๖. ฤดูกาลชีวิต : พลังความพอเพียงต่อธรรมชาติ


"เป็นการทำให้เรียนรู้ที่จะอยู่กับความเป็นปัจจุบันให้ดีและถูกต้องที่สุด"

ฤดูฝนและฝนตกดูจะเป็นธรรมชาติกับฤดูกาลที่มีความหมายต่อทุกอย่างของชาวบ้านมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อกำลังผ่านหน้าแล้ง ฝนตกหน้าแล้งก่อนจะข้ามฤดูกาลไปสู่หน้าฝนที่จะนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ทุกอย่างทั้งน้ำท่าและข้าวปลาอาหารนั้น เป็นสิ่งที่กำกับเราให้ขวนขวายไปรองน้ำฝนใส่โอ่งเพื่อใช้ดื่มกินและเก็บไว้ใช้จนถึงฤดูฝนถัดไป

                          

การรองน้ำฝนในตอนกลางวันจะเป็นเรื่องสนุก แต่ในระยะที่ต้องมีหลักประกันการมีน้ำดื่มกินให้ถึงฤดูฝนนั้น ไม่ว่าฝนจะตกลงมาตอนไหน พ่อและพวกผมก็จะต้องลุกขึ้นมารองน้ำฝน แม้จะหนาวและขี้เกียจอย่างไรก็ต้องไม่รีรอ เพราะเรารู้ไม่ได้ว่าฝนจะตกมากน้อย หรือจะตกอีกเมื่อไหร่ เป็นการทำให้เรียนรู้ที่จะอยู่กับความเป็นปัจจุบันให้ดีและถูกต้องที่สุด

หากเป็นตอนกลางวัน  พวกผมก็จะออกไปเล่นน้ำฝนกลางชานบ้าน ขัดพื้น และยืนแหงนหน้ารับน้ำฝน เป็นที่สนุกสนาน สลับกับต้องช่วยกันอย่างแข่งกับฝนตก บ้างก็กวาดและล้างใบไผ่และใบไม้จากรางน้ำ บ้างก็ล้างโอ่ง เสร็จแล้วก็ใช้รองน้ำฝนโดยคว่ำทีละโอ่งเพื่อไม่ให้เป็นการเทน้ำเก่าทิ้งแล้วกลายเป็นฝนตกแล้วหยุด เหลือแต่โอ่งเปล่า

ชาวชนบทในอดีต มีความเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด ทุกอย่างดำเนินไปกับฤดูกาลและกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ มนุษย์ต้องปรับตัวให้สอดคล้องและขึ้นต่อธรรมชาติ ดังนั้น กระบวนการทางสังคมกับการดำเนินไปของธรรมชาติก็จะมีความเกี่ยวเนื่อง เชื่อมโยง และสื่อสะท้อนซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด

ในวัฒนธรรมของชุมชนอิสาน มีหลักฮีตสิบสองกับคองสิบสี่   ฮีตสิบสอง เป็นการทำบุญต่างๆในแต่ละเดือน ๑๒ เดือน ของ ๓ ฤดูกาลและรอบ ๑ ปี เพื่อบ่มเพาะจริยธรรม คุณธรรม และความดีงามของผู้คนและชุมชนให้มีความงอกงามเป็นปรกติสุข ส่วนคองสิบสี่ ก็เป็นข้อห้ามและสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ ซึ่งเมื่อพิจารณาลงไปในสาระสำคัญแล้ว ก็จะเห็นถึงการมีธรรมชาติและฤดูกาลเป็นเหตุผล 

ฤดูกาลชีวิต จึงเป็นการเรียนรู้พอเพียงที่จะอยู่อย่างสอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ.

หมายเลขบันทึก: 290168เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2009 04:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีค่ะ

ชอบภาพลายเส้นของอาจารย์จัง มีชีวิตชีวาดีค่ะ

แถมได้อ่านเรื่องราวธรรมชาติอีก

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เจริญพรโยมอาจารย์วิรัตน์และผู้อ่านทุกท่าน

  • ดีใจจะได้วิ่งเล่นฝ่าสายฝนกลางลานแจ้งที่ลานบ้าน
  • เตรียมตัมไม้ในป่ามาเผาถ่านไว้ใช้ตอนหน้านาและตลอดปี
  • จะได้ปลูกผัก ต่าง ๆ มีฟักทองเป็นอาทิที่สวนในบ้าน
  • วัวควายจะมีเมนูอร่อยคือหญ้าอ่อนที่ระบัดเขียวเต็มท้องทุ่งอีกครั้ง
  • ได้เตรียมตัวออกไถดะนาเริ่มต้นแห่งการทำกินของชาวบ้าน
  • ในท้องนาก็จะคึกคักไม่เงียบเหงาเหมือนหน้าแล้ง

ขอเจริญพร

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

  • สวัสดีวันหยุดครับคุณณัฐรดา
  • มีความสุขนะครับ

กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)ครับ

  • ได้รำลึกและทบทวนชีวิตความเป็นมาไปด้วยเลยนะครับ
  • แต่เดิมผมเข้าใจว่าพระคุณเจ้าเป็นรุ่น ๕๐-๖๐ ปีแล้ว แต่พอทราบว่าช่วงปี ๒๕๒๒ พระคุณเจ้าอยู่ ป. ๓  หากหมายถึงชั้นประถมศึกษา ๓ ไม่ใช่เปรีญ ๓ ก็คงเป็นคนรุ่นใหม่ รุ่นน้องผมกว่า ๑๐ ปีเลยนะครับ 

กราบนมัสการด้วยความเคารพ

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เจริญพรโยมอาจารย์วิรัตน์

  • ปี ๒๕๒๒ นี่หน้าน้ำเป็นนาคนอนอยู่วัดหนองกลับ
  • หน้าแล้ง ๒๕๒๓ ก็บวช ฉะนั้นปีหน้าก็ครบครึ่งศตวรรษโบราณว่าครึ่งคนพอดี (ว่าจะไม่บอกแล้วนะเนี่ย)
  • คิดว่าห่างอาจารย์หนึ่งปี ( ๒๕๐๓) ปีเดียวกับโรงเรียนหนองบัว-หนองคอก
  • ปี ๒๕๒๑-๒๒ หนองบัวแล้งมากไปเผาถ่านบ้านเขานางต่วมตำบลธารทหาร

ขอเจริญพร

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

  • ได้พรรษามากเลยนะครับ ขออนุโมทนาอย่างยิ่งครับ
  • เขานางต่วมและธารทหารในช่วงนั้นสำหรับผมนี่ รู้สึกว่ามันไกลและยังไปยากอยู่เลยนะครับ
  • แต่ก็มีเพื่อนๆหลายคนมาจากธารทหารและเขานางต่วมครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพ 

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์ วิรัตน์ คำศรีจันทร์

  • 'หน้าฝน' สำหรับคนเมืองหลวง เป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุด
  • ฝนตก สิ่งที่ตามมาก็คือ รถติด
  • ฝนตก แบบไม่ลืมหู ลืมตา หล่ะก็ สิ่งที่ตามมาก็คือ น้ำท่วม ยิ่งไปกันใหญ่
  • ฝนตก เฉอะเฉะ จะไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวก
  • คนเมืองหลวง ไปทำงานสาย จะมีข้ออ้างอยู่ไม่กี่ข้อ ข้อนึงที่เป็นที่ฮิดตติดปาก ก็คือ "ฝนตก รถติด"
  • แต่ ฝนตก เป็นสิ่งที่มีความหมายมากมายกับชาวนา
  • น้ำฝน เป็นสิ่งที่มีความหมายมากๆ สำหรับชาวบ้าน
  • การอยู่ให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติได้มากที่สุด คือการยอมรับ แต่ทุกวันนี้คนเมืองหลวงอยู่กับหน้าฝนยังคงไม่เป็นสุขหรอกค่ะ (คิดเอง ๘๐% ฮ่า ฮ่า)
  • แต่คนเมืองคนนี้ชอบกลิ่นฝน กลิ่นดินหลังฝนตกนะค่ะ ^^
  • ขอแถมรุ้งตัวอ้วนๆ สวยๆ ที่ในเมืองคงมองไม่ค่อยเห็นเพราะโดนตึกบังหมดค่ะ ....
  • กลิ่นดินนี่หอมและให้พลังชีวิตเป็นที่สุดครับ
  • ยิ่งในปีไหน ที่มีหน้าร้อน-แล้ง ในวันที่มีฝนตกครั้งแรก หากเป็นกลางวันที่แผ่นดินกำลังร้อน ก็จะหอมกลิ่นดินและได้ไออุ่นของผืนดิน เหมือนแผ่นดินถอนหายใจคลายร้อน
  • รูปรุ้งของคนเมืองนี่ช่างน่าสงสาร และทรมานสายตาคนดูจริงๆเลยเนาะอาจารย์ณัฐพัชร์ กว่าจะเห็นว่าอยู่ตรงไหนก็ต้องจินตนาการกันตาถลนเลยหนาเนี่ย 
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เจริญพรโยมอาจารย์วิรัตน์และผู้อ่านทุกท่าน

  • อาจารย์ณัฐพัชร์กล่าวถึงหน้าฝน ฝนตก ในเมืองหลวง
  • แต่ที่บ้านนอกหนองบัวนครสวรรค์ปีนี้เหมือนหน้าแล้งเลย
  • พอดีวันนี้ได้ทราบข่าวจากญาติที่หนองบัวว่า ปีนี้แล้งอย่างมาก
  • ญาติบอกว่าตอนนี้ข้าวในนาขาดน้ำเริ่มเหี่ยวจะตายคาทุ่งอยู่แล้ว
  • ถ้าฝนไม่ตกอีกสักระยะ ไม่รู้จะได้กินไหม(เก็บเกี่ยว)
  • แห่พระก็แล้ว แห่นางแมวก็แล้วฝนก็ยังไม่ตกอีก
  • ชาวนา ทำนาปีเหลือแต่หนี้ กับซัง ทำนาปรัง เหลือแต่ซัง กับหนี้ มีแต่ความจนยาก ทำจนหมดนา หมดเนื้อ หมดตัว หมดตังค์ จะหมดทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ที่ไม่หมดสักกะที คือ หนี้ไม่ยอมหมด.

ขอเจริญพร

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

  • แถวหนองบัวและบริเวณใกล้เคียงเดี๋ยวนี้ มีตรงไหนทำนาปรังบ้างไหมครับ
  • เมื่อก่อนพอหมดหน้าทำนา หลายแห่งทำไร่ถั่ว แตงโม ฝ้าย ข้าวฟ่างฯ เดียวนี้พอทำได้ หรือทำเพิ่มมากกว่าเดิมไหมครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพ

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เจริญพรโยมอาจารย์วิรัตน์และผู้อ่านทุกท่าน

นาปรังหนองบัว

วันนี้อาตมาภาพได้ข้อมูลเกี่ยวกับนาปรังที่หนองบัวมาจากคุณเสวก ใยอินทร์ อีกเช่นเคย หลวงอาขออนุโมทนาขอบคุณ คุณเสวกอย่างมากเลยนะ  ฉะนันก็เลยขอนำมาฝากอาจารย์และทุกท่านดังต่อไปนี้

  • หนองบัวเราระบบการส่งน้ำจากฝายชลประทานยังไม่มี มีแต่ห้วยหนองคลองคู เหมาะที่สุดคือการทำนาปี
  • การทำนาปรังนั้นเพิ่งเริ่มทำกันเมื่อสองสามปีนี้เอง ชาวหนองบัวที่มีทำกันก็แถว ป่ารัง คลองห้วยถั่ว(เขตใกล้หมู่บ้านห้วยน้ำโจน) การทำนาปรังจะทำกันปีละสองครั้ง ขึ้นอยู่กับว่านาใครจะอยู่ติดคลอง
  • จะดูจากปริมาณของน้ำในคลองว่ามากน้อยเพียงใด ก็ทำกันประมาณ 10 ไร่ต่อคน ปีก่อน ๆ ได้ผลผลิตดี แต่พอมาปีนี้ นาฝนแล้งน้ำในคลองแห้งขอด ไม่มีน้ำสูบเข้านา
  • ทั้งนาปรังนาปีร่อแร่ลมตาย ฝนตกบ้าง แต่ก็ไม่ทั่วฟ้า ได้แค่พรมให้ข้าวอยู่ได้พอประทัง นี่ก็ใกล้ออกพรรษาแล้ว ข้าวจะตั้งท้องได้อย่างไรถ้าไม่มีน้ำ
  • แม้แต่หน่อไม้ตามเขาที่เคยไปหากันก็ยังไม่มีใครพูดถึง ได้แต่ไปรับจ้างกันขุดมัน ไปหักข้าวโพดในดงบ้าง  ไร่นาไม่มีใครอยากไป เพราะไม่อยากเห็นสภาพต้นข้าวที่คอยฝน
  • สวดขอฝนก็แล้ว แห่หวงพ่อเดิมหลวงพ่ออ๋อยก็แล้ว แห่นางแมวกันจนแมวขนร่วงก็ยังไม่มีทีท่าว่าฝนจะตกลงมา
  • เมื่อปีก่อนน้ำท่วมข้าวกำลังจะเกี่ยวข้าวเน่า มาปีนี้ฝนแล้งทิ้งช่วง ได้ข่าวจากทางเพื่อน ๆ ที่ทำนาปรังแถว ๆ ป่ารัง 10 ไร่ ได้แค่ ไม่ถึง 2 เล่มปีนี้ขาดทุนกันเป็นแถบ.

 

ขอเจริญพร

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

ฤดูฝนชุ่มฉ่ำเขียนขจี พืชพรรณมากมีอุดมสมบรูณ์ และก็เป็นช่วงที่ครูอ้อยเดินทางด้วยเท้ามาขึ้นรถมากที่สุดคือเกือบตลอดฤดูเลยก็ว่าได้ ด้วยว่ารถจักรยานไม่สามารถขี่ออกมาได้ถนนเป็นดินเหนียวค่ะ..

 

  • กราบขอบพระคุณ พระคุณเจ้าอย่างยิ่งครับที่อุตส่าห์นำข้อมูลการทำนาปรังในหนองบัวมาแบ่งปัน
  • แถวบ้านผม ที่บ้านตาลิน บ้านห้วยถั่ว และบ้านสว่างอารมณ์หรือบ้านเหนือ มีการทำคลองชลประทานโดยขุดลอกคลองดั้งเดิมซึ่งเคยขุดลอกมาครั้งหนึ่งในยุคคลองคึกฤทธิ์(ในช่วง๒๕๑๘-๒๕๒๕) และเห็นชาวบ้านบอกว่าทางกรมชลจะค่อยๆขุดไปให้ตลอดแนว เชื่อมโยงจากแม่น้ำและประตูน้ำจากบางมูลนาค จังหวัดพิจิตร กับชุมชนห้วยถั่วใต้
  • ผมเคยประสานงานให้คนท้องถิ่นกับเครือข่ายประชาคมนครสวรรค์จัดเวทีสาธารณะคุยกันเรื่องนี้ หากได้คุยและหารือกันอยู่เสมอๆ ก็คงจะทำให้เกิดแนวคิดและแนวทางได้การสนับสนุนจากหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องให้หนองบัวแก้ปัญหาเรื่องน้ำและชลประทานที่ดีมากยิ่งๆขึ้นได้นะครับ
  • เมื่อก่อน ผมเคยแต่แห่นางแมวขอฝน นี่เพิ่งทราบนะครับว่าหลวงพ่อเดิมกับหลวงพ่ออ๋อยก็ต้องให้ชาวสบ้านแห่ขอฝนด้วย

กราบนมัสการด้วยความเคารพ

  • มีน้องคนหนึ่งเป็นหมออนามัยที่ สอ.นราภิรมย์บางเลน เธออ่อนโยน ปราดเปรียว คล่องแคล่ว ปราดเปรียว และมีแขนดูกำยำ เรียนจบปริญญาโทแล้ว และบอกว่าเมื่อตอนเป็นเด็ก เธอขับเรือหางยาวไปเรียนแล้วก็เดินต่อตั้งแต่เด็กจนโต พอทำงาน ก็กลับไปบ้าน และขับเรือหางยางออกไปเยี่ยมชาวบ้าน สภาพคงคล้ายกับคุณครูอ้อยเล็กนะครับ 
  • อันที่จริงบ้านเรา หลายแห่งควรจะพัฒนาแม่น้ำคูคลอง ทั้งเพื่อการจัดการระบบชลประทานและพัฒนาการสัญจรทางเลือก ของคนในพื้นที่ต่างๆนะครับ

 

เช้านี้ฝนตก

อากาศสดชื่น

แบ่งปันมาให้พี่ชายค่ะ

       

                         กล้วยไม้เล่นน้ำฝน ที่บ้านค่ะ

                  

  • ขอบคุณครับคุณครูจุฑารัตน์
  • เป็นกล้วยไม้ที่สวยจัง สีอย่างนี้ไม่เคยเห็นเลย
  • เคยเห็นเหมือนกันแต่เขาเด็ดช่อดอกแล้วเอาไปแช่ในน้ำที่ใส่สี กล้วยไม้ก็จะดูดน้ำขึ้นไปเก็บไว้ในดอก กลายเป็นสีสันต่างๆนาๆ
  • วันนี้แถวที่พักพี่ก็ฝนตกปรอยๆครับ
  • อาจารย์ครับ

    เห็นข้อเขียนและภาพวาดลายเส้นแล้วอยากฝึกวาดภาพมากเลยครับ

    สวัสดีครับหนานเกียรติ

    • ใจชอบออกมาก่อนอย่างนี้แล้วก็ไม่ยากหรอกครับ ลองฝึกมือและดูงานในแนวที่ชอบเยอะๆเป็นคลังภาพในหัว จนคิดเป็นภาพได้ แล้วก็ฝึกมือให้ชำนาญ ก็จะทำได้ครับ
    • อันที่จริงหัดและฝึกฝนจากการใช้งานเลยก็ดีนะครับ มีตัวอย่างของคนแถวบ้านผม เขาอยากวาดรูปแล้วก็ลองวาดบันทึกข้อมูลท้องถิ่นมาเล่าถ่ายทอดเลย ลองดูที่นี่สิครับ
    • ที่นี่ก็เป็นงานที่คนวาดรูปและเขียนหนังสือ มาหัดวาดรูปสีน้ำ ตอนนี้ก็มีแฟนคลับและพิมพ์หนังสือเผยแพร่ผลงานกันได้แล้วครับ เป็นงานของคุณนิลสมัย ครับ

    ตามมาเยี่ยมชมค่ะอาจารย์....

    ครูทิบมาหาค่ะ..ครูทิบๆสบายดีนะคะ...ขอทักผ่านบล็อกอาจารย์วิรัตน์นะคะ..ขอบคุณค่ะ...

     

    • สวัสดีครับครูทิบ อ่านงานของคุณครูทิบในบล๊อกโอเคเนชั่นอยู่นะครับ
    • ขอบคุณคุณครูอ้อยเล็กครับ ชอบรูปนี้จัง 

    สวัสดีครับ อาจารย์ครับ

    ฤดูกาลชีวิต จึงเป็นการเรียนรู้พอเพียงที่จะอยู่อย่างสอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ

    อ่านบันทึกของอาจารย์บันทึกนี้แล้ว...เกิดพลังแห่งชีวิต สร้างพลังและกำลังใจในการทำงานที่ผมรัก..ที่จะทำจังเลย  ครับ

    ภาพนี้...ตอนเลี้ยงกบคอนโด

    กบเป็นสัตว์ ที่สะอาดเอามาก ๆ เลยครับ อาจารย์

    ควันบุหรี่ สารเคมี แปลกปลอมสัมผัสไม่ได้เลยครับ...การดายหญ้าข้างบ่อ จึงเป็นทางเลือกเดียวที่จะทำให้บ่อกบสะอาด

    ...

    มาเยี่ยมอาจารย์ก่อนกลับบ้าน ด้วยความระลึกถึง ครับ

     

    เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมก็ได้กลับบ้านที่สันป่าตอง เชียงใหม่ครับ
    ปีนี้พ่อตาแม่ยายและภรรยาผมพากันทำนาข้าวบนที่ ๘๐ กว่าตารางวา
    ทำพอไม่ให้ลืมว่าเราโตจากดินและเป็นชาวนา จะได้รู้ประมาณตนและไม่ลืมความทุกข์ยากของคนอื่น นี่ผมขอเอาข้าวที่สีแล้วมาหุงกินด้วย ๑ ถุงครับ

    มีความสุขและมีพลังชีวิตเสมอครับ

    เรียนอาจารย์วิรัตน์ค่ะ

    นึกถึงเพลงที่อ.บอกนะคะ have u ever seen the rain และอีกเพลงโปรด เป็นเพลงไทยค่ะ ชื่อ rain … rain falling my heart  อยู่ใต้ร่มเดียวกันวันฝนพรำ ... อยากให้ฝนตกนานๆ :)

    ชอบสายฝนมากๆ ก็ช่วงทำงานทางเหนือค่ะ เสียงฝนหล่นกระทบหลังคา ดังดนตรีหาฟังยาก ไม่หัวหมุน(เหมือนเพลงร็อคและใจไม่เต้นแรงเหมือนดื่มกาแฟด้วย)นะคะ  :)

    ถ้าอยู่บ้านใต้เวลาฝนพรำก็จะเอากะละมังมารับน้ำไว้ใช้ทำความสะอาดเอย ซักผ้าเอย ช่วงอยู่แม่สอด จำภาพติดตาระหว่างรอเพื่อนพี่น้องกลับมาพร้อมหน้า ทำกับข้าวกัน

    ย่ารหัสบอกว่า แค่ได้กลิ่นแดดอ่อนๆ หน้าร้อน หอมกลิ่นดิน หญ้าหน้าฝน ดอกไม้บานหน้าหนาว ว้าว แค่นี้ชีวิตก็สุขี ปูจำประโยคประมาณนี้ได้เลยค่ะ

    ขออนุญาตพร่ำพรรณา บ่นและรำลึกความหลังด้วยแสนสุขใจอีกแล้ว ขอบพระคุณค่ะ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท