การจัดระบบการเรียนการสอนออนไลน์ในปัจจุบัน ได้ก้าวเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการนำเสนอ โดยมีรูปแบบการนำเสนอผลงานแบ่งได้ 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ
Web Based Learning (WBL)
WBL หมายถึง รูปแบบการเรียนการสอนที่อาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต โดยมีการใช้ TCP/IP , HTTPS เป็น Protocal หลักในการถ่ายโอนข้อมูล เป็นรูปแบบการประยุกต์ใช้คุณสมบัติไฮเปอร์มีเดีย (Hyper media) เข้ากับคุณสมบัติของอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างเสริมสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนในมิติที่ไม่มีขอบเขตจำกัดด้วยระยะทาง และเวลาที่แตกต่างกันของผู้เรียน (Learning without Boundary) อันจะช่วยขจัดปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น การขาดแคลนครูผู้สอนที่ได้รับยอมรับ หรือมีประสิทธิภาพ สร้างมาตรฐานเนื้อหาการเรียนรู้ สร้างโอกาสการเรียนรู้ให้กับกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งเปิดช่องทางการเรียนรู้ตามอัธยาศัย (Informal Learning) และการเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิต (Lifelong Learning)
WBI/WBL/WBT
เนื่องจากเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ที่สร้างรูปแบบการเรียนรู้รูปแบบใหม่ และมีการนำคำต่างๆ มาเรียกเพื่อสื่อความหมาย ไม่ว่าจะเป็นคำว่า WBI (Web Based Instruction) หรือ WBL (Web Based Learning) หรือ WBI (Web Based Training) คงมีหลายท่านสงสัยว่าแต่ละคำมีความหมายเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร จากการศึกษาเอกสารต่างๆ และประสบการณ์ของผู้เขียน พบว่าทั้ง 3 คำคือการเรียนการสอนด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเครือข่ายเว็บไซต์เช่นเดียวกัน แต่มีใช้ต่างกันอันเนื่องจากรูปแบบการนำไปประยุกต์ใช้ ทั้งนี้จะพบว่าหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ที่ต้องการพัฒนาระบบฝึกอบรมพนักงานด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายเว็บ มักจะใช้คำว่า WBT ในขณะนี้ที่สถานศึกษาต่างๆ จะใช้คำว่า WBI ส่วน WBL จะหมายถึงสื่อการเรียนการสอนอิเล็กทรอนิสก์ผ่านเครือข่ายเว็บ ที่ผู้พัฒนาจะเป็นใครก็ได้ ผู้เรียนเป็นใครก็ได้ จึงเน้นไปที่การเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิตนั่นเอง
WBI และ CAI
คุณสมบัติของ WBI/WBT/WBL
WBI เป็นการผนวกคุณสมบัติไฮเปอร์มีเดีย (Hyper media) เข้ากับคุณสมบัติของเครือข่าย เวิลด์ ไวด์ เว็บ เพื่อสร้างเสริมสิ่งแวดล้อมแห่งการเรียนในมิติที่ไม่มีขอบเขตจำกัดด้วยระยะทางและเวลาที่แตกต่างกันของผู้เรียน (learning without boundary)
การใช้คุณสมบัติของไฮเปอร์มีเดียในการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายนั้น หมายถึง การสนับสนุนศักยภาพการเรียนด้วยตนเองตามลำพัง (One Alone) กล่าวคือ ผู้เรียนสามารถเลือกสรรเนื้อหาบทเรียนที่นำเสนออยู่ในรูปแบบไฮเปอร์มีเดีย ซึ่งเป็นเทคนิคการเชื่อมโยงเนื้อหาหลัก ด้วยเนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องรูปแบบการเชื่อมโยงนี้เป็นได้ทั้งการเชื่อมโยงข้อความไปสู่เนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้อง หรือสื่อภาพ และเสียง การเชื่อมโยงดังกล่าวจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถควบคุมการเรียนด้วยตนเอง โดยเลือกลำดับเนื้อหาบทเรียนตามความต้องการ และเรียนตามกำหนดเวลาที่เหมาะสมและสะดวกของตนเอง (criss-crossed landscape)
ส่วนการใช้คุณสมบัติของเครือข่ายเวิลด์ ไวด์ เว็บ หมายความถึง การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนหรือผู้เรียนอื่นเพื่อการเรียนรู้โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในเวลาเดียวกัน หรือ ณ สถานที่เดียวกัน (Human to Human Interaction) เช่นผู้เรียนนัดหมายเวลา และเปิดหัวข้อการสนทนาผ่านโปรแกรมประเภท Synchronous Conferencing System เช่น IRC (Internet Relay Chat) หรือผู้เรียนผู้เรียนสามารถตามหัวข้อและร่วมการสนทนาในเวลาที่ตนเองสะดวกผ่านโปรแกรมประเภท Asynchronous Conferencing System เช่น E-mail Bulletin Board System หรือ Listserv การปฏิสัมพันธ์เช่นนี้เป็นไปได้ทั้งลักษณะบุคคลต่อบุคคล (Person to Person) ผู้เรียนกับกลุ่ม (Person to Group) หรือกลุ่มต่อกลุ่ม (Group to Group)
e-Learning
สื่อการเรียนการสอนในรูปแบบ e-Learning สามารถกล่าวได้ว่าเป็นรูปแบบที่พัฒนาต่อเนื่องมาจาก WBI โดยมีจุดเริ่มต้นจากแผนเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของชาติ สหรัฐอเมริกา (The National Educational Technology Plan'1996) ของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการพัฒนารูปแบบการเรียนของนักเรียนให้เข้ากับศตวรรษที่ 21 การพัฒนาระบบการเรียนรู้จึงมีการนำเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมาช่วยเสริมอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ขอบคุณสำหรับ Web Based Learning ครับ
ขอบคุณมากค่ะ
WBI หนูใช้สอบ
เข้าใจเลยค่ะ
เป็นกำลังใจในการทำข้อสอบ หนู
ด้วยนะค่ะ