  • ขอให้อาจารย์มีความสุขนะคะ
  • เท่าที่ติดตามอ่านบันทึกของอาจารย์(แม้ว่าไม่กี่บันทึก) และอ่านการแสดงความคิดเห็นของอาจารย์ในบันทึกอื่น ๆ
  • คิดว่าอาจารย์มีความสุขแน่นอนค่ะ 

ขอรับคำอำนวยพรจากพี่คุณครู อิงจันทร์ ณ กระท่อมอิงจันทร์ ด้วยความเต็มใจครับ

โดยเฉพาะ "ความสุข" ที่อยากมีมากมาย ;)...

ขอบคุณมากครับ

จงเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองค่ะ "คนเรามีคุณค่าต่อผู้อื่นเสมอไม่มากก็น้อย เพียงแต่ว่าเขาจะยื่นมือมารับไมตรีจากเราหรือไม่แค่นั้นเอง" อะไรที่มีความสุขสำหรับตัวเองก็ทำไปค่ะ ให้แล้วอย่าไปคาดหวังผลตอบแทนใจก็เป็นสุขค่ะ ^^

ขอบพระคุณมากครับ คุณครู เตี้ยอึด ;)...

มัวแต่เตรียมตัวรับการประเมินภายนอกรอบสาม ในเดือนมิถุนายน ไปโรงเรียนทุกวันค่ะ

จะไปเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 8 จนกระทั่งถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ไปและไม่รู้ว่าจะได้ไปเมื่อไรอิอิ

จะไปให้อ.เสือเลี้ยงกาแฟสัก..กะหน่อยค่ะ(คิดเองคนเดียวค่ะ 555+)

แต่ถึงอย่างไรพี่ก็ขออวยพรวันคล้ายวันเกิด ให้อ.วัส มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่เข้มแข็ง

 วันเก่าๆผ่านไป เริ่มวันใหม่ให้มีความสุข ทุกๆวันทุกๆคืนนะคะ

 มีพลังมากมาย(ตามอายุ)เพื่อทำหน้าที่ลูกที่ดีของพ่อแม่

 เป็นครูต้นแบบให้แก่ลูกศิษย์ทั้งหลายค่ะ

 

ขอบคุณพี่นก NU 11  มาก ๆ นะครับ ;)...

มาเชียงใหม่เมื่อไหร่ ทานกาแฟด้วยกันครับ

แจ้งทางคุณครูเอมาก็ได้ครับ ;)...

มาเร็ว ๆ นะพี่ อิ อิ

สวัสดีค่ะอาจารย์มาร่วมอวยพรย้อนหลังนะคะ ขอให้คุณพระคุ้มครอง บุญรักษา(คุ้นๆ) หันหลังให้กันก็ยังรอคอยให้หันมาสู้หน้ากันซึ่งๆหน้า กิกิ ขอให้มีภาพสวยงามมาบันทึกตลอดไปนะคะ อ้อๆๆ แนะนำหนังสือดีๆตวยเน้อเจ้า

                 

ขอบคุณมากครับ คุณครู Rinda ;)...

ภาพงาม ๆ เนาะ กะ หนังสือนะครับ ;)...

เพิ่งมีโอกาสได้มาอ่านบันทึกของคุณครูวัต.....สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังตั้งหลายวันนะคะ

"อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง

เมื่อเวลาที่ฝนจางฟ้าก็คงสว่างและเข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ"

"... ขอบคุณมากครับ คุณ แสงตะวัน ;)...

ย้อนหลังอย่างไรก็ถือว่า ระลึกถึงกันอยู่เสมอครับ

ขอบคุณบันทึกดีๆที่มีขอ้คิคมากมาย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท