อธิบายภาพ : ปกหน้า หนังสือ ดังลมหายใจ โดย วิรัตน์ คำศรีจันทร์ บรรณาธิการ : รุจิรา คำศรีจันทร์
อธิบายภาพ : ปกหลังนอก หนังสือ ดังลมหายใจ โดย วิรัตน์ คำศรีจันทร์ บรรณาธิการ : รุจิรา คำศรีจันทร์
รูปเล่มสำเร็จแล้ว ถ่ายภาพ : ขอยืมภาพมาจากอาจารย์ณัฐพัชร์ ทองคำ
ปีใหม่ไทย เทศกาลสงกรานต์ปี ๒๕๕๓ นี้ ผมทำของสำหรับไปกราบไหว้แม่และญาติพี่น้องเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง คือ ดังลมหายใจ ซึ่งตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มเขียนเผยแพร่ในเว็บล็อก GotoKnow เมื่อเดือนแห่งวันแม่ สิงหาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา นอกจากหนังสือนี้เขียนและมีคนเข้ามาพูดคุยเสวนาให้บรรยากาศกรุ่นไปด้วยความรักและความน้อมตนสู่ความรักที่เป็นสากลของผู้คนตลอดเดือนแห่งวันแม่ของสังคมไทยแล้ว ผมได้ขอให้ภรรยาผมเป็นบรรณาธิการ จัดเล่ม และทำกราฟิคศิลปะหนังสือ รวมทั้งขอพี่ๆน้องๆที่ทำงานด้วยกันมาในโอกาสต่างๆให้ช่วยเป็นกองบรรณาธิการ ฝากเป็นรอยมือและรอยใจลงในหนังสือคนละนิดละหน่อย
ต้นฉบับหนังสือเสร็จแล้วก็นำไปพิมพ์ที่โรงพิมพ์สุทินการพิมพ์(๒๕๒๔) ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผมขอกล่าวถึงทั้งด้วยความประทับใจและด้วยความซาบซึ้งใจอย่างที่สุด เนื่องจากทางโรงพิมพ์นั้น พอทราบเจตนาผมแล้วก็กุลีกุจออย่างไม่ใช่งานธุกิจทั่วไปของตนเอง ผู้จัดการสำนักพิมพ์เป็นคนอ่านหนังสือและเมื่อได้คุยกันหลังจากที่ผมไปรับงานที่เสร็จแล้วก็ทราบว่าเขาเป็นคนทำหนังสือมาก่อน ก่อนที่จะมาทำกิจการโรงพิมพ์ จึงเป็นคนรักหนังสือและศิลปะในหนังสือ เขาช่วยตรวจปรู๊ฟและดูหนังสือให้ผมอีกรอบ แล้วก็ให้ในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะมีใครเขาให้กันในลักษณะนี้ คือ เขาทำหน้าปกให้ผมอย่างพิเศษดีกว่าที่ผมจะสามารถทำได้เพราะแต่เดิมนั้นผมทำไปตามกำลังทรัพย์ เสร็จแล้วก็เคลือบพลาสติกให้ฟรีซึ่งทำให้หนังสืองดงามและมีคุณภาพมาก ยิ่งไปกว่านั้น เขาพิมพ์เพิ่มแถมให้ผมอีก ๑๐๐ เล่ม ทั้งหมดนี้ผมยังนึกไม่ออกว่าผมและครอบครัวจะมีโอกาสตอบแทนน้ำใจเขาอย่างไรนอกจากจะต้องรำลึกถึงอย่างไม่มีวันลืม
องค์ประกอบทั้งหมด ทำให้หนังสือ ดังลมหายใจ นี้มีเนื้อหาและความหมายเป็นพวงมาลากราบแม่ บุพการี และผู้เฒ่าผู้แก่ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๕๓ ของปีนี้ หนังสือเสร็จออกมาเป็นเล่มสมบูรณ์แล้ว สวยงามอย่างที่คิด เป็นพ็อคเก็ตบุ๊คขนาด เอ๕ พิมพ์ด้วยกระดาษถนอมสายตา ความหนา ๙๖ หน้า หน้าปก ๒ สีและเนื้อในสีเดียวมีภาพประกอบ กองบรรณาธิการประกอบด้วย ณัฐพัชร์ ทองคำ เริงวิชญ์ นิลโคตร กานต์ จันทวงษ์ สนั่น ไชยเสน ปรีชา ก้อนทอง
เรื่องราว ดังลมหายใจ ที่เขียนในบล็อกและที่สุดดึงออกมาทำเป็นหนังสือในชื่อเดียวกันกับบันทึกในบล๊อกนี้ ผมตั้งใจทำเพื่อให้มีความหมายต่อครอบครัว ญาติพี่น้อง และชุมชนบ้านเกิดหลายอย่าง ที่สำคัญคือ ต้องการให้ประสบการณ์เชิงสำนึกการปฏิวัติตนเองและจัดวางตนเองในอีกภาวะหนึ่งของชุมชนและญาติพี่น้อง นับแต่แม่ของผมเองไปจนกระทั่งคนเฒ่าคนแก่และญาติพี่น้องอีกหลายหมู่บ้านที่บ้านตาลิน อำเภอหนองบัว นครสวรรค์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับการศึกษาน้อยเพียง ป.๔ และป.๖ อ่านหนังสือไม่ออกและไม่คุ้นเคยกับการอ่านแล้ว
ผมจึงถือเป็นโอกาสให้ประสบการณ์ชาวบ้านซึ่งก็คือญาติพี่น้องและชุมชนซึ่งเหมือนกับเป็นตัวผมเอง เพื่อได้ความสำนึกและเห็นศักยภาพเชิงบวกอีกด้านหนึ่งของตนเองเพิ่มขึ้นมาอีกคือ เปลี่ยนฐานะจากคนบ้านนอก อ่านหนังสือไม่ออก ไกลห่างจากหนังสือและการอ่าน สู่การเข้าไปอยู่ในหนังสือ ได้ความสำนึกการเป็นเจ้าของความรู้ชุมชนของตนเองและเป็นเนื้อหาเรื่องราวในหนังสือเสียเอง ซึ่งการให้ประสบการณ์พร้อมกันของชุมชนในช่วงสงกรานต์อย่างนี้ จะเป็นประสบการณ์ที่มีความหมายต่อการเสริมสร้างทุนทางปัญญาให้กับชุมชนต่อไป
นอกจากนี้ ผมอยากพาญาติพี่น้องและลูกหลานหาความหมายใหม่ของการทำบุญสงกรานต์และการกลับบ้านนอก รวมทั้งจัดความสัมพันธ์กับคนเฒ่าคนแก่ บุพการี และญาติพี่น้องที่เราเคารพนับถือเสียใหม่ จากการทำพิธีกรรมที่เน้นความเป็นตัวบุคคล บุคลาธิษฐาน ความสนุกสนานสิ้นเปลือง รวมทั้งขาดสติจากการดื่มกินของมึนเมา ให้เป็นการพัฒนาเชิงสถาบันความเป็นครอบครัว สถาบันความเป็นผู้สูงอายุ รวมทั้งความเป็นชุมชน ทำกิจกรรมและเทศกาลเชิงพิธีกรรมให้เป็นโอกาสแห่งการเรียนรู้และสร้างประสบการณ์ที่เป็นทุนชีวิตให้กับตนเอง
ผมจะขนหนังสือนี้ไปร่วมกับแม่และพี่ๆน้องๆทำบุญวันสงกรานต์กับญาติพี่น้องและชาวบ้านในชุมชนที่เคารพนับถือกัน แล้วก็จะมอบหนังสือนี้ให้แม่ พร้อมกับให้แม่แจกจ่ายแก่ทุกคนที่มาร่วมงานไม่ว่าจะอ่านหนังสือออกหรือไม่ออก หนังสือนี้เขียนเป็นซีรี่ส์และมีรูปวาดให้ดู จึงเชื่อว่าแม้นไม่ต้องอ่านก็สามารถนั่งดูรูปให้เกิดหัวข้อพูดคุยและเรียนรู้ชุมชนตนเองสืบเนื่องไปได้.
ดีจังเลยครับ ได้เห็นหนังสือใหม่ของอาจารย์ กำลังเลือกหนังสือจากที่เขียนในบล็อกเหมือนกันครับ...
น่าประทับใจนะครับอาจารย์...
สวัสดีค่ะ
รักษาชาติ รักษาวัฒนธรรมอันดี
สาธุ
เรียน อาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ครับ
น้อมคารวะถึง"เจตนารมณ์" "ความพากเพียร" "ความงดงาม" และทุกสิ่งอย่าง ที่นำสู่การก่อกำเนิดเป็นหนังสือ "ดังลมหายใจ" เพื่อบูชา "พระคุณแห่งแม่" ครั้งนี้ครับ
คุณแม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา
คุณบิดรดุจอา- กาศกว้าง
คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ
คุณพระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร
โลกโลกนิติ
ให้ "ดังลมหายใจ" สื่อความแทนพวงมาลัยกราบแทบเท้า
ให้ "ดังลมหายใจ" ของอาจารย์มีความงดงาม ท่ามกลางกระแสของสังคม ที่ยังคงวิถีและอัตลักษณ์ที่ดีงาม
สวัสดีค่ะพี่ชาย อาจารย์ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์
สวัสดี ครับ อาจารย์วิรัตน์
ผมเข้ามารดน้ำขอพร อาจารย์ ในเทศกาลวันปีใหม่ของคนไทย
ด้วยความเคารพรักอาจารย์ ครับ
สวัสดีปีใหม่ไทยครับอาจารย์ขจิตครับ บันทึกประสบการณ์ของอาจารย์สามารถดึงออกมาทำหนังสือได้หลายเล่มเลยนะครับ ขอเป็นกำลังใจครับ
Blog to Book ทำ Socio-Cultural Activity ให้เป็น Reading and Learning Space
พอทำหนังสือเสร็จ ผมและภรรยาก็หอบเอาหนังสือกลับบ้านเกิดที่บ้านตาลิน ตำบลหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์เพื่อไปแจกแก่ญาติๆในโอกาสทำบุญวันสงกรานต์ พอไปถึงก็มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย กล่าวคือ ทุกๆปีนั้น แม่มักจะถือโอกาสทำบุญที่บ้านของเราด้วย แต่มาปีนี้ แม่และพี่ๆน้องๆของผมงดทำบุญที่บ้านแต่ไปร่วมทำบุญรวมกับชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆที่วัดของชุมชนเลย ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเพราะในหน้าเทศกาลอย่างนี้พระจะไม่พอ อีกทั้งหากเราจัดกิจกรรมทำบุญในวาระอย่างนี้ ญาติพี่น้องและลูกหลานที่กลับบ้าน ก็จะปลีกตัวไปกราบไหว้รดน้ำดำหัวญาติพี่น้องให้ทั่วถึงได้ยาก
ผมเลยไปร่วมทำบุญกับญาติพี่น้องและชาวบ้านที่วัด แล้วก็หอบเอาหนังสือเพื่อไปแจกจ่ายด้วย ผมขนไป ๒ ห่อซึ่งมีทั้งหมด ๑๒๐ เล่ม แจกจ่ายได้ไม่ทั่วถึง แต่ก็เกือบหมด เหลือแจกจ่ายให้แก่ญาติพี่น้องบ้างเล็กน้อย
หลังจากทำบุญที่วัด ในหมู่ญาติพี่น้องของผมก็ไปรวมตัวกันรดน้ำดำหัวคนเฒ่าคนแก่และญาติผู้ใหญ่
นอกจากบ้านเกิดที่หนองบัว นครสวรรค์แล้ว ที่บ้านของผมกับภรรยาที่สันป่าตอง เชียงใหม่ ญาติพี่น้องและลูกหลานของญาติๆทางฝ่ายภรรยาก็มีประเพณีตระเวนไปตามบ้านญาติผู้ใหญ่เพื่อรดน้ำดำหัว ก็เป็นโอกาสแจกจ่ายหนังสือเป็นสื่อแสดงความผูกพันและเคารพรักใคร่กันฉันญาติมิตร ผมได้เรียนรู้อย่างมีความสุขไปด้วยในการทำกิจกรรมที่เราทำไปตามปรกติให้มีมิติใหม่ๆเล็กๆน้อยๆกับหมู่ญาติพี่น้องซึ่งเป็นคนของเราเองและเป็นมิติความเป็นส่วนรวมที่ใกล้ตัวเราที่สุด.
หนังสือสวย งดงามด้วยเนื้อหา อัดแน่นด้วยภูมิปัญญาจริงค่ะพี่อาจารย์ดร.วิรัตน์..พรุ่งนี้รายงานตัวที่โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครปฐม ต.หนองขาหยั่ง อ.เมือง จ.นครปฐม 73000 ส่วนเว็บไซด์โรงเรียนกีฬาไวรัสรับประทาน คนให้เช่าพื้นที่ยังไม่แก้ไขให้ อ้อยต้องไปดำเนินการอย่างแรกเลย...ระลึกถึงเสมอค่ะ..
ศิลปะและลูกเล่นหนังสือในหนังสือ 'ดังลมหายใจ' : เครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยสร้างพลังการอ่าน
การทำหนังสือ เราสามารถสอดแทรกลูกเล่นและศิลปะการทำหนังสือเข้าไปในการจัดเล่มหนังสือ เพื่อสร้างศิลปะให้หนังสือและเสริมสร้างพลังการอ่านด้วยหลายแนวคิด
กระดาษและขนาดหนังสือ โดยปรติแล้ว การอ่านหนังสือของเรานั้น เราไม่ได้อ่านทุกตัวอักษร และในหมู่นักอ่านที่อ่านหนังสืออย่างเป็นนิสัยนั้น การอ่านไม่ใช่เป็นการถ่ายทอดความหมายจากตัวหนังสือและประโยคการเขียนที่อยู่ในหนังสือเท่านั้น ทว่า จะเป็นการสนทนากับหนังสือและใช้ประสบการณ์ภายในของผู้อ่านมาสร้างความหมายใหม่ๆให้เกิดขึ้นร่วมกับเนื้อหาของหนังสือด้วย ดังนั้น กระบวนการอ่านจึงเป็นการมองด้วยการสังเคราะห์และสรุปความหมายเป็นชุดๆตามประโยคและกลุ่มคำ ขนาดของเล่มหนังสือและการย่อหน้าหนังสือจะใช้หลักคิดนี้เพื่อจัดวางประโยคและกลุ่มคำให้ผู้อ่านกวาดสายตาเพียง ๒-๓ ครั้งสำหรับการได้แนวคิดย่อยในประโยคและกลุ่มคำหนึ่งๆ ซึ่งจะลงตัวที่ขนาดของหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ค เอ๕ และขนาดหนังสือ เอ๔ นั่นเอง
ประวัติหนังสือและรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือและกลุ่มคนที่ทำหนังสือนั้น นอกจากเป็นข้อมูลสำหรับการสืบค้นอย่างเป็นมาตรฐานแล้ว จะเป็นข้อมูลให้นักอ่านหนังสือได้ทราบข้อมูลสำหรับอ้างอิงไปถึงผลงานและบริบทที่รอบด้าน ทำให้ได้ประสบการณ์จากการอ่านอย่างลึกซึ้ง รอบด้าน และมีความเชื่อมโยง ใบรองปกหนังสือ นอกจากจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับชื่อหนังสือในกรณีที่ปกหลุดเสียหายแล้ว จะเป็นศิลปะของการอารัมภบทให้ผู้อ่านได้ความหมายการเข้าสู่เรื่องด้วยท่าทีสบายๆ
คนทำหนังสือและบรรณาธิการพิถีพิถัน รวมทั้งนักอ่านหนังสือที่เข้าถึงการอ่านและซาบซึ้งศิลปะของการทำหนังสือ จะให้ความสำคัญกับการจัดเล่มหนังสือในส่วนที่เป็นองค์ประกอบเหล่านี้เหมือนกับเป็นภาพสะท้อนความเป็นเนื้อหาและจิตวิญญาณของหนังสือเล่มนั้นๆทั้งเล่มเลยทีเดียว เห็นแล้วก็จะสื่อถึงบุคลิกของกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องและความเป็นทั้งหมดที่ถ่ายทอดอยู่ในเนื้อหาของหนังสือ
เพื่อลดการกวาดสายตาและช่วยให้ผู้อ่านเคลื่อนไหวสายตาแต่น้อยแต่ได้สัมผัสกับเรื่องราวในหนังสือด้วยมุมการมองที่เพิ่มเวลาการสัมผัสให้จิตใจนิ่งมากขึ้น หนังสือ'ดังลมหายใจ'นี้ จึงเลือกขนาด เอ๕
นอกจากนี้ หมึกพิมพ์และพื้นกระดาษขาวมาก จะมีน้ำหนักการตัดกันที่เข้มข้น ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเห็น(Legibility) แต่เมื่ออ่านอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดความล้าทางสายตา การเลือกกระดาษถนอมสายตาจึงช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวนี้
หัวเรื่อง ตัวโปรย ภาพประกอบ ตัวเนื้อ ชื่อหนังสือและเลขหน้า การเลือกแบบตัวอักษรหรือฟ้อนต์ที่กลมกลืนกันจะช่วยให้ผู้อ่านรู้ความเป็นหัวข้อและส่วนเนื้อหา ขณะเดียวกันก็ให้ภาษาความเป็นชุดเดียวกันของหัวเรื่องและตัวพื้น ภาพประกอบและตัวโปรยนั้น ในขั้นก่อนอ่านก็จะมีบทบาทในการเปิดเรื่องหรือให้มุมมองหลักของผู้เขียน แต่หลังจากการอ่านแล้วก็จะเป็นเครื่องมือช่วยสรุปแก่นความคิดให้กับผู้อ่านซึ่งอาจจะเหมือนและแตกต่างกับผู้เขียนก็ได้
หน้าหนังสือและชื่อหนังสือที่มีอยู่ทุกหน้าของหนังสือนั้น นอกจากบอกปริมาณและความคืบหน้าของการอ่านแล้ว เราสามารถทำให้เป็นตัวเชื่อมองค์ประกอบต่างๆในหน้าหนังสือกับเล่มหนังสือให้อยู่ด้วยกันไปตลอดเวลา อ่านไปทุกหน้าก็จะตระหนักรู้ประเด็นความคิดหลักจากชื่อหนังสืออยู่ตลอดเวลา
การปิดท้ายเรื่องย่อยในเล่มหนังสือ หากตอนจบของเนื้อเรื่องอยู่บนหน้าสุดท้ายแต่ไม่เต็มหน้า ซึ่งทำให้เกิดที่ว่างและภาษาหนังสือเรียกว่าทำให้ไม่ได้อารมณ์สอดคล้องกับความเป็นตอนจบ คนทำหนังสือก็สามารถประดิษฐ์ลูกเล่นและสร้างศิลปะการทำหนังสือไว้สำหรับแก้ปัญหานี้โดยทำเครื่องหมายการจบ
แต่บางครั้ง การเหลือพื้นที่ว่างในหน้าสุดท้ายอาจเกิดขึ้นในบางเรื่องย่อยเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วเจ้าของและคนทำหนังสือก็มักจะหารูปมาใส่ แต่ในหนังสือดังลมหายใจนี้บรรณาธิการและทีมกองบรรณาธิการใส่ลูกเล่นโดยดึงเอาภาพซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาในเล่มอยู่แล้วมาทำภาพตอนจบและแก้ปัญหาการเหลือหน้ากระดาษว่างด้วยเทคนิคการเจาะเอาแต่ภาพออกมาด้วยเทคนิคกราฟิคคอมพิวเตอร์
เทคนิคอย่างนี้จำเป็นต้องใช้ความสามารถหลายยอย่างผสมกัน ทั้งการบรรณาธิกร การทำอาร์ตเวิร์คและศิลปะการจัดหน้าหนังสือ และคอมพิวเตอร์กราฟิค สะท้อนให้เห็นขีดความสามารถที่จำเป็นของการจัดการความรู้อย่างผสมผสานในบริบทใหม่ของโลกวิทยาการและเทคโนโลยี
การเขียนบล๊อกแล้วดึงออกมาทำหนังสือ และการเขียนบันทึกเพื่อดึงออกมาเขียนหนังสือ เป็นวิธีหนึ่งของการลดช่องว่างทางการเข้าถึงข่าวสารและความรู้ของสังคม ขณะเดียวกันก็เป็นศิลปะของการจัดการความรู้เพื่อส่งเสริมพลังการอ่าน มากเป็นอย่างยิ่ง.
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีครับน้องคุณครูอ้อยเล็ก
เป็นการเอาฤกษ์เอาชัยเลยนะครับ เป็นการเริ่มต้นในปีใหม่กับการงานและหน้าที่ในเงื่อนไขแวดล้อมใหม่ๆ ความท้าทายใหม่ๆ เนื้อหาชีวิตกับกลุ่มเพื่อนร่วมงานกลุ่มใหม่ๆ ลูกศิษย์และกิจกรรมการเรียนการสอนในอีกบรรยากาศ
สำหรับสังคมไทยแล้ว โรงเรียนกีฬาของเทศบาลนครปฐม เป็นรูปแบบการศึกษาที่มีแนวคิดการคัดเลือกผู้เรียน รวมทั้งการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งให้ผู้เรียนค้นพบและเข้าถึงศักยภาพสูงสุดบนความถนัดเฉพาะด้านของตนเองด้วยวิธีคิดใหม่ๆ จะมีความแตกต่างจากการศึกษาที่ดำเนินการอยู่ทั่วไป ดังนั้น จึงจัดว่าเป็นนวัตกรรมทางการศึกษานะครับ เชื่อว่ามีความน่าท้าทายให้เรียนรู้อยู่มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์ประกอบเชิงระบบและโครงสร้างในความเป็นการศึกษาที่ดำเนินการโดยเทศบาล ซึ่งเป็นองค์กรบริหารความเป็นสาธารณะของท้องถิ่น
ทุกอย่างคงจะมีความเป็นตัวของตัวเอง สามารถคิดริเริ่มและพัฒนาความสร้างสรรค์ได้ในทุกมิติ ทั้งในเรื่องการจัดกระบวนการเรียนการสอน การจัดสภาพแวดล้อมและทรัพยากรการเรียนรู้ สื่อและเทคโนโลยีการศึกษา-การบริหารการศึกษา การสอนและบทบาทของครู การจัดกิจกรรมเสริม กิจกรรมสร้างสรรค์และการพัฒนาความเป็นมนุษย์ขอผู้เรียน รวมไปจนถึงการประเมินผล การวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการจัดการความรู้ ที่ผสมผสานไปกับภาคปฏิบัติต่างๆ น่าจะนำมาใช้ได้เยอะ และน้องคุณครูอ้อยเล็กก็มีทุนประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้เยอะแยะเลยนะครับ
เป็นการเริ่มต้นที่พัฒนาไปกับประสบการณ์ที่เพิ่มพูนมากขึ้น ได้เรียนรู้สิ่งใหม่และได้ทำงานที่เหมาะสมกับประสบการณ์มากยิ่งๆขึ้นนะครับ ขอให้มีความสำเร็จทุกประการเลยฯ
..สวัสดีตอนเช้าอีกครั้งหนึ่งค่ะพี่อาจารย์ เป็นโรงเรียนทางเลือกอีกรูปแบบหนึ่งที่มองเห็นอย่างเช่นพี่อาจารย์และท่านผอ.โรงเรียนผอ.ระวี ปราถน์วิทยาและรองฝ่ายวิชาการฯรองรัชนี วรรณศิริ ทั้ง 2 ท่านก็พยามต่อสู้เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และมาตรฐานของโรงเรียนตนเองให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เพื่อที่จะแยกออกจากมาตรฐานการศึกษาในระบบออกจาก 5 โรงเรียน ในส่วนของเทศบาล ก็จะมีโรงเรียนแบบการศึกษาขั้นพื้นฐานเต็มรูปแบบ 6 โรง(โดยในส่วนนี้มีมัธยมศึกษาตอนปลาย 1 โรงคือโรงเรียนมัธยมศึกษาทวารวดี) โรงเรียนกีฬา 1 โรง อาชีวศึกษา 1 โรง มหาลัยชีวิต 1 มหาลัย
สวัสดีปีใหม่สงกรานต์คุณครูคิมครับ
ด้วยความยินดียิ่งครับ แล้วจะส่งมาสวัสดีปีใหม่สงกรานต์กับคุณครูคิมโดยเร็วเชียว รวมทั้งผมได้ขอให้บรรณาธิการและทีมกองบรรณาธิการช่วยทำให้เป็น e-Book ด้วยครับ หากเตรียมเสร็จแล้วก็คิดว่าจะแขวนทั้งเล่มไว้ให้ผู้สนใจอ่านและหาแนวคิดได้จากหนังสือออนไลน์เลย
เรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์ของคุณครูคิม รวมทั้งจากคุณครูอ้อยเล็กนี่นอกจากน่าดึงออกมาทำหนังสือแล้ว ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นสำหรับพัฒนาการเรียนรู้ของสังคมมากเลยนะครับ ความมีจิตสาธารณะภาคปฏิบัติในสภาวการณ์ของสังคมปัจจุบัน กับจิตวิญญาณความเป็นนักกีฬา เหล่านี้ เชื่อว่าเป็นวิชาความเป็นพลเมืองและเป็นองค์ประกอบการพัฒนาปัจเจกภาพ ที่จำเป็นและสำคัญอย่างมากสำหรับสังคมไทยหลังวิกฤติการแบ่งขั้วทางความคิด ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็เป็นการปฏิบัติความมีจิตสาธารณะและการแสดงออกเพื่อสร้างความเป็นส่วนรวมร่วมกันอย่างหนึ่งของผู้คน ทว่า วิธีคิดและการปฏิบัติความมีจิตสาธารณะอย่างที่เห็นและเป็นอยู่นั้น มีความจำกัดมากแล้วครับ
เรียนรู้จากเด็กๆคนรุ่นอนาคตของคุณครูคิมแล้วถ่ายทอดออกมาให้สังคมได้เห็นทางเลือกใหม่ๆ น่าจะเป็นความริเริ่มที่ดีครับ มีความสุขในวันสงกรานต์ครับ
สวัสดีครับคุณ nui ครับ
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ อ.วิรัตน์
ใบไม้ฯ ได้ยินข่าวคราวเรื่องการทำหนังสือเล่มนี้ล่าสุดจากคุณณัฐพัชร์ มาทราบอีกครั้งเสร็จสมบูรณ์แล้วจากบันทึกนี้ พร้อมความอิ่มเอมใจจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
เป็นของขวัญวันสงกรานต์ที่เยี่ยมมากเลยค่ะ
เมื่อวานใบไม้ฯ ไปช่วยถอดบทเรียนให้โครงการคุณธรรม... ได้พบเด็กนักเรียนและครูมากมายที่ร่วมกันทำงานจิตอาสาดี ๆ ในโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง ต้องบอกว่า ยังมีหวังค่ะ
หรืออย่างน้อยก็เรื่องงดงามมากมายเกิดขึ้นจากเรี่ยวแรงและน้ำใจของคนในโรงเรียนและชุมชนนั้น ๆ เอง ...^__^...
สวัสดีค่ะอาจารย์วิรัตน์ ในวันสุดท้ายของวันหยุดยาวๆ กับความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก่อนกลับมาเริ่มเคร่งเครียดกับงานต่อไป ..
แวะมาแสดงความยินดี กับหนังสืออีก ดังลมหายใจ เล่มที่ก่อเกิดมาจากความรักที่มีต่อแม่ ครอบครัว ชุมชน มาแบ่งปันเรื่องราวเสมือนธรรมทานแก่กัลยาณมิตร ต่อยอดเป็นทุนทางสังคม และปัญญากันต่อไป ..
เป็นหนังสือที่สวย และมีคุณค่าทางจิตใจมากๆ ค่ะ ...
สวัสดีค่ะ
สวัสดีอีกเช่นกันครับน้องคุณครูอ้อยเล็ก
หากมีโอกาสจะไปเยี่ยมชมครับ น้องคุณครูอ้อยเล็กมีโอกาสดี เมื่อก่อนนี้ในระดับประเทศนี่มีองค์กรท้องถิ่นที่เป็นเทศบาลนครอยู่ไม่ถึง ๑๐ แห่ง พอหลังปี ๒๕๔๒ ก็มีเพียง ๒๖ แห่ง หากไม่นับกรุงเทพมหานครกับเมืองพัทยา ก็มีเพียง ๒๔ แห่ง ความเป็นเทศบาลนครนี้ ทั้งโดยแนวคิดและกรอบสำหรับการปฏิบัติต่างๆนั้น จัดว่าเป็นคณะรัฐบาลที่รับผิดชอบท้องถิ่นเลยทีเดียว คงทำอะไรได้เยอะนะครับ
อันที่จริงนั้น ในสังคมไทยนี่หากจะปฏิรูปและกระจายการพัฒนาประเทศให้ทั่วถึง-ยุติธรรม นอกจากต้องมุ่งพัฒนาท้องถิ่นแล้ว เริ่มที่การพัฒนาการศึกษาของท้องถิ่นทั้งในและนอกระบบนี่แหละ จะเป็นยุทธศาสตร์ที่เป็นหัวหอกนำไปสู่การปฏิรูปทางด้านต่างๆตามมาได้แน่นอน
อยากแนะนำแหล่งวิทยาการในเรื่องนี้ซึ่งอยู่ใกล้มากให้ด้วยนะครับ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และวิทยาเขตทับแก้วนั่นแหละครับ มีนักวิชาการและนักบริหารที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้มากที่สุดในประเทศคนหนึ่ง คือ อาจารย์ ดร.อุทัย ดุลยเกษม อธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
(๑) ท่านเป็นผู้บริหารของสถาบันอุดมศึกษาที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับหน่วยงานใหม่ของน้องคุณครูอ้อยเล็ก และมหาวิทยาลัยศิลปากรนั้น ก็มีนักวิจัยและคนทำงานชุมชน ที่เล่นเรื่องท้องถิ่นกับชุมชนมือดีๆเยอะครับ
(๒) อาจารย์เป็นผู้ให้ความสำคัญต่อบทบาทของท้องถิ่นโดยเฉพาะทางด้านการศึกษามากที่สุดท่านหนึ่ง ทั้งผ่านการวิจัย งานวิชาการ การสอน และการแสดงทรรศนะวิพากษ์ต่อประเด็นสาธารณะของสังคม
(๓) อาจารย์ศึกษามาจากหลายด้าน รวมทั้งมีพื้นทางพลศึกษา การศึกษา สังคมวิทยาเมืองและชนบท แนวคิดและแนวการทำงานด้านการศึกษาที่บูรณาการกับการปฏิบัติการเชิงสังคมนั้นอาจารย์แม่นและลึกซึ้งครับ
(๔) ในแวดวงการวิจัยและวงวิชาการ เป็นที่ยอมรับว่าท่านเป็นนักวิธีวิทยาที่เข้มแข็งมากที่สุดท่านหนึ่ง การมองความเป็นท้องถิ่นในแง่วิธีคิดและเป็นวิธีวิทยาของการพัฒนาสังคมในกระบวนทรรศน์ใหม่ๆนั้น อาจารย์มองได้ไม่เหมือนใคร
(๕) ในมุมมองผม อาจารย์เป็นคนที่มี Community-Based Approach ในงานทางความรู้และงานวิจัย ที่เหมาะกับประเทศไทยและประเทศกำลังพัฒนามากที่สุดท่านหนึ่ง
เป็นการให้กำลังใจกันอย่างหนึ่งน่ะครับ
สวัสดีครับคุณใบไม้ย้อนแสงครับ
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
สวัสดีครับคุณครูคิมครับ
อยากได้หนังสือเร็ว ๆ แล้วสิคะ เพราะว่าจะเป็นแนวทางสำหรับงานเขียนความรู้จิตตปัญญาชุมชนกับบทเรียนของคนพุทธมณฑล...
ว่าแต่จะได้คนเขียนภาพประกอบคนเดียวกับ "ดังลมหายใจ" ไหมคะ :P
ภาพ Drawing ป่าข้างทางรถไฟสวยจังค่ะ
อีกไม่นานนัก คงได้ปรึกษาอาจารย์ค่ะ..^__^..
ลิ๊งก์บันทึก ป่าสักริมทางขุนตาน มาฝากใบไม้ฯ อาจารย์ณัฐพัชร์ และหมู่มิตรทุกท่านด้วยนะครับ เพื่อได้อารมณ์ผ่อนคลายจากการเดินทางด้วยกันครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์
ขอบคุณค่ะสำหรับภาพลายเส้น ป่าสักริมทางรถไฟขุนตาล สวยเหมือนเดิมนะค่ะ ทำให้จินตนาการถึงแสงยามเช้าที่ส่องรอดมาตามต้นสักแต่ละต้น ถึงแม้จะเป็นสักหน้าแล้ง แต่จับฟิลด์ยามเช้า ได้ความสุนทรีย์ เหมาะแก่การตื่น(ฟื้น)ตัวเพื่อรับวันใหม่ ทำให้กายใจเฟรชได้ในทันทีค่ะ .. เคยได้สัมผัสบรรยากาศยามนั้นมาแล้วค่ะ ได้ฟิลด์ดีจริงๆ ค่ะ
เชื่อค่ะว่าทุกบล๊อค ทุกบันทึก ร่วมทั้งหนังสือของอาจารย์ ไม่ว่าจะ วิถีประชาศึกษา และเล่มล่าสุด ดังลมหายใจ จะเป็นตัวจุดประกาย เป็นแนวทางการทำงานในลักษณะนี้ให้ใครต่อใครอีกเยอะแยะมากมายค่ะ ... ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการทำหนังสือของอาจารย์อีกครั้งค่ะ
งั้นฝากลิงค์บันทึก โลกเรานั้นไม่เท่ากัน ... แต่ยังมีรอยยิ้มให้กัน ให้อาจารย์อีกครั้งเผื่อว่าอาจารย์พอจะมีเวลาเข้าไปโพสใหม่อีกรอบค่ะ และหวังว่าข้อมูลจะไม่หายไปอีกค่ะ ช่วงนี้ gotoknow เป็นอะไรก็ไม่ทราบนะค่ะ ทางนี้ จะปรากฏหน้า gateway time over อะไรประมาณนี้บ่อยครั้งค่ะที่เปิด gotoknow ... ขอบคุณค่ะ
ขอให้น้องคุณครูอ้อยเล็กสนุก ได้เรียนรู้ และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับลูกศิษย์และกลุ่มเพื่อนร่วมงานอีกกลุ่มหนึ่งของโรงเรียนเทศบาลนครปฐมนะครับ
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ รูปนี้และอารมณ์ภาพ คงเป็นประสบการณ์ร่วมของคนเดินทาง โดยเฉพาะไปทางภาคเหนือ มากพอสมควรนะครับ คงได้ย้อนรำลึกบรรยากาศกับสัมผัสแรกที่ตื่นขึ้นมาในยามเช้าแล้วเห็นทิวทัศน์สองข้างทาง แต่เดิมก็คงจะเห็นความสวยงามน่ารื่นรมย์ก็แต่ในหน้าฝนและต้นหน้าหนาว ไม่ค่อยได้สังเกตว่าหน้าร้อนและหน้าแล้งก็เห็นลีลาของแสงที่ลอดตามทิวป่ากับเงาที่ทอดยาวเป็นเส้นนำสายตา วิบวับไปตลอดทาง ว่าให้ความตื่นตัวและสดใสในยามเช้าได้อย่างมากด้วยเหมือนกัน หายเมื่อยล้าและหายมึนศีรษะได้เลยทีเดียวครับ
อาจารย์วิรัตน์ค่ะ : มันเป็นภาพที่ติดตามากๆ ค่ะ (ป่าสักริมทางรถไฟขุนตาล) ผสมกับความตื่นเต้น และความเศร้าใจ เพราะถือว่าเป็นการนั่งรถไฟขึ้นเหนือเป็นครั้งแรก หลังจากลาออกจากที่ทำงานที่เราทำงานมานาน ๑๐ ปี คือ สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล และไปเริ่มงานใหม่ ก่อนที่จะเตรียมตัวเรียนหนังสือต่อไป และเป็นการห่างครอบครัวไปนานถึง ๖ เดือนเพื่อไปทำงานวิจัยร่วมกับนักศึกษาระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยเบิร์กเลย์ สหรัฐอเมริกา ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ (โรงพยาบาลสวนดอก) ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ค่ะ..
ด้านหนึ่งก็เป็นประสบการณ์ใหม่จากการทำวิจัยในอีกที่หนึ่งที่เพิ่งเคยไปและให้ความประทับใจจากสัมผัสแรก อีกด้านหนึ่งก็เป็นการอำลาจากที่ทำงานเก่าออกไปเผชิญชีวิตที่เป็นตัวของตัวเองอีกรอบ ดีจังเลยนะครับ ได้เติบโตทางประสบการณ์ไปกับการได้ใช้ชีวิตดีครับ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับคุณครูคิมครับ
อาจารย์วิรัตน์ ครับ... สวัสดี ครับ
ทุกครั้งที่ผมเข้ามาอ่านบันทึกของอาจารย์ ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอ...และความรู้สึกที่อาจารย์มอบไว้ในบันทึกเสมอ
เพียงแค่ชื่อ..ก็อยากเก็บไว้เป็นผู้ครอบครองแล้ว ครับ
...แม้นผมจะไม่มี...แต่ผมได้แสดงเจตจำนงค์แล้ว ครับ ที่นี่ BLoG ดังลมหายใจ
ระลึกถึงอาจารย์ ครับ
ฝากภาพของแม่..ที่เลี้ยงดูลูกทั้งหกคน ให้อาจารย์ไว้เป็นที่ระลึก
ถ่ายที่สวนสามพราน เมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว
แม่คือ...ลมหายใจ
สวัสดีครับคุณแสงแห่งความดีครับ
สวัสดีครับ แปลงทุนชีวิตครอบครัวให้เป็นการเรียนรู้ชุมชนและสังคม
ขอบคุณครับ
กราบขอบพระคุณ อาจารย์ มากนะครับ
รู้สึกถึงความกรุณาที่อาจาจย์มีให้ ครับ
รักและเคารพ
สวัสดีครับคุณเดชาครับ ขอให้ความคิดถึงถิ่นฐานบ้านเกิดและความมุ่งมั่นที่จะกลับไปอยู่บ้าน ประสบความสำเร็จดังใจหวังโดยเร็วนะครับ แต่ถึงแม้จะยังไม่ได้กลับ หรือในที่สุดก็กลับไปไม่ได้ เพราะในความเป็นจริงนั้น คนเราไม่ได้ตัวเปล่าๆ ใช่จะผละไปไหนมาไหนได้อย่างใจชอบง่ายๆ แต่ก็ขอให้มีความสุขและได้ใช้ชีวิตอยู่เสมอในทุกที่นะครับ
สวัสดีคุณแสงแห่งความดีครับ อาทิตย์หน้าคงจะได้ส่งหนังสือให้คุณแสงแห่งความดีนะครับ ขอให้มีความสุขครับ
คุณแสงแห่งความดีครับ จะให้น้องๆเขาส่งหนังสือให้คุณแสงแห่งความดีแน่ะครับ แต่เขาบอกว่าหาที่อยู่เพื่อส่งทางไปรษณีย์ให้ยังไม่ได้ หากเขาติดต่อมากัน รบกวนคุณแสงแห่งความดีให้ที่อยู่ทางอีเมล์ได้เลยนะครับ มีความสุขครับ.
สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
ขอบคุณอาจารย์มากอย่างยิ่งครับ รวมทั้งขอบคุณไปถึงคุณมะปรางเปรี้ยวและคุณแสงแห่งความดีด้วยครับ จำเพาะคุณมะปรางเปรี้ยวนั้น ผมทั้งขอส่งกำลังใจและขอชื่นชมในความสามารถเป็นผู้รับผิดชอบและบริหารจัดการการประชุมด้วยครับ ถึงแม้ GotoKnow Forum ครั้งที่ 2 จะไม่สามารถจัดได้ก็ตาม
ขอบคุณสำหรับหนังสือที่มีค่ามากมายเล่มนี้ค่ะ
เป็นหนังสือที่ตรงใจพี่เล็กสุด ๆ
อ่านไปก้อเห็นภาพไปทุกวรรคทุกตอน
แล้วก้อทำให้เราย้อนคิดถึงตัวเราตอนเด็ก ๆ เหมือนกัน
เชื่อเปล่า? อ่านทุกตัวอักษรตั้งแต่ปกหน้าถึงปกหลังเลย ทั้งเล่มมีพิมพ์ผิดตัวเดียวเอง คนตรวจปรู๊ฟเก่งจริง ๆ (บรรทัดที่สี่จากข้างล่าง คำว่าฉัน ที่หมายถึงกินในภาษาพระ ถ้าจำไม่ผิดจะไม่มี ท์ นะคะ คำว่า "ฉันท์" นั้นน่าจะใช้กับเอกฉันท์ค่ะ) ถ้ายังงได่ยวรอครูภาษาไทยมาบอกละกัน พยาบาลไม่ค่อยชำนาญ อิ อิ)
ขออภัยอีกทีที่ต้องรบกวนขอลายเซ็น เพราะมันมีความหมายที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับคนที่ศรัทธา (วัตถุนิยมเกินไปนิดนึงนะ แต่มันคือความสุขน่ะ 5 5 5)
ขอบพระคุณครับพี่เล็ก
พี่เล็กนี่ทั้งเป็นยอดนักอ่านเพื่อศึกษาอบรมตนเอง
และเป็นคนให้กำลังใจกันมากเลยนะครับ
ผู้อ่านอย่างพี่เล็กนี่ ผู้เขียนก็อยากให้เพื่อเป็นการคารวะมากเลยครับ
เพื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของมุมพักผ่อน เป็นการร่วมสร้างสุขภาวะ
ให้คนทำงานหนักและทำงานเพื่อดูแลคนอื่นๆ ได้มีสิ่งหย่อนใจบ้าง
บรรณาธิการและทีมน้องๆผมทราบคำชื่นชมของพี่เล็กแล้ว
ถึงกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยครับ เพราะผมอดเผลอบ่นเอาไม่ได้
ว่าพิสูจน์อักษร จัดบรรทัดและจัดหน้า หลุดไปหลายแห่ง
รวมทั้งบางที่ก็ช่วยแก้ไขให้ ซึ่งก็น่าจะดี แต่ก็โดนบ่นอีก
เพราะไปแก้ไขตรงที่เขียนถูกให้เป็นผิด
พอผมถ่ายทอดให้ทราบว่าพี่เล็กชม เขาก็เลยดูภูมิใจกันน่าดู
แต่ก็มีความสวยงามในความเป็นศิลปะของหนังสือมากครับ
Healthy Community Learning by Blog to Book
หนังสือและการอ่าน
กับบทบาทต่อการส่งเสริมการพูดคุย เรียนรู้ และรวบรวมข้อมูลชุมชน
วรรณดี นามสกุลเดิม เกษาแสง ลูกของน้าปรีชา เกษาแสง น้าชายของผมเอง เธอเป็นพนักงานของโรงพยาบาลกรุงเทพ อ่านพบเรื่องการเป็นหมอตำแย การทำคลอด และวัฒนธรรมแม่ซื้อ ของแม่ใหญ่หนู เลยส่งข้อมูลให้รายละเอียดเพิ่มให้ว่า แม่ของเธอเล่าให้ฟังว่า เธอเป็นหลานคนสุดท้ายที่ได้คลอดโดยการทำคลอดของแม่ใหญ่หนู
ดึงประสบการณ์ทางสังคมมาเรียนรู้ใหม่
ให้ง่ายและมีความบันดาลใจต่อชีวิต
ผมได้เสียงสะท้อนที่มีแง่มุมให้การเรียนรู้ตนเองด้วยและเป็นประสบการณ์สนุกด้วยเหมือนได้รางวัลให้มีความสุขจากกิจกรรมที่ทำเป็นรายวัน ซึ่งสืบเนื่องจากหนังสือ ดังลมหายใจ
พี่ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นภารโรงต่างหน่วยงาน แกเป็นคนบ้านนอก พื้นเพเป็นชาวนา เข้ากรุงเทพฯและทำงานกับสามีอดีตทหารเกณฑ์ซึ่งทำงานเป็นช่างประปาและรับจ้างสารพัด ช่วยกันดำเนินชีวิตด้วยสัมมาอาชีวะอย่างขันแข็ง กระทั่งส่งลูกสองคนของตนจบมหาวิทยาลัยได้การงานเป็นหลักเป็นฐาน แกได้หนังสือผมไปอ่านทั้งที่ไม่ชอบอ่านหนังสือมาก่อน อ่านแล้วก็บอกว่าบางเรื่องน้ำตาไหลเพราะคิดถึงบ้านและชีวิตเมื่ออยู่บ้านนอก ซึ่งหมายความว่าเป็นการร้องไห้ด้วยความสุขและตื้นตันในชีวิตตนเอง
อาจารย์ที่ผมรักและเคารพรักมากท่านหนึ่ง ท่านอ่านแล้วบอกว่าอ่านยังไม่ทันอิ่มเลยเพราะสนุก เลยนำไปให้คุณแม่ซึ่งอายุกว่า ๘๐ ปี พื้นฐานเป็นชาวสวนและเป็นคนชนบท ท่านบอกว่าคุณแม่ของท่านนอนอ่านอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแล้วนำเอาเรื่องในหนังสือมาคุยกับท่าน รำลึกเทียบเคียงกับเมื่อครั้งสร้างครอบครัวและเลี้ยงดูอาจารย์เมื่อตอนอยู่ชนบท ท่านบอกว่าคุณแม่มีเรื่องราวคุยกับท่านด้วยความสุขมากมาย
อาจารย์อีกท่านหนึ่ง อดีตเป็นคณบดี เป็นนักวิจัยมือดี และเป็นนักวิชาการแนวเคลื่อนไหวสิทธิสตรี บอกว่าอ่านสบายและเพลินดี ที่ประทับใจและได้กำลังใจมากก็คือ ผมได้นำหนังสือไปกราบคารวะ ศาสตราจารย์ ดร.เบญจา ยอดดำเนิน แอ็ดติก ซึ่งเป็นครูการวิจัยในเชิงคุณภาพแถวหน้าท่านหนึ่งของประเทศ นอกจากเป็นชาวมหิดลรุ่นใหญ่แล้ว ผมถือเป็นครูท่านหนึ่งของผมทั้งโดยตรงและผ่านการทำงานด้วย ท่านบอกว่าน่าอ่านและรูปวาดช่วยให้อ่านได้เพลิดเพลิน อีกทั้งให้เสียงสะท้อนว่าเป็นแนวทางที่ผมควรจะพัฒนาต่อไป ท่าน ดร.โยธิน แสวงดี แห่งสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ก็บอกว่าเป็นหนังสือที่สวย
วันนี้อีกเช่นกัน พี่คนหนึ่ง เป็นนักการภารโรง แต่เป็นนักอ่านหนังสือ อีกทั้งเป็นคนทำงานเก่งรอบตัวและทำงานได้เกินตัวเพราะเป็นคนเรียนรู้ ทุ่มเท มีอุดมคติในการทำงาน กระทั่งได้คัดเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นระดับประเทศก่อนที่จะเกษียณในปีนี้ แกเป็นคนสมุทรสงครามซึ่งเมื่อกว่า ๕๐ ปีที่แล้วนั้นจัดว่าเป็นบ้านนอก แกหนีออกจากบ้านมาเมื่อตอนอายุยังไม่ถึง ๒๐ ปีเพราะอยากเรียนหนังสือและทำงานในกรุงเทพฯ แต่ก็เรียนได้แค่ประถมปลายและเพิ่งจะเรียนจบมัธยมเมื่อเกือบเกษียณ แต่แกไม่เคยหยุดเรียน
แกเขียนบันทึกและผมขออ่าน แล้วผมก็พบว่าแกเป็นคนเขียนหนังสือดีอย่างกับคนจบมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว ยิ่งวิธีคิดและมุมมองที่สะท้อนในการเขียนแล้วก็ยิ่งแหลมคม ลึกซึ้ง ผมชอบแกและอยากบอกว่าผมเคารพการดำเนินชีวิตของแกมากเลยย่องเอาหนังสือไปมอบให้บนโต๊ะของแก แกอ่านแล้วและออกปากว่าชอบ อ่านง่ายสำหรับแก ตรงกับชีวิตของแก ทำให้เป็นโอกาสได้คิดถึงความเป็นมาของตนเอง มีความสุข แล้วก็บอกว่าจะเอาไปให้แม่อ่าน แกบอกว่ามันมีทั้งรูปให้ดูและอ่านง่าย
*ขอบคุณเรื่องเล่าดีๆน่าประทับใจสะท้อนสายสัมพันธ์ที่อบอุ่นของครอบครัว "คำศรีจันทร์" ค่ะ..
*พี่ใหญ่มารายงานตัวว่า เพิ่งสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม "ดังลมหายใจ" ที่ คุณแสงแห่งความดี เสนอไว้ในกิจกรรมของน้องมะปราง ค่ะ :
http://gotoknow.org/blog/pr4u/431557
*พี่ใหญ่ขอนำบันทึก "มรดกล้ำค่าจากพ่อ" มา link เข้ากลุ่มนี้ ด้วยค่ะ:
เลยขอแวะเข้าไปอ่านและชมภาพเรื่องราวงดงามในครอบครัวพ่อแม่พี่น้องของพี่ใหญ่ ได้ทั้งความสุขความชื่นใจ และได้หลักชีวิตไปด้วยมากมายเลยละครับ ทั้งของพี่ใหญ่ หนังสือดังลมหายใจของผม และเรื่องราวของแม่กับลูกๆและน้องๆของคุณแสงแห่งความดี เลยเป็นเรื่องราวที่มีโทนร่วมกันไปโดยไม่ได้นัดหมายเลยนะครับ คือ เป็นเรื่องราวของพ่อแม่ ครอบครัว ญาติพี่น้อง และคนรอบข้าง
ขอบคุณท่านอ.มากค่ะ
บันทึกดังลมหายใจพลอยทำให้เกิดความสุขขึ้นมาเงียบๆ
เป็นความสุขสงบที่ได้มีชีวตท่ามกลางพี่น้อง
มีพี่ๆคอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแม่ในยามที่แม่มีธุระจำเป็นต้องไปนอกบ้าน
พี่เองมีโอกาสทบทวนเรื่องราวในอดีตก็ต่อเมื่อพี่น้องได้มาเจอกัน
แต่ก็หาโอกาสพร้อมแบบครบองค์ประชุมนั้นก็ยากมาก
ท่านอ.เปิดบันทึกดังลมหายใจ พลอยให้ได้มีส่วนร่วมคิดไปด้วย
รู้สึกถึงคุณค่ามหาศษลที่มีผลต่อจิตใจ สภาพสังคมไทยเรานั้น
น้อยคนที่จะสะท้อนให้เห็น พร้อมสร้างสุขให้ผู้อ่านได้สัมผัสไปพร้อมๆกัน
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีครับพี่ครูต้อยติ่งครับ
มีความสุขในวันแม่นะครับ
ด้วยความรำลึกถึงครับผม
พี่ใหญ่และทุกท่านครับ
หนังสือ 'ดังลมหายใจ' นี้ กำลังเตรียมทำบรรณาธิกรเพื่อพิมพ์ครั้งที่ ๒ ครับ จะเขียนเพิ่มและนำเนื้อหาในบล๊อกอีกส่วนหนึ่งเพิ่มเข้ามาในเล่มพิมพ์ครั้งที่ ๒ ตรงส่วนที่จะเขียนเพิ่มนี้จะเป็นบทที่ว่าด้วยการศึกษาเรื่องราวบุคคลให้เป็นงาน Auto-Ethnograph เอาไว้เป็นตัวอย่างการทำงานวิจัยอีกแบบหนึ่งที่เริ่มจากการทำกรณีศึกษา และการเริ่มออกจากสิ่งที่ใกล้ตัวหรือจากวิถีชีวิตของตนเอง , อีกส่วนหนึ่งคือการวิเคราะห์และสะท้อนคิดจากผู้อื่น ซึ่งได้ตัวอย่างพอดีจากพี่ใหญ่และกลุ่มที่ทดลองนำเรื่องราวของหนังสือดังลมหายใจนี้มาศึกษา เลยจะขออนุญาตไว้ด้วยนะครับ