วาทะปรัชญา ว่าด้วยการแต่งงาน


เรื่องของการแต่งงานใน ปรัชญาชีวิต ของท่านคาลิล ยิบราน

      เรื่องการแต่งงาน ใน ปรัชญาชีวิต ของ  คาลิล ยิบราน  อ่านแล้วน่าจะนำมาเป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตคู่ได้ครับ

 

 

 

 

  การแต่งงาน

เธอเกิดมาด้วยกัน และเธอก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไป

เธอจะอยู่ด้วยกันแม้เมื่อปีกขาวของความตาย

ปัดกวาดคืนวันของเธอให้กระจัดกระจายไป

 

ถูกแล้ว..เธอจะอยู่ด้วยกัน

แม้ในความทรงจำอันสงัดของพระเป็นเจ้า

แต่..ขอให้มีช่องว่าง ในการอยู่ด้วยกันของเธอ

และ ขอให้กระแสลมแห่งสวรรค์ โบกโบยไปมาระหว่างเธอ

 

 

...จงรักกันและกัน แต่อย่าสร้างพันธะแห่งความรัก

 และขอให้ความรักนั้น เป็นเสมือนห้วงสมุทรอันเคลื่อนไหวอยู่ 

ระหว่างฝั่งแห่งวิญญาณของเธอทั้งสอง

 

จงเติมถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน

จงให้ขนมปังแก่กัน แต่อย่ากัดกินจากก้อนเดียวกัน

จงร้องและเริงรำด้วยกัน และจงมีความบันเทิง

 

แต่ขอให้แต่ละคนได้มีโอกาสอยู่โดดเดี่ยว

 ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว

แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน

 

จงมอบดวงใจ แต่มิใช่ต่ออีกฝ่ายหนึ่ง

 เพราะพระหัตถ์แห่งชีวิตอมตะเท่านั้น ที่จะรับดวงใจของเธอไว้ได้

 

และจงยืนอยู่ด้วยกัน แต่ว่าอย่าใกล้กันนัก

เพราะว่าเสาของวิหารนั้น ก็ยืนอยู่ห่างกัน

และต้นโพธิ์ ต้นไทร ก็ไม่อาจเติบโตใต้ร่มเงาของกันได้...  

 

 

 

 

         ครับ  หลังจากอ่านการแต่งงาน ของ ท่านคาริล ยิบราน ผมมาสรุปเอาเองจากประสบการณ์ของผมว่าชีวิตคู่ของการแต่งงานที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน  เป็นชีวิตที่ควรจะต้องรักษาความพอดีระหว่างระยะในการอยู่ร่วมกันครับ  

    

        ควรจะต้องปล่อยให้มี  "ช่องว่าง" ในการอยู่ร่วมกันเอาไว้บ้าง ให้พอเหมาะพอควร นั่นคือ

 

      -    แต่ละฝ่าย  ต้องให้โอกาสแก่กันและกันบ้าง

                *   ในความเป็นส่วนตัว 

                *   ในความเป็นตัวของตัวเอง

                *   ในความมีอิสระ

                             

 

                     -    ต้องอยู่กันอย่าง "พวก"

                          *  พ      พอใจ

                          *  ว       ไว้ใจ

                          *  ก       เกรงใจ

 

          -   ผู้หญิงควรที่จะ

                      *  ปิดปาก    เสียบ้าง   พูดให้พอประมาณ

                       *  ปิดตา    เสียบ้าง   ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

 

 

            -   ผู้ชายควรที่จะ

                *  ปิดหู     เสียบ้าง  ทนฟังแล้วก็ทำใจไม่ได้ยิน

 

 

            -  ที่สำคัญ  คือ  สิ่งที่แต่ละฝ่ายต้องการ  คือ

               *  การรับฟังกัน

               *  การเข้าใจกัน

               *  การคุยกันด้วยความรัก ( ใช้เหตุผลคุยกัน ไม่พอครับ)

 

 

                ท่านผู้ใดจะเพิ่มเติมอีก ก็ขอเชิญครับ

              

 

หมายเลขบันทึก: 307103เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2009 10:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

สวัสดีค่ะ...ท่าน

สรุปได้ว่า

ประสบการณ์ของผมว่าชีวิตคู่ของการแต่งงานที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เป็นชีวิตที่ควรจะต้องรักษาความพอดีระหว่างระยะในการอยู่ร่วมกันครับ นั่นคือจะต้องปล่อยให้มี

"ช่องว่าง" ในการอยู่ร่วมกันเอาไว้บ้าง ให้พอเหมาะพอควร นั่นคือ

- แต่ละฝ่าย ต้องให้โอกาสแก่กันและกัน * ในความเป็นส่วนตัว *

ในความเป็นตัวของตัวเอง * ในความมีอิสระ

- ต้องอยู่กันอย่าง "พวก"

* พ พอใจ * ว ไว้ใจ * ก เกรงใจ

- ผู้หญิงควรที่จะ

* ปิดปาก เสียบ้าง พูดให้พอประมาณ * ปิดตา เสียบ้าง ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นบ้าง

- ผู้ชายควรที่จะ * ปิดหู เสียบ้าง ต้องทนรับฟังได้อย่างอดทน ทำเหมือนไม่ได้ยิน - ที่สำคัญ คือ สิ่งที่แต่ละฝ่ายต้องการ คือ * การรับฟังกัน * การเข้าใจกัน * การคุยกันด้วยความรัก ( ใช้เหตุผลคุยกัน ไม่พอครับ)

และ คงความรักกันเสมอต้นเสมอปลาย อีกนิดนะคะท่าน

มิน่าล่ะคะท่านรองฯ จึงไม่ยอมปล่อย ... อย่างนี้นี่เอง ปูชอบงานท่านคาลิล ยิบรานค่ะอ่านแต่เด็กไม่ค่อยเก็ท

จำได้เรื่องสายพิณ กับ ความรัก จงตามมันไป แม้มีขวากหนามเท่าใด จงยอม ตามมันไป ... ถึงตอนนี้บทนี้ก็ยังไม่เก็ทนะคะ ๕ ๕

งั้นปูยอมปล่อยไปก่อนนะคะ ... ป๋าอี๋มักพูดว่า หากอีกคนร้อน อีกคนต้องเย็น สลับกันค่ะ

 

 

ยอดเยี่ยมครับ นี่คือหัวใจของคู่แต่งงานจริงๆครับ

แต่ละฝ่ายมีพื้นฐานความคิดที่แตกต่างกันย่อมต้องให้พื้นที่และเข้าใจพื้นฐานแต่ละฝ่ายที่มีมาแต่เดิม

รับฟัง ให้เกียรติ และยกย่องให้แก่กันและกันครับ

สวัสดีค่ะ

ข้อคิดนี้ นอกจากใช้กับคู่ชีวิตแล้ว ก็ใช้ได้ดีกับ เพื่อนหรือญาติที่ต้องอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดกันค่ะ

เพราะยิ่งใกล้ชิด คุ้นเคย รักใคร่กันมาก มักจะลืมที่เว้น "ช่องว่าง" ให้กับคนที่เรารัก เราคุ้นเคยไปอย่างไม่ตั้งใจ....

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

อาจารย์ small man คะ

อ่านแล้วอยากแต่งงานค่ะ

ปรัชญาที่อ่านในบันทึกก็ดีนะคะ

เห็นภาพนี้แล้วชื่นใจค่ะ

cheer !!!

สวัสดีค่ะ...
ชอบบทนี้ค่ะ..."แต่ขอให้แต่ละคนได้มีโอกาสอยู่โดดเดี่ยว ดังเช่นสายพิณนั้น ต่างอยู่โดดเดี่ยว แต่ว่าสั่นสะเทือนด้วยทำนองดนตรีเดียวกัน"...เห็นด้วยค่ะว่าใช้เหตุผลยังไม่พอ...บางครั้งความรักไม่ต้องการเหตุผล...แต่ต้องการความเข้าใจมากกว่า นั่นคือมนุษย์ทุกคนต่างมีเหตุผลมากมายมากล่าวอ้าง และเหตุผลของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป...สำคัญคือหากต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับเหตุผลของกันและกัน แล้วจะเกิดอะไรขึ้น...ดังนั้น ความเข้าใจ จึงน่าจะดำรงความรักให้คงอยู่ เพราะถ้าทั้งสองเข้าใจกันแล้วทุกอย่างย่อมไม่เป็นปัญหา
ขอบพระคุณมากค่ะ...

จะมีโอกาสเหลือสำหรับเราไหมนี่...เฮ้อ... มีน้องสาวคนนึงสอนว่า ตี้ใดมีฮักตี้นั่นมีทุกข์ แต้ๆ นา..ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆค่ะ

ขอบคุณท่านรอง Small Man สำหรับข้อคิดชีวิตสำหรับคู่รัก....ที่จะครองรักแบบชั่วนิจนิรันดร์

ช่องว่างที่เว้นไว้ อย่าให้ห่างเกินไปนะคะ  พองาม...อิอิ

น่าจะมีการให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วยนะค่ะ ส่วนใหญ่พอแต่งงานแล้ว ชอบนึกว่าเธอเป็นของฉันแล้ว ห้ามทำโน่น ห้ามทำนี้

เป็นเจ้าชีวิตเสียทุกอย่าง จึงทำให้อีกฝ่ายเบื่อ รำคาญ เขาว่าการแต่งงานเปรียบเสมือนการซื้อล็อตเตอรี่ ว่าใครจะถูกรางวัลที่เท่าไรเท่านั้นเอง แต่สำหรับตัวดิฉันเองคิดว่าน่าจะ OK. ค่ะ ไม่ต้องถูกรางวัลที่เท่าไรหรอก ทุกวันนี้มีความสุข และก็สุข ก็พอแล้วค่ะ...

มันเป็นการยากนะค่ะสำหรับบางคู่ แต่มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับครอบครัวของเราค่ะ...เคยฟังเพลง...อิจฉา...ไหมค่ะ

ครับ...

ในหนังสือของญี่ปุ่นเล่มหนึ่งกล่าวในทำนองว่า การแต่งงาน เป็นเสมือนบึงใหญ่ที่ใครๆ ก็ปรารถนาที่จะกระโจนลงไป...

...

ระหว่างเราสองคน
ยิ่งแก่เฒ่า
ความรัก ยิ่งเป็นเงา..ติดตามตัว

ขอบคุณครับ

แต่งงานแล้วครับ

เอาหลักฐานมายืนยันครับ

 



  

Pอาจารย์JJครับ

     ธรรมะจากหลวงปู้ดุลย์   เป็นมงคลแก่บันทึกของผมมากเลยครับ

                            ขอบคุณครับ

Pครูอี๊ดครับ

    คงความเสมอต้นเสอปลาย  =  สมานัตตา

                  ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยเสริมเติมเต็มเข้ามา ดีมากครับ

Pคุณpooครับ

     คาริล ยิบราน  ผมอ่านมานานแล้วครับ   แต่อ่านแล้วก็เฉยๆ    ไม่ค่อยทราบว่าเขาหมายถึงอะไร  ไม่เก็ทเหมือนกันครับ

    วันสองวันมานี่  ลองนำมาอ่านอีกที  นำประสบการณ์มาตีความ   ก็เก็ทมานิดหน่อย

                   ขอบคุณครับ

Pคุณสมาร์ทครับ

         รับฟัง ให้เกียรติ และยกย่องให้แก่กันและกัน

               ขอบคุณมากครับ

  

Pคุณคนไม่มีรากครับ    ดีมากเลยครับ

*    ใช้ได้ดีกับ เพื่อนหรือญาติที่ต้องอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดกัน

*    เพราะยิ่งใกล้ชิด คุ้นเคย รักใคร่กันมาก มักจะลืมที่เว้น "ช่องว่าง" ให้กับคนที่เรารัก เราคุ้นเคยไปอย่างไม่ตั้งใจ....

      ขอบคุณมากครับ  สำหรับการเสริมเติมเต็ม  ที่มีคุณค่าชีวิตมากๆ

                                            ขอบคุณมากครับ

 

Pครูจิ๋วครับ

     การแต่งงาน.....เสี่ยงเหมือนกันนะครับ

                        ขอบคุณครับ

Pอาจารย์ Vijครับ

*    ความรักไม่ต้องการเหตุผล...แต่ต้องการความเข้าใจมากกว่า

*    มนุษย์ทุกคนต่างมีเหตุผลมากมายมากล่าวอ้าง และเหตุผลของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป

*   หากต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับเหตุผลของกันและกัน แล้วจะเกิดอะไรขึ้น

*   ความเข้าใจ จึงน่าจะดำรงความรักให้คงอยู่ เพราะถ้าทั้งสองเข้าใจกันแล้วทุกอย่างย่อมไม่เป็นปัญหา

       อาจารย์น่าจะลองเขียนประเด็นนี้ขยายความต่อไปอีกนะครับ   ชอบครับ

  

Pคุณมนัสนันท์ครับ

   ตี้ใดมีฮักตี้นั่นมีทุกข์

           ก็ต้องยอมทุกข์ครับ   เพื่อให้มีรัก

                          ขอบคุณครับ

Pขอบคุณคุณnoktalayครับ ที่เข้ามาเยี่ยมชม

Pคุณkumfunครับ

    ช่องว่าง  ก็คงให้มีแต่พองามครับ   ไม่มีเลยก็ไม่ได้  มากไปก็จะเลยเถิด

                    ขอบคุณมากครับ

Pคุณบุษยมาศครับ

*   พอแต่งงานแล้ว ชอบนึกว่าเธอเป็นของฉันแล้ว ห้ามทำโน่น ห้ามทำนี้ เป็นเจ้าชีวิตเสียทุกอย่าง

*  จึงทำให้อีกฝ่ายเบื่อ รำคาญ

     นี่แหละครับ จึงต้องมีช่องว่างให้แต่ละฝ่ายเป็นตัวของตัวเองบ้าง...  พอประมาณ

                            ขอบคุณครับ

  

Pอาจารย์แผ่นดินครับ   ผมประทับใจตรงนี้มากเลยครับ

ระหว่างเราสองคน
ยิ่งแก่เฒ่า
ความรัก ยิ่งเป็นเงา..ติดตามตัว

                       ขอบคุณครับ

  

Pคุณหนานเกียรติครับ

   การ์ดแต่งงาน ไอเดียบรรเจิดมากเลยครับ

                          ขอบคุณครับ 

สวัสดีค่ะท่านรอง

อิอิอิ  ไม่มีประสบการณ์ จึงมาเรียนรู้ค่ะ  เพื่อจะมีมาแบบ

หนังเรื่อง...รถไฟฟ้ามาหานะเธอ...แบบว่าโปรดส่งใครมารักฉันที...นะคะ  อิอิ

ขอบคุณค่ะท่านรอง...^_^

Pคุณเทียนน้อยครับ

   ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเรียนรู้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท