การศึกษาเพื่อความเป็นไท สไตล์ซัมเมอร์ฮิลล์( ตอนที่ 2) เด็กที่ไม่มีเสรีภาพ


การให้การศึกษาที่ไม่มีเสรีภาพต่อเด็ก จะมีผลต่อชีวิตของเขา เพราะทำให้เขาไม่สามารถจะใช้ชีวิตของเขาได้ทั้งหมดเท่าที่เขาต้องการ

       ตอนที่ 2 นี่ จะว่าด้วยเรื่องของการไม่มีเสรีภาพของเด็ก หรือ เด็กที่ไม่มีความเป็นไท   ดังนี้ครับ

 

.............................

 

     *  เด็กที่ถูกกดทับเอาไว้มีอยู่ทุกมุมโลก เขาเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายและมีแนวโน้มที่จะกลัวทุกคนที่มีอำนาจ  เขาเป็นคนที่หวั่นไหวในคำวิพากษ์วิจารณ์ และมีความปรารถนาเป็นที่สึดที่จะเป็นคนปกติที่มีระเบียบและทำอะไรต่างๆได้อย่างถูกต้อง เขารับคำสั่งสอนทุกอย่างโดยไม่มีการตั้งคำถามว่าเพราะอะไร และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่ เขาก็ถ่ายทอดความกลัวความวิตกกังวลและ "ปม" ต่างๆมาให้ลูกหลานของเขาด้วยการอบรมสั่งสอนต่อไปอีก

 

 

      * การให้การศึกษาที่ไม่มีเสรีภาพต่อเด็ก จะมีผลต่อชีวิตของเขา เพราะทำให้เขาไม่สามารถจะใช้ชีวิตของเขาได้ทั้งหมดเท่าที่เขาต้องการ การศึกษาที่ว่านี้ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่อง "อารมณ์" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต และเพราะว่าอารมณ์เป็นเรื่องที่อ่อนไหว ดังนั้นเมื่อเขาไม่มีโอกาสจะแสดงมันออกมาได้ ผลก็คือ ความรู้สึกเกลียดชังต่างๆ การศึกษาจึงเป็นเพียงการให้ทางสมองเท่านั้น 

 

      * เด็กที่ถูกเฆี่ยนตี ก็จะมีลักษณะเหมือนสุนัขที่ถูกเฆี่ยนตี นั่นคือ จะเติบโตขึ้นมาเป็นคนหรือสัตว์ที่เชื่อฟังและหัวอ่อน

 

        *  ผู้ใหญ่กำหนดวิธีการเลี้ยงดูลูกที่จะอำนวยให้ผู้ใหญ่สามารถมีชีวิตสงบสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยเหตุนี้ เรื่องที่สำคัญในการเลี่ยงดูเด็ก จึงหนีไม่พ้นการเชื่อฟัง  ความมีมรรยาทเรียบร้อย และ ความอ่อนน้อมถ่อมตน

 

         *  เด็กถูกเลี้ยงดูให้แข็งกระด้างด้วยเหตุความเกลีบดชังนับตั้งแต่วัยแรกเกิดที่เดียว เขาถูกเลี้ยงดูให้มีความคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อชีวิต ให้รู้จักคำว่า "อย่า" มาเกือบตลอดเวลา  "อย่าส่งเสียงดัง"  "อย่าโกหก"   แต่ถ้าเขาถูกสั่งให้ "ทำ" ก็มักจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าทำทั้งสิ้น เช่น "จงเคารพผู้ใหญ่"  "จงเคารพครูบาอาจารย์"  "จงเชื่อฟังคำสั่งสอน"

 

 

         *  ความจริงแล้วเราไม่มีเด็กที่มีปัญหา หากแต่เรามีพ่อแม่ที่มีปัญหา

 

                             

              .......................

 

       ครับทั้งหมดนั้นก็เป็นข้อเขียนว่าด้วยเด็กที่ไม่มีเสรีภาพของซัมเมอร์ฮิลล์  ผมอ่านดูแล้ว ช่างคล้ายคลึงกับสภาพของเด็กไทย  ทั้งการอบรมเลี่ยงดูที่บ้าน  และ การจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน

 

      นั่นคือ ทั้งครอบครัว และ โรงเรียน  มักจะเน้นให้เด็ก  "เรียบร้อยสงบสยบยอม"   เป็นเด็กที่เซื่องๆ  คิดไม่เป็น ทำไม่เป็น แก้ปัญหาไม่เป็น ต้องรอคอยคำสั่งจาก "ผู้ใหญ่" หรือ "ครู"  ว่าจะคิดอย่างไร ทำอย่างไร

 

       โดยไม่ใส่ใจใน  "อารมณ์"  และ "ความต้องการ" ของเด็ก

 

        เป็นการศึกษาที่ไม่เป็น "ไท" ครับ

 

        เด็กไทยส่วนใหญ่ ได้รับการเลี้ยงดูมาแบบ "เรียบร้อยสงบสยบยอม" มาจากทางบ้านแล้ว   คุณครูก็คงจะต้องช่วยกันแก้ "ปม" ดังกล่าวของเด็ก ให้มีความเป็น "ไท" หลุดจากภาวะ "เรียบร้อยสงบสยบยอม"  เพื่อให้เด็กมีชีวิตที่มีเสรีภาพ  เป็นชีวิตที่เบิกบานแจ่มใส ด้วยจิตใจ ปัญญา และ อารมณ์

 

       แทนที่จะมัดปม "เรียบร้อยสงบสยบยอม"  ให้แน่นขึ้นไปอีก

 

คำสำคัญ (Tags): #ครูเพื่อศิษย์
หมายเลขบันทึก: 315627เขียนเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2009 08:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

เรียนท่านอาจารย์ small man

  • บางที "ผู้ใหญ่ ก็ โดน กดทับ และ กดดัน เลย ไม่เกิดการเรียนรู้ ในองค์กร ครับ"

Pอาจารย์JJครับ

               "ผู้ใหญ่โดนกดทับและกดดัน" 

      จากประสบการณ์ที่ผมผ่านมา   ก็มักจะเป็นแบบนั้นครับ

      ผมเคยตั้งวงไดอะหล็อกในโรงเรียนสองครั้ง(ตอนผมเป็นผู้บริหารโรงเรียน)  ไม่ประสบผลสำเร็จครับ

      ขึ่นมาอยู่บนสำนักงาน เกริ่นๆไปว่าจะลองตั้งวงไดอะหลอ็กดู   โดยผมบอกหลักการไปให้กับเจ้าหน้าที่บางคนทราบ   เจ้าหน้าที่บอกว่าหลักการดีแต่ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่ไปแบบนี้แหละ   มีอะไรก็สั่งมา

                 ขอบคุณครับ

เราไม่มีด็กที่มีปัญหา แต่เรามีพ่อแม่ที่มีปัญหา

เห็นทีจะจริงค่ะ

คุณหมอเจเจ มาไวค่ะ จองไม่ทันค่ะ

ขอขอบคุณ ท่านน่ะค่ะที่เข้ามาเยี่ยม เพื่อนครูด้วยกันค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ small man

"การกดทับ "ไม่ว่าจะใช้กับอะไรมันก็ไม่มีอิสระเต็มที่ทั้งนั้น

 ดูอย่างต้นไม้ถ้าเราจำกัดมันให้อยู่ในกระถางเล็กมันก็โตได้ยาก

 บางพันธ์ก็ให้ขึ้นเลื้อยตามที่ต้องการของคนเป็นรูปต่าง

มันเองก็คงอึดอัดแต่พูดไม่ได้แค่นั้นเองค่ะ

เด็กจะเดินไปในทางที่ดีหรือไม่ดี...อยู่ที่คนนำทางค่ะ..ว่าจะนำทางให้เด็กไปทางใด

สวัสดีค่ะ

มาอ่านตอน 2 ค่ะ

ข้อคิดอย่างหนึ่งซึ่งได้พบคือ.... การแก้ไข "ปม" ใดก็ตาม มักจะต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าเสมอค่ะ

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะท่ารองที่เคารพ

* มาอ่านต่อจากเมื่อวาน (พักเที่ยง...เลยมีแว๊บมา...)  การแก้ปม ต้องแก้อย่างเข้าใจและรู้ทันโลกปัจจุบัน รวมทั้งต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมากทีเดียว... คงต้องกล่าวคำเดิมๆ ว่า หากผู้ใหญ่ หรือพ่อไม่ ไม่เปิดใจ ยังยึดติดกับความคิดว่าต้องใช้การบังคับให้ "สยมยอม" การแก้ปมเห็นทีจะไม่ได้ผลนะคะ

* อยากให้พ่อแม่นำประเด็นนี้ไปขบคิดจังค่ะ "ความจริงแล้วเราไม่มีเด็กที่มีปัญหา หากแต่เรามีพ่อแม่ที่มีปัญหา"

* ท่านรองทานข้าวกลางวันหรือยังคะ  อร่อยมั้ยเอ่ย? อิ่มแล้วต่อด้วยกาแฟนะคะจะได้สดชื่นค่ะ

* ด้วยความเคารพค่ะ

Pคุณbeger0123ครับ

เราไม่มีด็กที่มีปัญหา แต่เรามีพ่อแม่ที่มีปัญหา

    ข้อความนี้ หลายๆคอลัมน์เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก นำไปเขียนอยู่บ่อยๆครับ

       ขอบคุณมากครับ

 

Pขอบคุณครูบันเทิงมากครับ

PคุณPepraครับ

    สังคมไทยเรามักเลี้ยงลูกแบบกดทับครับ เด็กเลยหงอไปหมด

                 ขอบคุณครับ

Pคุณnuchครับ

   มาพร้อมภาพเงาเคลื่อนไหวที่สวยงาม

                    ขอบคุณครับ

            

ทุกวันนี้มีเด็กที่มีเสรีภาพนะคะ

บางส่วนมากเกินไปด้วย..แต่ทั้งหมด

พ่อ-แม่ เป็นผู้กำหนดเอง

Pคุณคนไม่มีรากครับ

การแก้ไข "ปม" ใดก็ตาม มักจะต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าเสมอ

       ผมก็ว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับ เพราะสะสมมานาน  คงจะต้องเหนื่อยกันหน่อยนะครับ คุณครู

                  ขอบคุณครับ

  

Pครูใจดีครับ

 การแก้ปม ต้องแก้อย่างเข้าใจและรู้ทันโลกปัจจุบัน รวมทั้งต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก

       (ต้องใช้ความอดทนอย่างมากๆๆๆครับ)

 

*    หากผู้ใหญ่ หรือพ่อไม่ ไม่เปิดใจ ยังยึดติดกับความคิดว่าต้องใช้การบังคับให้ "สยบยอม" การแก้ปมเห็นทีจะไม่ได้ผล

     (ครับ ต้องแก้ที่พ่อแม่ครับ)

* อยากให้พ่อแม่นำประเด็นนี้ไปขบคิดจังค่ะ "ความจริงแล้วเราไม่มีเด็กที่มีปัญหา หากแต่เรามีพ่อแม่ที่มีปัญหา"  

    (พ่อแม่ คงไม่ยอมรับหรอกนะครับ)

   ขอบคุณกาแฟที่มีควันสวยๆครับ

Pครู ป 1 ครับ

    เสรีภาพแบบซัมเมอร์ฮิลล์  มีขอบเขตอยู่นะครับ และ เสรีภาพ ก็ไม่ใช่การตามใจ

                     ขอบคุณครับ

  • แวะมาอ่านข้อคิดดี ๆ ค่ะ  เด็กเมืองไหน แขก ไทย ฝรั่ง
    ต่างก็มีความรู้สึกรักเสรีภาพ  รักการแสดงออก  หากผู้ใหญ่เปิดโอกาส
  • พลังของเด็กมีมากมาย  บ่อยครั้งที่ถูกผู้ใหญ่สกัดกั้นน่าเสียดายไม่น้อย
  • ขอบพระคุณข้อเขียนดี ๆ ที่แบ่งปันค่ะ

Pคุณธรรมทิพย์ครับ

 *  เด็กเมืองไหน แขก ไทย ฝรั่ง
ต่างก็มีความรู้สึกรักเสรีภาพ  รักการแสดงออก  หากผู้ใหญ่เปิดโอกาส

    ( เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ ไม่เฉพาะเด็กไทย)

 *  พลังของเด็กมีมากมาย  บ่อยครั้งที่ถูกผู้ใหญ่สกัดกั้นน่าเสียดายไม่น้อย

*    (และก็ยังเป็นอยู่ครับ)

    ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยม

   

เยี่ยมค่ะท่าน  โดนใจและตรงใจด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท